ดือน ที่ผ่านมาครูอาจารย์ข้าราชการบุคลากรในมหาวิทยาลัยราชภัฏทุกแห่งต้องเกษียณ ราชการไปจำนวนไม่น้อย รวมทั้งผู้ที่ขอเกษียณก่อนกำหนด คือ "เออร์ลี่ รีไทร์" เพื่อไปปฏิบัติหน้าที่การงานอื่น รวมทั้งต้องการพักผ่อนในวัยที่ตัวเองเห็นว่าสมควร
ในรอบปีหนึ่ง มีข้าราชการที่ครบกำหนดเกษียณ โดยเฉพาะในสายครูและอาจารย์มีจำนวนมาก ขณะที่อัตราทดแทน หรือชดเชย แม้รัฐบาลโดยกระทรวงศึกษาธิการจะคืนกลับมาให้แล้ว แต่ก็ยังไม่พอเพียงกับความต้องการในเรื่องของการเรียนการสอน
ตำแหน่ง หน้าที่ในสถาบันการศึกษาตั้งแต่โรงเรียนอนุบาลที่ทางรัฐบาลให้นับอยู่ในการ ศึกษาให้เปล่า 15 ปี ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ส่วนผู้ที่เรียนในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัย หรืออาชีวศึกษาชั้นสูง แม้ไม่ได้เรียนฟรี แต่ก็มีเงินกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษาให้
การขาด แคลนบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะสายครูอาจารย์ผู้สอนถ้าจะว่าไปแล้ว นับเป็นการขาดแคลนที่แสดงถึงความมีประสิทธิภาพทางการศึกษาของประเทศอย่าง ยิ่ง เพราะต้องนับว่าบุคลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะครูอาจารย์ผู้สอนเป็นบุคลากรที่ สร้างเด็กและเยาวชนของชาติให้เป็นผู้มีความพร้อมในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านพัฒนาสมอง จิตใจ อารมณ์ และร่างกาย โดยเฉพาะด้านสมองที่ต้องป้อนความรู้และวิชาการรวมทั้งการปลูกฝังความคิด สร้างสรรค์ให้กับเด็กและเยาวชนไทยตั้งแต่ยังอยู่ในวัยอนุบาลเสียด้วยซ้ำ
มหาวิทยาลัย ราชภัฏทุกแห่งมีกำเนิดมาจากโรงเรียนฝึกหัดครูหลายด้าน ไม่เฉพาะด้านการเรียน การสอนให้เด็กรู้หนังสือ คิดเลขเป็น และมีความคิดสร้างสรรค์เท่านั้น ยังต้องสั่งสอนและอบรมในทางวิชาอาชีพ เช่น การช่าง การเกษตร การค้า อีกด้วย
ในทางวิชาชีพอื่น ปัจจุบันมีการให้ข้าราชการประเภทนั้นมีโอกาสอยู่ในหน้าที่ยาวนานไปอีก 5-10 ปี เช่น ข้าราชการสายตุลาการ สายอัยการ สายแพทย์ ได้อยู่ในหน้าที่ต่อไปอีก 10 ปี ทั้งด้วยความสมัครใจและได้รับการคัดเลือกเพื่อความเหมาะสม
เช่น เดียวกับวิชาชีพครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัย โอกาสที่จะอยู่ต่อไปอีก 5 ปีก็มีเช่นเดียวกัน โดยต้องเป็นไปตามเงื่อน ไขกำหนด คือต้องมีตำแหน่งทางวิชาการเป็นรองศาสตราจารย์ ในการเรียนการสอนต้องเป็นสาขาที่ขาดแคลน หรือเป็นตำแหน่งที่ทางคณะวิชานั้น มหาวิทยาลัยนั้นต้องการ และต้องแสดงความจำนงภายในกำหนดเวลา
นับ ตั้งแต่มีการต่อวาระการเป็นข้าราช การอีก 5 ปีของผู้เป็นครูอาจารย์ในมหา วิทยาลัย ก็มีผู้แจ้งความประสงค์และอยู่ในหน้าที่การงานจำนวนมากพอสมควร
แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ ไม่ว่าจะในมหาวิทยาลัย ในวิทยาลัย หรือในโรงเรียน
เพราะครูในโรงเรียนก็มีการ "เออร์ลี่ รีไทร์" ปีหนึ่งจำนวนไม่น้อย
ขณะที่สถาบันผลิตครูผลิตได้แต่ละปีไม่น่าจะเพียงพอต่อความต้องการ
จาก จำนวนสถาบันการศึกษาระดับ อนุบาลมีทั้งสิ้น 20,184 แห่ง ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ม.6 จำนวน 22,425 แห่ง ระดับอาชีวศึกษาจำนวน 549 แห่ง และระดับอุดมศึกษา 154 แห่ง (ตัวเลขจากสำนักงานการประเมินมาตรฐานการศึกษา (สมศ.) เมื่อปี 2551) แต่ปริมาณครูอาจารย์ผู้สอนนับรวมถึงบุคลากรทางการศึกษาแม้จะมีจำนวนนับแสนคน ก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยเฉพาะระดับโรงเรียนในถิ่นชนบท
ดัง นั้น การจะขยายโอกาสให้ครูในระดับล่างจากมหาวิทยาลัยที่มิได้มีตำแหน่งทางวิชาการ เป็นรองศาสตราจารย์มีโอกาสอยู่ในราชการเบื้องต้นสัก 5 ปีก่อน ก็จะเป็นผลดีต่อการผลิตจำนวนครูของคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏให้มีจำนวน พอเพียง และมีคุณภาพต่อไปในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา - ข่าวสดรายวัน หน้า 30 - วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6881