วิธีใช้ว่านหางจระเข้


911 ผู้ชม


วิธีใช้ว่านหางจระเข้

การนำว่านหางจระเข้มาใช้ มีวิธีสังเกตดังนี้
ขนาดของต้นไม้  :  ต้นว่านหางจระเข้ที่จะนำมาใช้ควรเป็นต้นที่ปลูกนาน  1  ปีขึ้นไป  อย่างไรก็ตามต้นเล็กๆก็มีสรรพคุณ  ในการรักษาเช่นกัน  แต่สรรพคุณของมันจะมีมากขึ้นตามอายุ  จึงควรมีต้นแก่ๆอย่างน้อยสักต้นในบ้าน

ใบ : ปกติควรใช้ใบล่างสุด  เพราะเป็นใบที่แก่และใหญ่กว่าใบอื่น  ดังนั้นจึงมีเมือกมากและมีคุณค่าทางยามากกว่า

การนำใบมาใช้  :  ก่อนนำใบว่านหางจระเข้มาใช้ต้องล่างให้สะอาดเสียก่อน  ใบว่านที่นำมาใช้ยิ่งสดจากต้องเท่าไหร่ยิ่งดี  ทั้งนี้เพราะใบที่ถูกตัดจากต้นแล้วสรรพคุณจะลดลงเรื่อยๆ  วิธีที่ประหยัดต้นว่านหางจระเข้และทำให้มีสรรพคุณดีที่สุดคือ  ตัดใบเอามาใช้เท่าที่จำเป็นและพอใช้ใน  1  วัน  วันรุ่งขึ้นหากต้องการใช้ก็ไปตัดจากต้นมาใช้ใหม่  มีผู้ใช้บางท่านต้องการใช้เพียงเล็กน้อยแต่ตัดเอามาใช้ทั้งใบส่วนที่เหลือเก็บไว้  วิธีนี้สิ้นเปลืองและทำให้ใบว่านหางจระเข้มีสรรพคุณลดลง  การตัดใบว่านออกมาบางส่วนไม่ได้ทำอันตรายต่อต้นไม้  เพราะว่ารอยตัดจะปิดตัวลงอย่างรวดเร็ว  มีผู้ใช้บางท่านรีดเอาวุ้นจากว่านหางจระเข้ออกมาใส่ชามแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นโดยคิดว่าวิธีนี้จะทำให้นำมาใช้สะดวก  ความจริงแล้ว  วิธีนี้ทำให้ว่านหางจระเข้เสื่อมสรรพคุณเร็วที่สุด  อย่างไรก็ตาม  สำหรับผู้ที่ไม่สามารถใช้ใบว่านจากต้นได้ทุกครั้ง  ใบว่านหางจระเข้สามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน  3-4  วัน  หากนำมาแช่ในตู้เย็นสามารถเก็บไว้ใช้ได้ไม่เกิน  7  วัน

วุ้นและน้ำเมือก  :  เมื่อเราปอกเปลือกว่านหางจระเข้จนหมด  จะเหลือส่วนที่เป็นเนื้อใสๆ  ส่วนนี้เราเรียก  วุ้น   และเมื่อขูดเนื้อวุ้นนี้จะมีน้ำไหลออกมา  เรียกว่า  เมือก

ชนิดของว่านหางจระเข้

ว่านหางจระเข้ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้มีกว่า  300  ชนิด  แต่ในจำนวนนี้มีอยู่ไม่กี่ชนิดที่ใช้รักษาโรคให้ผลชะงัด  ซึ่งได้แก่  ว่านหางจระเข้เขียว  แหล่งดั้งเดิมมาจากอาฟริกา  ว่านหางจระเข้แหลมกู๊ดโฮป  และว่านหางจระเข้ไบรา          (  BEIRA  )  เป็นต้น

ว่านหางจระเข้ยืนต้นที่มีชื่อทางวิชาการว่า  อะโล  อาบะเร็สซินส์  (  ALOE  ARBORESCENS  )  เป็นว่านหางจระเข้ที่มีความสูงราว  2  เมตร  ซึ่งต่างจากว่านหางจระเข้ทั่วไปที่ปลูกในกระถาง  ลำต้นของว่านหางจระเข้ชนิดนี้มีใบขนาดใหญ่สีเขียวแก่ที่อิ่มอวบชุ่มชื้น  มีปลูกทางตอนใต้ของไต้หวัน  ชาวบ้านในแถบนี้รู้จักใช้ว่านหางจระเข้ทำเป็นยาพื้นบ้านมาช้านานแล้ว  โดยใช้เป็นยาทาและยารับประทาน  และปัจจุบันก็ยังคงนิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย

ว่านหางจระเข้ที่ปลูกในสหรัฐอเมริกา  และแถบทวีปอเมริกากลางและอเมริกาใต้นั้น  เป็นว่านหางจระเข้ไบรา  ว่านหางจระเข้ชนิดนี้โดยส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้มาแปรสภาพเป็นน้ำว่านหางจระเข้  ใช้เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตเป็นเครื่องสำอาง

ว่านหางจระเข้ที่มีอยู่ในหมู่เกาะฮาวายกับหมู่เกาะซามัวร์  ก็เป็นว่านหางจระเข้ที่ผู้คนนำมาใช้เป็นยา พื้นบ้านอย่างกว้างขวาง

อัพเดทล่าสุด