สุภาษิตพระร่วง ม.1 แปลสุภาษิตพระร่วง ม.1
สุภาษิต | ความหมาย |
เมื่อน้อยให้เรียนวิชา | ทำอะไรให้เหมาะสมกับวัย จึงจะสำเร็จประโยชน์ มีความเจริญรุ่งเรือง คนจะพัฒนาได้ง่ายต้องเริ่มตั้งแต่ยังเล็ก |
เป็นคนเรียนความรู้ | เกิดเป็นคนต้องศึกษาหาความรู้ไว้อยู่กับตัวเสมอ เพราะความรู้ ช่วยเราได้ทุกเมื่อ ไม่ว่าในยามปกติหรือคับขัน ดังที่สุนทรภู่ กล่าวไว้ว่า "รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี" |
ปลูกไมตรีอย่ารู้ร้าง | สร้างมิตรภาพกับผู้อื่นอยู่เสมอ วิธีที่ผูกไมตรีได้ผลก็คือ การปฏิบัติตามหลักธรรม ๔ ประการคือ ทาน(แบ่งปัน) ปิยวาจา (พูดสุภาพ) อัตถจริยา(ทำประโยชน์แก่เขา) และสมานัตตา (วางตัวเสมอต้นเสมอปลาย) |
สร้างกุศลอย่ารู้โรย | การสร้างบุญ สร้างกุศล ช่วยทำให้กิเลสถูกขัดเกลาเบาบางลง คนมีกิเลสน้อย ชีวิตจะมีแต่ความสุข ความร่มเย็น |
โอบอ้อมเอาใจคน | ให้มีเมตตาต่อคนทั้งหลาย ไม่เฉพาะแก่พี่น้องเท่านั้น |
ปลูกไมตรีทั่วชน | หมั่นผูกไมตรีกับคนทุกคน มีมิตรดีกว่ามีศัตรู |
ตระกูลตนจงคำนับ | ให้ความเคารพวงศ์ตระกูล |
อย่าอวดหาญแก่เพื่อน | อย่าทำตัวเก่งกว่าเพื่อน |
เป็นคนอย่าทำใหญ่ | อย่าอวดเบ่งคุยโตหรือมีอิทธิพลเหนือใครต่อใคร |
อย่าเบียดเสียดแก่มิตร | ไม่ควรเบียดเบียนหรือเอาเปรียบเพื่อน ควรให้ความรักความจริงใจกับเพื่อน |
ที่ผิดช่วยเตือนตอบ | สิ่งใดที่เพื่อนทำผิดก็ช่วยบอกกล่าวตักเตือน |
ที่ชอบช่วยยกยอ | สิ่งใดที่เพื่อนทำดีอยู่แล้วก็ควรยกย่องชมเชย |
อย่าขอของรักมิตร ชอบชิดมักจางจาก | ไม่ควรสร้างความลำบากใจให้กับเพื่อน เช่น การขอในสิ่งที่เพื่อนรักและหวงโดยไม่เกรงใจอาจทำให้เสียเพื่อนไปก็ได้ |
ยอมิตรเมื่อลับหลัง | การชมมิตรเมื่อลับหลังเป็นการชมอย่างจริงใจ |
อย่าประกอบกิจเป็นพาล | อย่าประกอบอาชีพที่ทุจริต |
พึงผันเผื่อต่อญาติ | ให้รู้จักเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ญาติพี่น้อง |
พรรคพวกพึงทำนุก ปลุกเอาแรงทั่วชน ยลเยี่ยงไก่นกกระทา พาลูกหลานมากิน | คนที่เป็นพวกกับเรา เราควรเลี้ยงดูเขาให้มีความสุข เพราะเขาอาจสามารถช่วยเหลือเราได้ ให้ดูตัวอย่างไก่หรือนกกระทาที่หาอาหารมาได้ก็เผื่อแผ่ลูกๆ คนเราก็เช่นกัน เมื่อมีลาภหรือของกินของใช้ ควรเรียกลูกหลาน มิตรสหาย |
อย่ารักถ้ำกว่าเรือน อย่ารักเดือนกว่าตะวัน | อย่าเห็นของมีประโยชน์น้อยดีกว่าของมีประโยชน์มาก |
อย่าตื่นยกยอตน | ไม่ควรพูดยกยอตนเอง |
อย่าชังครูชังมิตร | อย่าเกลียดครูผู้เป็นกัลยาณมิตร |
อย่าผูกมิตรคนจร | อย่าคบหากับคนเร่ร่อนพเนจร ไม่มีหัวนอนปลายเท้า |
เมตตาตอบต่อมิตร | ควรมีความรักความจริงใจตอบต่อเพื่อน |
คนขำอย่าร่วมรัก | ไม่ควรคบหาสมาคมกับคนมีลับลมคมในหรือคนเจ้าเล่ห์ |
คนทรยศอย่าเชื่อ อย่าเผื่อแผ่ความคิด | ไม่ควรให้ความเคารพเชื่อถือคนชั่ว และไม่ควรโยนความผิดให้กับผู้อื่น |
สุวานขบอย่าขบตอบ | ไม่ควรยุ่งเกี่ยวหรือต่อล้อต่อเถียงกับคนชั่ว |
เข้าเถื่อนอย่าลืมพร้า | ให้มีความรอบคอบเมื่อจะปฏิบัติภารกิจอะไรควรนำเครื่องมือเครื่องใช้ให้ครบครัน |
หน้าศึกอย่านอนใจ | ควรเตรียมตัวให้พร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นเสมอ |
เดินทางอย่าเดินเปลี่ยว | ไม่ควรไปไหนมาไหนโดยลำพังเพราะภัยอันตรายอยู่รอบด้าน |
ที่ขวากหนามอย่าเสียเกือก | อย่าได้ขาดเครื่องป้องกันยามเข้าไปอยู่ในสถานที่ลำบากหรือที่ ที่มีภัย |
ทำรั้วเรือกไว้กับตน | จงหมั่นทำความดีไว้เสมอเพื่อเป็นเครื่องกำบังตน |
จงเร่งระมัดฟืนไฟ | ให้รู้จักระมัดระวังในการใช้ฟืนไฟอาจจะเกิดอันตรายได้ |
ที่ทับจงมีไฟ | ที่อยู่อาศัยควรมีไฟยามค่ำคืน |
ที่ไปจงมีเพื่อน ทางแถวเถื่อนไคลคลา | ไปไหนมาไหนควรมีเพื่อนร่วมทางไปด้วย ยามอันตรายจะได้ช่วยเหลือกัน |
เข้าออกอย่าวางใจ ระวังระไวหน้าหลัง เยียวผู้ชังจะคอยโทษ | ต้องรู้จักระมัดระวังตัวในการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ควร ประมาทเพราะอาจจะมีคนคอยปองร้ายเราได้ |
ข้างตนไว้อาวุธ สรรพยุทธอย่าวางจิต | ภัยอันตรายมีได้ทุกเมื่อ ควรรู้จักตระเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ก่อน |
ข้าคนไพร่อย่าไฟฟุน | อย่าแสดงความโกรธต่อคนรับใช้หรือผู้ใต้บังคับบัญชา |
ภักดีอย่าด่วนเคียด | ให้เป็นคนที่ซื่อสัตย์จงรักภักดี อย่าหุนหันตัดใจ |
อย่ากริ้วโกรธเนืองนิตย์ | อย่าเป็นคนโมโหอยู่ตลอดเวลา |
อย่ามีปากว่าคน | ไม่ควรนินทาหรือว่าคนอื่นให้ได้รับความเสียหาย |
พบศัตรูปากปราศรัย | ความในอย่าไขเขา ควรพูดจาปกติแม้ว่าจะเป็นศัตรูกัน แต่ไม่ควรเผยความในใจ ให้เขารู้ |
เจรจาตามคดี | ควรพูดตามความเป็นจริงที่เกิดขึ้นเพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย |
อย่าขุดคนด้วยปาก | ไม่ควรพูดค่อนขอดหรือกล่าวหาว่าร้ายใคร |
อย่าจับลิ้นแก่คน | อย่าคอยจับผิดคำพูดผู้อื่น |
เมื่อพาทีพึงตอบ | ควรพูดเมื่อจำเป็นต้องพูด |
อย่าริกล่าวคำคด | อย่าพูดโกหก ให้พูดแต่ความจริง |
โต้ตอบอย่าเสียคำ | ในการสนทนาหรือโต้คารมไม่ควรกล่าวคำพูดให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย |
คิดแล้วจึงเจรจา | ควรคิดให้ดีก่อนพูด |
อย่านินทาผู้อื่น | ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือกล่าวคำให้ผู้อื่นเสียหาย |
อย่าจับลิ้นแก่คน | อย่าคอยจับผิดคำพูดผู้อื่น |
โต้ตอบอย่าเสียคำ | ในการสนทนาหรือโต้คารมไม่ควรกล่าวคำพูดให้ผู้อื่นเสื่อมเสีย |
คิดแล้วจึงเจรจา | ควรคิดให้ดีก่อนพูด |
อย่านินทาผู้อื่น | ไม่นินทาว่าร้ายผู้อื่น หรือกล่าวคำให้ผู้อื่นเสียหาย |
อย่านั่งชิดผู้ใหญ่ | ให้รู้จักที่ต่ำที่สูง อย่าตีตนเสมอท่าน |
อย่าขัดแข็งผู้ใหญ่ | ไม่ควรขัดแย้งหรืองัดข้อหรือแสดงอำนาจกับผู้ใหญ่หรือผู้ที่ มีอำนาจมากกว่าเพราะอาจจะมีภัย |
จงนบนอบผู้ใหญ่ | ต้องมีความอ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ |
ผู้เฒ่าสั่งจงจำความ | ควรจำคำที่ผู้ใหญ่อบรมสั่งสอนมาใช้ปฏิบัติเพราะจะเป็นประโยชน์กับตนภายหลัง |
ครูบาสอนอย่าโกรธ | เมื่อครูอบรมสั่งสอนไม่ควรโกรธเพราะครูเป็นผู้ที่มีความปรารถนาที่ดีต่อศิษย์ |
ท่านไท้อย่าหมายโทษ | อย่าจับผิดผู้ใหญ่ |
นอบตนต่อผู้เฒ่า | มีความอ่อนน้อมถ่อมตนต่อผู้ใหญ่ |
ทดแทนคุณท่านเมื่อยาก | ต้องแสดงความกตัญญูกตเวทีต่อผู้มีพระคุณยามแก่เฒ่าหรือขณะท่านมีความยากลำบาก |
อย่าเลียนครูเตือนด่า | อย่านำพฤติกรรมของครูขณะอบรมสั่งสอนเรามาล้อเลียน |
ท่านสอนอย่าสอนตอบ | เมื่อผู้ใหญ่ตักเตือนสั่งสอนควรตั้งใจฟังด้วยความเคารพ ไม่กล่าวคำยอกย้อนต่อผู้ใหญ่ |
ท่านรักตนจงรักตอบ | เมื่อผู้ใหญ่มีความปรารถนาดีต่อเราเราควรแสดงความกตัญญู ต่อท่าน |
ท่านนอบตนจงนอบแทน | ผู้ที่อ่อนน้อมต่อเราเราควรอ่อนน้อมตอบ |
ให้หาสินเมื่อใหญ่ | เมื่อเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ต้องรู้จักทำงานประกอบอาชีพมาเลี้ยงตนและครอบครัว |
อย่าริร่านแก่ความ | อย่าด่วนหาเรื่อง |
ประพฤติตามบูรพระบอบ | ประพฤติตนตามขนบธรรมเนียมระเบียบประเพณีที่กำหนด |
อย่าใฝ่สูงให้พ้นศักดิ์ | อย่าทะเยอทะยานเกินความสามารถของตน |
เข็นเรือทอดกลางถนน | เตือนไม่ให้ทำอะไรผิดปกติวิสัยหรือผิดกาลเทศะ |
หว่านพืชจักเอาผล เลี้ยงคนจักกินแรง | ทำอะไรไม่ควรหวังผลประโยชน์ |
อย่าใฝ่ตนให้เกิน | อย่าทำตัวเกินฐานะของตน |
ตนเป็นไทอย่าคบทาส | เมื่อพ้นสภาพจากการเป็นทาสแล้วไม่ควรมาคบกับทาสอีก |
มีสินอย่าอวดมั่ง | อย่าอวดความมั่งมีทรัพย์สินเงินทองเพราะอาจเป็นอันตรายต่อตนเองได้ |
รักตนกว่ารักทรัพย์ | ให้รักเกียรติ นักชื่อเสียงวงศ์ตระกูลยิ่งกว่าทรัพย์สินเงินทอง |
สู้เสียสินกว่าเสียศักดิ์ | เกียรติยศ ชื่อเสียง เป็นสิ่งที่หามาได้ยากลำบาก เมื่อมีแล้วก็ควรรักษาให้ดี ถ้าเสียไปคงหามาใหม่ได้ยาก ผิดกับทรัพย์สินเงินทองเมื่อเสียไปแล้วหาใหม่มาทดแทนได้ |
คิดตรองตรึกทุกเมื่อ | ควรคิดไตร่ตรองใคร่ครวญให้ดีก่อนก่อนที่จะทำอะไร |
เยียวสะเทินจะอดสู | ทำสิ่งใดขาดๆ เกินๆ ก้ำกึ่งจะเป็นที่อับอาย |
อย่าใฝ่เอาทรัพย์ท่าน | ควรทำมาหากินด้วยตนเอง ไม่ควรหวังพึ่งผู้อื่นในการเลี้ยงตน |
ไปเรือนท่านอย่านั่งนาน | ยามไปธุระปะปังที่ไหนไม่ควรนั่งนานเพราะจะทำให้เสียเวลาทั้งสองฝ่าย |
ที่รักอย่าดูถูก | ควรให้ความรักความเกรงใจแม้คนใกล้ชิดสนิทสนมไม่ควรมองข้าม |
น้ำเชี่ยวอย่าขวางเรือ | ในขณะที่เหตุการณ์รุนแรงยังดำเนินอยู่อย่างร้อนรนเราไม่ควรเข้าไปยุ่งเกี่ยว |
ช้างไล่แล่นเลี่ยงหลบ | ถ้าถูกคุกคามจากผู้มีอำนาจให้หลบหลีกไม่ควรต่อสู้ |
เข้าออกอย่าวางใจ ระวังระไวหน้าหลัง เยียวผู้ชังจะคอยโทษ | ต้องรู้จักระมัดระวังตัวในการเดินทางไปไหนมาไหน ไม่ควร ประมาทเพราะอาจมีคนคอยปองร้ายเราได้ |
ข้างตนไว้อาวุธ สรรพยุทธอย่าวางจิต | ภัยอันตรายมีได้ทุกเมื่อ ควรรู้จักตระเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ก่อน |
ความแหนให้ประหยัด | สิ่งที่รักและหวงแหนก็ให้ระมักระวังรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นความลับก็ควรรักษาไว้ให้ดี โดยเฉพาะสิ่งที่เป็นความลับก็ควรรักษาไว้อย่าแพร่งพราย |
เผ่ากษัตริย์เพลิงงู | ไม่ควรไว้ใจในสิ่งต้องห้าม ห้าประการคือ กษัตริย์ เด็ก ผู้หญิง งูและไฟ เพราะอาจนำความเดือดร้อนมาสู่เราได |
อย่าตีงูให้แก่กา | อย่าทำสิ่งไร้ประโยชน์อาจเกิดโทษแก่ตนได้ |
อย่าตีปลาหน้าไซ | อย่าขัดขวางผลประโยชน์ที่กำลังจะเกิดขึ้น |
อย่าดีสุนัขห้ามเห่า | อย่าทำสิ่งที่สวนทางกับธรรมชาติ หรืออย่าขัดขวางผู้ที่ปฏิบัติหน้าที่ของตน |
อย่าเข้าแบกงาช้าง | อย่าทำการใดเสี่ยงอันตรายและไม่เกิดประโยชน์แก่ตน |
อย่าโดยคำคนพลอด | อย่าเชื่อคำพูดอันหวานหู |
อย่ามัวเมาเนืองนิตย์ | อย่าหลงใหลในสิ่งไร้สาระตลอดเวลา |
อย่าได้รับของเข็ญ | อย่ารับของร้อนหรือของโจร |
โทษตนผิดพึงรู้ | สอนให้พิจารณาตนเอง ให้หาความผิดของตน เมื่อพบแล้วให้หาหนทางแก้ไขเสีย |
การเรือนตนเร่งคิด | ควรปฏิบัติงานบ้านงานเรือนอยู่เสมออย่าให้บกพร่อง |
โทษตนผิดรำพึง อย่าคะนึงถึงโทษท่าน | ให้มองเห็นโทษของการทำความผิดหรือความชั่วไม่ควรไป เสียเวลาจับผิดคนอื่น |
เห็นงามตาอย่าปอง | สิ่งที่มองเห็นว่าสวยงาม อย่าเพิ่งหมายปองเพราะของสวยงามมักมาพร้อมกับภัยอันตราย |
อย่าตื่นยกยอตน | ไม่ควรพูดยกยอตนเองเปรียบเทียบเหมือนกลองจะดังต้องมีคนตี ถ้ากลองดังโดยไม่มีคนตีเรียกว่ากลองจัญไร |
ของฝากท่านอย่ารับ | อย่ามักง่ายหรือเห็นแก่ได้ |
อย่ากอรปจิตริษยา | ไม่ควรริษยาผู้อื่นเพราะการริษยาเป็นบ่อนทำลายสามัคคี |
ที่มา www.st.ac.th
ดูหัวข้ออื่นๆที่เกี่ยวข้อง
สุภาษิตพระร่วง ม.1 แปลสุภาษิตพระร่วง ม.1 |
ตัวอย่างสุภาษิตพระร่วง ความหมาย แปลสุภาษิตพระร่วง |
คำแปลสุภาษิตพระร่วง ถอดความสุภาษิตพระร่วง |