สาวอาหรับ รักต่างศาสนา เกี่ยวกับ งานแต่งงานของสาวอาหรับ


1,060 ผู้ชม

ชาวยิวอิสราเอลเชื่อว่า ชาวยิวที่แต่งงานกับคนเผ่าพันธุ์อื่นเท่ากับทรยศต่อชาติ หลายคนคิดว่าความประพฤติเช่นนี้เป็นการคุกคามความเป็นรัฐยิว


NAZARETH, Israel - A local authority in Israel has announced that it is establishing a special team of youth counsellors and psychologists whose job it will be to identify young Jewish women who are dating Arab men and “rescue” them.

The move by the municipality of Petah Tikva, a city close to Tel Aviv, is the latest in a series of separate – and little discussed – initiatives from official bodies, rabbis, private organisations and groups of Israeli residents to try to prevent interracial dating and marriage.

หน่วยงานท้องถิ่นในเมือง Petah Tikva ใกล้กรุงเทลอาวิฟในอิสราเอล ประกาศจัดตั้งทีมที่ปรึกษา และนักจิตวิทยา เพื่อให้คำปรึกษาแก่วัยรุ่นสตรีชาวยิวที่มีคู่ควงเป็นหนุ่มอาหรับ

ความพยายามครั้งล่าสุดนี้เป็นการริเริ่มร่วมกันของฝ่ายรัฐ แรบไบ องค์กรเอกชน และชาวอิสราเอลทั่วไป เพื่อป้องกันการแต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์ และเชื้อชาติ โดยก่อนหน้านี้มีข่าวว่าวัยรุ่นหญิงชาวยิวอายุ 17 และ19 ปี ติดตามกลุ่มชายหนุ่มชาวอาหรับไป หลังจากมีการกล่าวหาว่าหนุ่มอาหรับกลุ่มนี้ ทำร้ายชายยิวถึงตายที่ชายหาดในเทลอาวีฟ และวัยรุ่นหญิงอายุ 19 นั้นมาจากเมือง Petah Tikva ซึ่งทำให้ชาวเมืองตื่นตัว และหันกลับมาเข้มงวดในการป้องกันความสัมพันธ์ที่ต้องห้ามนี้

สื่ออิสราเอลรายงานเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกันนี้ว่า ในชุมชนยิว Pisgat Zeev ในเยรูซาเล็มตะวันออก ซึ่งชาวยิวเข้าไปตั้งถิ่นฐานท่ามกลางชาวปาเลสไตน์ มีการตั้งกลุ่มพลเรือนซึ่งมีสมาชิกประมาณ 35 คน ขึ้นมาทำหน้าที่สอดส่อง เพื่อป้องกันความสัมพันธ์ที่งอกงามระหว่างหนุ่มอาหรับกับสาวยิว โดยตั้งชื่อกลุ่มว่า “Fire for Judaism”

สาวอาหรับ รักต่างศาสนา เกี่ยวกับ งานแต่งงานของสาวอาหรับ

ในปี 2007 มีรายงานผลสำรวจเกี่ยวกับเรื่องนี้ระบุว่า กว่าครึ่งของชาวยิวอิสราเอลเชื่อว่า ชาวยิวที่แต่งงานกับคนเผ่าพันธุ์อื่นเท่ากับทรยศต่อชาติ หลายคนคิดว่าความประพฤติเช่นนี้เป็นการคุกคามความเป็นรัฐยิว

นักวิเคราะห์กล่าวว่า ตั้งแต่มีการก่อตั้งประเทศในปี 1948 มีความพยายามต่อเนื่อง และถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อหามาตรการจำกัดความสัมพันธ์ลักษณะนี้ตลอดมา อาทิ การแยกชุมชนที่อยู่อาศัย ระบบการศึกษา แม้แต่ในเมืองที่มีทั้งยิว และอาหรับอยู่ปนกัน กลุ่มอาหรับก็ดูเหมือนถูกจำกัดอยู่แต่เฉพาะบางพื้นที่ จนมาถึงการแต่งงานที่ต้องได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ โดยหากแรบไบไม่อนุมัติการแต่งงาน ทั้งคู่ก็ต้องออกไปแต่งนอกประเทศ

ดร. Yuval Yonay นักสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยไฮฟากล่าวว่า ผู้ที่แต่งงานข้ามเผ่าพันธุ์มีจำนวนน้อยจนแทบไม่อาจนำมาศึกษาได้ และการแบ่งแยกดังกล่าวเป็นสิ่งที่ฝังแน่นอยู่ในสังคมอิสราเอล จนออกจะเป็นเรื่องน่าประหลาดใจ หากใครสามารถฝ่าการควบคุมออกไปได้

ในเมือง Petah ซึ่งมีชาวยิวตั้งถิ่นฐานประมาณ 200,000 คน ทางการได้สอดส่องชาวอาหรับ ที่แบ่งบ้านให้หนุ่มโสดเช่าอย่างผิดกฎหมาย โดยหนุ่มอาหรับเหล่านี้เข้ามาหางานทำในเทลอาวีฟ

กลุ่มที่ตั้งขึ้นนี้ปฏิเสธไม่ได้ขู่เข็ญ หรือใช้ความรุนแรงกับหนุ่มอาหรับ แต่จะพยายามเข้าไปติดต่อกับผู้หญิงยิวเพื่อหว่านล้อมให้เห็นถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้น โดยอ้างว่าใน 10 ปีที่ผ่านมา มีผู้หญิงยิวจากชุมชน Pisgat Zeev กว่า 60 คน ตามหนุ่มปาเลสไตน์ไป และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ข่าวคราวอีกเลย

มีการโฆษณาประชาสัมพันธ์อย่างเปิดเผยโดยทางการ เพื่อป้องกันความสัมพันธ์ดังกล่าว ในปี 2004 มีโปสเตอร์ติดทั่วเมืองซาเฟด ทางตอนเหนือของอิสราเอล ลงข้อความเตือนผู้หญิงยิวว่า การคบกับหนุ่มอาหรับจะนำมาซึ่ง “การถูกลงโทษเฆี่ยนตี การติดยา การขายบริการ และอาชญากรรม” แรบไบ แห่งเมืองนี้ถึงขนาดกล่าวว่า การล่อลวงหญิงยิวเพื่อไปแต่งงาน เป็นสงครามรูปแบบหนึ่งของชาวอาหรับ

องค์กรศาสนายืว ชื่อ Yad L’achim ให้การสนับสนุนการรณรงค์อย่างเปิดเผย โดยระบุในเว็ปไซต์ว่าได้รับโทรศัพท์แจ้งเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ต้องห้ามนี้ เดือนละกว่า 100 ครั้ง และเมื่อพบว่ามีหญิงอิสราเอลอยู่กินกับชายอาหรับทั้งในอิสราเอล และในเขตเวสต์แบงค์ ก็จะมีการส่งหน่วยที่คล้ายๆ กับทหาร ไปแยกตัวผู้หญิงออกมา โดยได้รับความช่วยเหลือจากตำรวจหรือทหารด้วย

อัพเดทล่าสุด