- แบกเป้ไป "เมืองปาย" ยามเมื่อฝนพรำ
เกือบ 1 ปีเต็ม ที่อุทกภัยได้ทำร้ายจิตใจของพี่น้องเมืองปายด้วยการพัดพาเอาบังกะโลที่พักที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำปาย หายไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ธุรกิจของเมืองท่องเที่ยวแห่งนี้ต้องหยุดชะงักลง ทว่าหนึ่งปีให้หลัง ปายกลับมาคึกคักด้วยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่หลั่งไหลเดินทางเข้ามาเยือนเมืองปายอีกครั้ง
ผมเองมีโอกาสไปเยือนเมืองในฝันของคนเดินทางอีกครั้งเมื่อต้นฤดูฝน เพื่อซึมซับบรรยากาศของเมืองปายยามสายฝนมาเยือน ซึ่งไม่ต่างจากฤดูแห่งการท่องเที่ยวที่ยังคงคราคร่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว
ชื่อเสียงของเมืองปายยังคงเลื่องลือระบือไกลไปในหมู่นักท่องเที่ยวในฐานะที่เป็นเมืองเงียบสงบและสวยงามในทุกฤดูกาล นอกเหนือจากธรรมชาติอันสมบูรณ์ วิถีชีวิตผู้คนที่ผสมผสานอย่างกลมกลืนระหว่างชาวไต มุสลิมและต่างชาติแล้ว ความงดงามแห่งศิลปวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายเผ่าได้ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวพากันเดินทางเข้ามาสัมผัสเมืองปายอย่างไม่ขาดสาย กระทั่งนักท่องเที่ยวทั่วไปรู้จักชื่อเมืองปายในฐานะ "หมู่บ้านโลก"
ด้วยการเดินทางที่ต้องผ่านภูเขาสูงหลายร้อยโค้ง ซึ่งมากเป็นอันดับหนึ่งของประเทศอีกทั้งยังถูกโอบล้อมด้วยกำแพงขุนเขา อันเปรียบเสมือนปราการธรรมชาติที่แบ่งกั้นเมืองแห่งนี้ออกจากผืนประเทศ จึงทำให้เมืองปายกลายเป็นเมืองของคนที่ตั้งใจจะเดินทางมาเยือนอย่างแท้จริง
มีเรื่องเล่าปนตลกเกี่ยวกับเส้นทางเข้าสู่แม่ฮ่องสอนซึ่งมีโค้งอยู่มากมายหลายโค้งว่า ครั้งหนึ่งมีพระภิกษุอยากจะรู้ว่าตลอดเส้นทางที่คดโค้งไปตามไหล่เขานั้นมีจำนวนเท่าไหร่ จึงนำเมล็ดมะขามขึ้นรถไปแม่ฮ่องสอนด้วย ตลอดเส้นทางเมื่อรถแล่นผ่านโค้ง พระภิกษุรูปนั้นก็จะโยนเมล็ดมะขามลงไปหนึ่งเมล็ด เมื่อถึงแม่ฮ่องสอนท่านจึงนับเมล็ดมะขามที่เหลืออยู่ในย่ามดู ปรากฏว่าเมล็ดมะขามหายไป 1,864 เมล็ด
ความสำคัญของเมืองปายในอดีต มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางฝั่งตะวันตกของล้านนาที่ขึ้นตรงต่อเจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ นอกจากนั้นยังเคยเป็นที่ตั้งทัพของแม่ทัพพม่าหลายสมัย รวมทั้งพระเจ้าบุเรงนองก็เคยใช้เมืองปายเป็นเส้นทางผ่านเข้าไปตีเมืองเชียงใหม่ได้สำเร็จ กระทั่งมีเหตุการณ์แย่งชิงเมืองปายเกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงเวลาดังกล่าว
เมืองปายนั้น เป็นเมืองที่สงบเงียบ มีวัฒนธรรม ประเพณีและธรรมชาติที่สวยงาม รวมทั้งผู้คนมีอัธยาศัยไมตรีอันดี ในความที่เป็นเมืองเล็ก ๆ เช่นนี้ ทำให้นักท่องเที่ยวผู้หลงใหลในธรรมชาติมักไม่พลาดที่จะเข้ามาทักทายเมืองปายแห่งนี้
หลังปี 2535 ชื่อเสียงของเมืองปายเริ่มเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ด้วยว่าเป็นเมืองที่มีความสวยงามของธรรมชาติ วัฒนธรรมประเพณีอันโดดเด่น ผู้คนน้ำใจดี ส่งผลให้บริษัททัวร์บางแห่งตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวด้วยการบรรจุเข้าไปในโปรแกรมของการท่องเที่ยว ทำให้มีผู้คนจากทั่วสารทิศแห่แหนเดินทางมาเยือนเมืองปายทั้งชาวไทยและต่างชาติในปีหนึ่งเป็นจำนวนหลายหมื่นคน ในบางปีจำนวนเกสต์เฮาท์ไม่พอรองรับนักท่องเที่ยว การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวส่งผลให้จำนวนเกสต์เฮาท์เพิ่มมากขึ้นพร้อม ๆ กับบาร์เบียร์และคอฟฟี่ชอป
เมื่อเดินทางเข้าสู่ตัวเมืองปาย จะสังเกตว่าเมืองแห่งนี้มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติพากันออกมาเดินกันอยู่ทั่วเมือง ขณะบริการรถจักรยานและมอเตอร์ไซด์ให้เช่าได้รับความนิยมมากที่สุด ร้านจักรยานที่เปิดให้เช่ามีทั้งรถจักรยานจ่ายกับข้าวที่แสนธรรมดาไปจนถึงจักรยานเสือภูเขาคันละหลายหมื่นบาท สนนราคาค่าเช่าเริ่มตั้งแต่คันละ 20 บาทถึง 100 บาท ในประเภทเสือภูเขาเช่นกันได้ 24 ชั่วโมง คนไหนถีบไปไกลนึกอยากอยู่หลายวัน วันที่กลับเอารถมาคืนค่อยจ่ายเงินก็ยังได้
เส้นทางที่นักท่องเที่ยวนิยมเที่ยวภายในหนึ่งวันก็คือ เส้นทางจากตัวเมืองปายเข้าสู่น้ำตกหมอแปง ซึ่งตัดผ่านทุ่งนา หมู่บ้านชาวเขา เข้าสู่น้ำตกระยะทางประมาณ 10 กว่ากิโลเมตร ส่วนใครที่อยากไปเที่ยวไกลกว่านี้คงต้องพึ่งบริการรถมอเตอร์ เพราะสามารถขับไปเที่ยวชมบ่อน้ำพุร้อนและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่อยู่ไกลออกไป ซึ่งมีให้เลือกมากมายในเมืองแห่งนี้
ส่วนวัดวาอารามในเมืองปายนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวควรแวะเข้าไปเที่ยวชม เพราะเป็นแหล่งประวัติศาสตร์ที่รวมเอางานสถาปัตยกรรมของชาวไทยใหญ่ซึ่งมีอายุเก่าแก่หลายร้อยปี เช่นที่ วัดกลาง และวัดน้ำฮู มีการฉลุลวดลายขนมปังขิงประดับตามเชิงชายหลังคาที่ลดหลั่นกันเป็นชั้นลงมาอย่างสวยงาม ถือเป็นรูปแบบเฉพาะวัดของชาวไทยใหญ่
ขณะที่บรรยากาศยามเย็นในตัวเมืองปายที่แสนอบอุ่นด้วยตลาดที่จำหน่ายสินค้าพื้นเมืองรวมไปถึงอาหารการกินของคนในท้องถิ่น ดึกอีกนิดก้มีร้านค้าจำหน่ายเครื่องดื่มไว้บริการนักท่องเที่ยวในสไตล์บ้านไม้ชนบท ทว่าข้างในตกแต่งด้วยรูปลักษณ์ตะวันตก นับเป็นการผสมผสานระหว่างสองวัฒนธรรมไว้อย่างกลมกลืนลงตัว
หากใครที่มีโอกาสเดินทางมาเที่ยวแม่ฮ่องสอนก็อย่าลืมแวะทักทายเมืองปาย บางทีสิ่งที่คุณตื่นเต้นอาจไม่ใช่การเดินทางที่ยากลำบากในการผ่านขุนเขามาหลายร้อยโค้ง หากแต่เป็นความลุ่มรวยของวัฒนธรรม ธรรมชาติและการดำรงอยู่อย่างเอื้ออารีระหว่างคนต่างถิ่นกับเจ้าของพื้นที่ต่างหาก
วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2549 14:49:00