วิธีใช้ว่านหางจระเข้
การนำว่านหางจระเข้มาใช้ มีวิธีสังเกตดังนี้
ขนาดของต้นไม้ : ต้นว่านหางจระเข้ที่จะนำมาใช้ควรเป็นต้นที่ปลูกนาน 1 ปีขึ้นไป อย่างไรก็ตามต้นเล็กๆก็มีสรรพคุณ ในการรักษาเช่นกัน แต่สรรพคุณของมันจะมีมากขึ้นตามอายุ จึงควรมีต้นแก่ๆอย่างน้อยสักต้นในบ้าน
ใบ : ปกติควรใช้ใบล่างสุด เพราะเป็นใบที่แก่และใหญ่กว่าใบอื่น ดังนั้นจึงมีเมือกมากและมีคุณค่าทางยามากกว่า
การนำใบมาใช้ : ก่อนนำใบว่านหางจระเข้มาใช้ต้องล่างให้สะอาดเสียก่อน ใบว่านที่นำมาใช้ยิ่งสดจากต้องเท่าไหร่ยิ่งดี ทั้งนี้เพราะใบที่ถูกตัดจากต้นแล้วสรรพคุณจะลดลงเรื่อยๆ วิธีที่ประหยัดต้นว่านหางจระเข้และทำให้มีสรรพคุณดีที่สุดคือ ตัดใบเอามาใช้เท่าที่จำเป็นและพอใช้ใน 1 วัน วันรุ่งขึ้นหากต้องการใช้ก็ไปตัดจากต้นมาใช้ใหม่ มีผู้ใช้บางท่านต้องการใช้เพียงเล็กน้อยแต่ตัดเอามาใช้ทั้งใบส่วนที่เหลือเก็บไว้ วิธีนี้สิ้นเปลืองและทำให้ใบว่านหางจระเข้มีสรรพคุณลดลง การตัดใบว่านออกมาบางส่วนไม่ได้ทำอันตรายต่อต้นไม้ เพราะว่ารอยตัดจะปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว มีผู้ใช้บางท่านรีดเอาวุ้นจากว่านหางจระเข้ออกมาใส่ชามแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นโดยคิดว่าวิธีนี้จะทำให้นำมาใช้สะดวก ความจริงแล้ว วิธีนี้ทำให้ว่านหางจระเข้เสื่อมสรรพคุณเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ใบว่านจากต้นได้ทุกครั้ง ใบว่านหางจระเข้สามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน 3-4 วัน หากนำมาแช่ในตู้เย็นสามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน 7 วัน
วุ้นและน้ำเมือก : เมื่อเราปอกเปลือกว่านหางจระเข้จนหมด จะเหลือส่วนที่เป็นเนื้อใสๆ ส่วนนี้เราเรียก วุ้น และเมื่อขูดเนื้อวุ้นนี้จะมีน้ำไหลออกมา เรียกว่า เมือก
ชนิดของว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีกว่า 300 ชนิด แต่ในจำนวนนี้มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่ใช้รักษาโรคให้ผลชะงัด ซึ่งได้แก่ ว่านหางจระเข้เขียว แหล่งดั้งเดิมมาจากอาฟริกา ว่านหางจระเข้แหลมกู๊ดโฮป และว่านหางจระเข้ไบรา ( BEIRA ) เป็นต้น
ว่านหางจระเข้ยืนต้นที่มีชื่อทางวิชาการว่า อะโล อาบะเร็สซินส์ ( ALOE ARBORESCENS ) เป็นว่านหางจระเข้ที่มีความสูงราว 2 เมตร ซึ่งต่างจากว่านหางจระเข้ทั่วไปที่ปลูกในกระถาง ลำต้นของว่านหางจระเข้ชนิดนี้มีใบขนาดใหญ่สีเขียวแก่ที่อิ่มอวบชุ่มชื้น มีปลูกทางตอนใต้ของไต้หวัน ชาวบ้านในแถบนี้รู้จักใช้ว่านหางจระเข้ทำเป็นยาพื้นบ้านมาช้านานแล้ว โดยใช้เป็นยาทาและยารับประทาน และปัจจุบันก็ยังคงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
ว่านหางจระเข้ที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา และแถบทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้นั้น เป็นว่านหางจระเข้ไบรา ว่านหางจระเข้ชนิดนี้โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้มาแปรสภาพเป็นน้ำว่านหางจระเข้ ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเป็นเครื่องสำอาง
ว่านหางจระเข้ที่มีอยู่ในหมู่เกาะฮาวายกับหมู่เกาะซามัวร์ ก็เป็นว่านหางจระเข้ที่ผู้คนนำมาใช้เป็นยา พื้นบ้านอย่างกว้างขวาง