ดอกดาวเรือง การปลูกดาวเรือง ดอกดาวเรือง ชื่อวิทยาศาสตร์ วิธีปลูกดาวเรือง สมุนไพร กลุ่มยาแก้ปวดฟัน

กลุ่มยาแก้ปวดฟัน

ดาวเรือง

ชื่อวิทยาศาสตร์ :   Tagetes erecta  L.

ชื่อสามัญ :   African Marigold

วงศ์ :  Asteraceae

ชื่ออื่น :  คำปู้จู้หลวง (ภาคเหนือ) พอทู (กะเหรี่ยง-แม่ฮ่องสอน)

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ : ไม้ล้มลุก สูง 15-60 ซม. ลำต้นเป็นร่อง สีเขียว แตกกิ่งก้านที่โคน ใบ เป็นใบประกอบแบบขนนกปลายคี่ ออกเรียงตรงกันข้าม ใบย่อยมี 11-17 ใบ รูปรี กว้าง 0.5-1.5 ซม. ยาว 1.5- 5 ซม. ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบจักเป็นซี่ฟัน แผ่นใบสีเขียว เนื้อใบนิ่ม ดอก ออกเป็นช่อที่ปลายยอด ดอกสีเหลืองเข้ม ริ้วประดับสีเขียว เชื่อมติดกันเป็นรูประฆัง หุ้มโคนช่อดอก ดอกแบ่งออกเป็น 2 วง คือ ดอกวงนอก เป็นรูปลิ้น บานแผ่ออกปลายม้วนลง เป็นดอกไม่สมบูรณ์ ดอกวงในเป็นเหลอดเล็กอยู่ตรงกลาง ช่อดอกเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ก้านช่อดอกยาว ผล เป็นผลแห้งไม่แตก สีดำ ดอกแห้งติดกับผล
ส่วนที่ใช้ : ใบ และช่อดอก เก็บตอนฤดูร้อน และฤดูหนาว ตากแห้งเก็บไว้ใช้ หรืออาจใช้สด

สรรพคุณ :

• ใบ - รสชุ่มเย็น มีกลิ่นฉุน ใช้แก้ฝีฝักบัว ฝีพุพอง เด็กเป็นตานขโมย ตุ่มมีหนอง บวมอักเสบโดยไม่รู้สาเหตุ

• ช่อดอก - รสขม ฉุนเล็กน้อย ใช้กล่อมตับ ขับร้อน ละลายเสมหะ แก้เวียนศีรษะ ตาเจ็บ ไอหวัด ไอกรน หลอดลมอักเสบ เต้านมอักเสบ คามทูม เรียกเนื้อ ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และแก้ปวดฟัน

วิธีและปริมาณที่ใช้ :

• ช่อดอก 
  ใช้ภายใน - ใช้ช่อดอก 3- 10 กรัม ต้มน้ำดื่ม 
  ใช้ภายนอก - ช่อดอกต้มเอาน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น

• ใบ 
  ใช้ภายใน - ใช้ใบแห้ง 5- 10 กรัม ต้มน้ำดื่ม 
  ใช้ภายนอก - ใช้ใบตำพอก หรือต้มเอาน้ำชะล้างบริเวณที่เป็น