การเจริญเติบโตและการพัฒนาของทารก 1 เดือน
ไข่ที่ได้รับการปฏิสนธิแล้ว 5-7 วันจะฝังตัวที่ผนังมดลูก[uterus]ไข่เจริญอย่างรวดเร็วเรียกตัวอ่อน [embryo] ซึ่งจะมีการสร้าง รก[ placenta] และสายสะดือ umbilical cord ] เพื่อเป็นทางนำอาหารจากแม่สู่ลูกและขับของเสียจากลูกสู่แม่ เด็กจะอยู่ในถุงน้ำเรียก amniotic sac ซึ่งป้องกันแรงเด็กจากการกระแทก
สัปดาห์ที่2-3 จะมีการสร้างประสาทไขสันหลังและกระดูกสันหลังรวมทั้งเส้นประสาท เมือเวลาผ่านไป 6 สัปดาห์เด็กจะมีหัวและลำตัว
สัปดาห์ที่ 5 เซลล์จะแบ่งเป็น 3 ชั้นได้แก่
ชั้นนอก ectoderm ซึ่งจะสร้าง สมอง เส้นประสาท และผิวหนัง
ชั้นกลาง mesoderm ซึ่งจะกลายเป็นกล้ามเนื้อ กระดูก เส้นเลือด หัวใจและอวัยวะเพศ
ชั้นใน endoderm ซึ่งจะกลายเป็นอวัยวะภายในเช่น ตับ หัวใจ กระเพาะ ปอด เป็นต้น
เริ่มมีการสร้างหัวใจ (5-6สัปดาห์หลังจากประจำเดือนครั้งสุดท้าย) ตาและแขน แต่ยังฟังเสียงหัวใจไม่ได้ สิ้นสุดสัปดาห์ที 6 เด็กจะมีขนาดครึ่งนิ้ว
การตรวจวินิจฉัย
เมื่อท่านเริ่มทราบว่าตั้งครรภ์และไปพบแพทย์ แพทย์จะตรวจวินิจฉัยดังนี้
ตรวจปัสสาวะทดสอบการตั้งครรภ์
ตรวจกลุ่มเลือด และหาความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด
ตรวจเลือดเพื่อหาดูว่ามีโรค ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบ บี หัดเยอรมัน
ตรวจปัสสาวะหาไข่ขาว น้ำตาล และการติดเชื้อแบคทีเรีย
ตรวจมะเร็งปากมดลูก
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย
ในระยะแรกของการตั้งครรภ์จะมีอาการอ่อนเพลีย ง่วงนอน ปัสสาวะบ่อย คลื่นไส้ อาเจียน แน่นท้อง ท้องอืด คัดเต้านม อารมณ์จะผันผวนเหมือนก่อนมีประจำเดือนอาการต่างๆจะเป็นมากน้อยในแต่ละคนจะไม่เหมือนกัน
การเปลี่ยนแปลงของพ่อบ้าน
จะมีการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ ทั้งดีใจ ตื่นเต้น ไม่มั่นใจว่าเด็กเกิดมาจะเลี้ยงเป็นหรือไม่ ใครเป็นเลี้ยง เป็นต้น คุณแม่ควรปรึกษากับพ่อบ้านในเรื่องต่างๆที่สงสัย
-----------
ประจำเดือนขาด
นับเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ชัดเจนที่สุด หากปกติแล้วประจำเดือนของคุณมักมาตรงเวลา
ควรลองทดสอบ การตั้งครรภ์ได้แล้ว
แพ้ท้อง สัญญาณบ่งบอกว่าคุณตั้งครรภ์
อาการแพ้ท้อง มักแตกต่างกันไปในแต่ละคน คุณแม่บางท่าน อาจมีอาการคลื่นไส้หรือรู้สึกไม่สบาย โดยมักจะเกิดขึ้นหลังจากตั้งครรภ์ได้สัก 2-3 สัปดาห์ แต่บางท่านก็มีอาการเพียงแค่ไม่กี่วันหลังตั้งครรภ์ ถ้าโชคดี คุณอาจไม่มีอาการแพ้ท้องเลยก็ได้ และการแพ้ท้องอาจเกิดขึ้นเวลาใดก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นช่วงเช้าเสมอไป
ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ถ้าคุณสังเกตเห็นว่าตัวเองเข้าห้องน้ำบ่อยขึ้น นี่อาจเป็นสัญญาณที่น่ายินดีว่าคุณกำลังเริ่มตั้งครรภ์แล้ว ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนในช่วง 3เดือนแรกจะทำให้คุณปวดปัสสาวะบ่อยกว่าปกติ
รู้สึกเหนื่อยง่ายหรือเปล่า
สัญญาณเริ่มต้นของการตั้งครรภ์ที่พบเห็นได้บ่อยอีกประการหนึ่งก็คือความ รู้สึกเหน็ดเหนื่อยหมดเรี่ยวแรง ซึ่งเป็นผลข้างเคียงจากการเพิ่มขึ้นของระดับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนในร่างกาย ดังนั้นหากคุณรู้สึกเหนื่อยง่ายโดยไม่มีสาเหตุลองตรวจสอบดูว่าเป็นเพราะคุณ กำลังตั้งครรภ์หรือเปล่า
รสชาติแปลกๆ ในปาก
คุณแม่บางท่านเล่าว่าครั้งแรกที่ตั้งครรภ์จะรู้สึกขมเฝื่อนหรือมีรสชาติ แปลกๆในปากขณะที่คุณแม่อีกหลายท่านก็รู้สึกเหม็นหรือทนไม่ได้กับอาหารหรือ เครื่องดื่มที่เคยทานอยู่ทุกวันเช่นชาหรือกาแฟ
การเปลี่ยนแปลงของเต้านม
ผิวหนังบริเวณรอบเต้านมหรือที่เรียกว่าลานนมจะมีสีคล้ำขึ้นและมีขนาดใหญ่ขึ้น
มีเลือดออกโดยไม่คาดคิดหรือเป็นตะคริว
ไข่ที่ปฏิสนธิแล้วจะเดินทางจากท่อนำไข่เพื่อไปฝังตัวที่ผนังมดลูกและรอ การเติบโต กระบวนการนี้เรียกว่า การฝังตัวของไข่ที่ผสมแล้ว และมักจะเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่ 3 และ 4 ซึ่งอาจส่งผลข้างเคียง เช่น การเป็นตะคริว และมีเลือดออกกะปริดกะปรอย โดยเลือดอาจมีสีแดงสด สีชมพู หรือสีน้ำตาล
ตรวจสอบให้แน่ใจด้วยการทดสอบการตั้งครรภ์
แน่นอนว่าหนทางเดียวที่จะแน่ใจว่าคุณตั้งครรภ์แล้วก็คือการทดสอบการตั้ง ครรภ์โดยผลทดสอบนับจากวันแรกที่ประจำเดือนขาดไปหากเป็นผลบวกก็มั่นใจได้ว่า ตั้งครรภ์แน่นอน