" เหนือสุดแห่งสยาม ชายแดนสามแผ่นดิน ถิ่นวัฒนธรรมล้านนา " เชียงราย เมืองเหนือสุดของไทยมีสถานที่น่าชมมากมาย ทั้งเมืองโบราณเก่าแก่ที่เชียงแสน และสบรวก ดินแดนแห่งามเหลี่ยมทองคำ อันลือชื่อ
เชียงราย มีเนื้อที่ ๑๑,๖๗๘.๓๖๙ ตารางกิโลเมตร อยู่ห่างจากกรุงเทพฯ ๗๘๕ กิโลเมตร แบ่งการปกครอง ออกเป็น ๑๖ อำเภอ ๒ กิ่งอำเภอ คือ อำเภอเมือง อำเภอเชียงของ อำเภอพาน อำเภอแม่จัน อำเภอเชียงแสน อำเภอแม่สาย อำเภอแม่สรวย อำเภอเวียงป่าเป้า อำเภอป่าแดด อำเภอเวียงชัย อำเภอพญาเม็งราย อำเภอเทิง อำเภอเวียงแก่น อำเภอแม่ฟ้าหลวง อำเภอขุนตาล อำเภอแม่ลาว กิ่งอำเภอเวียงเชียงรุ้ง และกิ่งอำเภอดอยหลวง
ดอกไม้ประจำจังหวัด พวงแสด
ต้นไม้ประจำจังหวัด กาสะลองคำ หรือ ปีบทอง
ประวัติและความเป็นมา : เชียงรายเป็นเมืองที่ตั้งอยู่บนที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำกก จึงเป็นดินแดนที่มีผู้คนเข้ามาตั้งหลักแหล่งตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์ และมีความรุ่งเรืองสืบต่อกันมาหลายุคสมัย จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ค้นพบในเขตที่ราบลุ่มรอบแม่น้ำกก สันนิษฐานได้ว่าบริเวณนี้เป็นศูนย์กลางของชุมชนมาแล้วตั้งแต่ก่อนปี พ.ศ.1800 เพราะมีร่องรอยของซากเมืองที่มีความเจริญ ทางวัฒนธรรมและศิลปะ อยู่ตามริมแม่น้ำกก ซากเมืองโบราณที่ค้นพบในปัจจุบันมีถึง 27 เมือง ตั้งแต่ อ.ฝาง ของเชียงใหม่ ซึ่งเป็นต้นแม่น้ำกก มาจนถึงเมืองเชียงแสน ซึ่งโบราณสถานเหล่านี้ แสดงให้เห็นว่า มีชุมชนตั้งถิ่นฐานอยู่ในลุ่มแม่น้ำกก อย่างหนาแน่น และได้ขยายตัวสร้างบ้านแปงเมืองกันไม่ขาดสาย ประวัติศาสตร์ของเมืองเชียงรายเริ่มต้นในสมัยต้นพุทธศตวรรษที่ 19 โดยพญามังราย (พ.ศ.1781 - 1860) ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์มังราย บุตรของพญาลาวเม็ง ผู้ครองนครหิรัญนครเงินยาง (เชียงแสนในปัจจุบัน) ได้ขึ้นครองราชย์แทนพญาลาวเม็ง ในปี พ.ศ.1802 และได้ย้ายราชธานี จากเมืองหิรัญนครเงินยาง มาสร้างราชธานีแห่งใหม่ ที่ริมฝั่งแม่น้ำกก เมื่อ พ.ศ.1805 และได้ขนานนามว่า เชียงราย หมายถึง "เมืองของพญามังราย" จากนั้นจึงได้รวบรวมหัวเมืองต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเครือญาติสายเลือดลัวะจักราช เช่น เมืองเชียงไร เมืองไร เมืองปง เมืองเวียงคำ เชียงเงิน เชียงของ ฯลฯ เข้ามาไว้ในอำนาจ และแผ่อำนาจเข้าไปในเขตลุ่มน้ำปิง ปี พ.ศ.1839 ทรงย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำปิง ให้ชื่อราชธานีใหม่ว่า "นพบุรีศรีนครพิงค์ เชียงใหม่" และครองราชย์อยู่ที่เชียงใหม่ตลอด โดยให้ราชโอรส ไปครองเมืองเชียงรายแทน เชียงรายจึงกลายเป็นเมืองบริวารของเชียงใหม่ไป เมื่อพญามังรายสวรรคตลง ภายในอาณาจักรล้านนาอันมีเมืองเชียงใหม่เป็นราชธานีเกิดความแตกแยก เจ้าผู้ครองนครแก่งแย่งชิงอำนาจกัน จนเกิดสงครามกลางเมือง พระเจ้าบุเรงนองฉวยโอกาสเข้าตีอาณาจักรล้านนาสำเร็จ พม่าได้ปกครองอาณาจักรล้านนาเป็นเวลากว่า 200 ปี และได้ฟื้นฟูเมืองเชียงแสนขึ้นเป็นเมืองสำคัญ ในการปกครองของหัวเมืองฝ่ายเหนือ ต้นพุทธศตวรรษที่ 24 สมัยพระเจ้ากรุงธนบุรี พญากาวิละ เป็นผู้มีบทบาทสูง ในการเกลี้ยกล่อมให้บรรดาเมืองต่างๆ ในล้านนา ร่วมมือกันต่อสู้กับพม่า แต่ยังไม่สำเร็จ จนกระทั่งสมัยรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ทรงส่งกำลังมาสนับสนุนพญากาวิละ ต่อสู้กับพม่าจนเป็นผลสำเร็จ ทรงสถาปนาให้เชียงใหม่เป็นประเทศราชของกรุงรัตนโกสินทร์ และแต่งตั้งพญากาวิละเป็น "พระเจ้ากาวิละ" ปกครองเมืองเชียงใหม่ ในปี พ.ศ.2347 พระเจ้ากาวิละ ทรงยกทัพไปตีเมืองเชียงแสน และกวาดต้อนผู้คนออกจากบริเวณเมืองจนหมด เมืองต่างๆ รวมทั้งเชียงราย จึงถูกทิ้งให้เป็นเมืองร้าง ต่อมาในปี พ.ศ.2386 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 3 เชียงรายได้รับการบูรณะขึ้นอีกครั้ง ในฐานะเมืองบริวารของเชียงใหม่ โดยมีเชื้อพระวงศ์ชั้นผู้ใหญ่เป็นเจ้าปกครองนคร ในสมัยรัชกาลที่ 5 ทรงดำเนินนโยบายสร้างความเป็นเอกภาพทางการเมือง ประกาศจัดตั้งมณฑลพายัพขึ้น ในปี พ.ศ.2427 และยกเลิกหัวเมืองประเทศราชล้านนาไทย เมืองเชียงรายจึงจัดเป็นเมืองหนึ่งซึ่งขึ้นตรงต่อมณฑลพายัพ ในสมัยรัชกาลที่ 6 การปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลถูกยกเลิก เชียงรายจึงได้จัดตั้งขึ้นเป็นจังหวัดหนึ่งของสยามประเทศมานับแต่นั้น
อาณาเขต : ทิศเหนือ ติดต่อกับ ประเทศพม่าและลาว
ทิศใต้ ติดต่อกับ จังหวัดพะเยา และ จังหวัดลำปาง
ทิศตะวันออก ติดต่อกับ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ทิศตะวันตก ติดต่อกับ จังหวัดเชียงใหม่ และประเทศพม่า
หมายเลขโทรศัพท์สำคัญ (รหัสทางไกล 053) |
งานข่าวสารการท่องเที่ยว ททท. | 02-694-1222 ต่อ 8 , 02-282-9773 |
ททท.ภาคเหนือ เขต 2 | 053-717-433 , 053-744-674-5 |
สำนักงานจังหวัด | 053-711-632 |
ที่ว่าการอำเภอ
| 053-752-177 , 053-711-288 |
ประชาสัมพันธ์จังหวัด | 053-711-870 |
สมาคมท่องเที่ยวเชียงราย | 053-601-299 |
หน่วยบริการข้อมูลทางหลวง | 053-714-440 |
ตำรวจท่องเที่ยว | 053-717-779 , 1155 |
สภ.อ.เชียงราย
| 053-711-444 , 053-711-588 |
สภ.อ.ขุนตาล | 053-657-031-4 |
สภ.อ.เชียงของ | 053-791-426 |
สภ.อ.เชียงแสน | 053-777-111 , 053-777-191 |
สภ.กิ่ง อ.ดอยหลวง | 053-790-091 , 053-790-094 |
สภ.อ.เทิง
| 053-795-403 |
สภ.อ.ป่าแดด | 053-761-012 , 053-761-191 |
สภ.อ.พญาเม็งราย | 053-799-113 |
สภ.อ.พาน | 053-721-515 , 053-721-191 |
สภ.อ.แม่ขะจาน | 053-789-508 |
สภ.อ.แม่จัน
| 053-771-444 |
สภ.อ.แม่ฟ้าหลวง | 053-767-109 |
สภ.อ.แม่ลาว | 053-718-138 |
สภ.อ.แม่สรวย | 053-786-004 |
สภ.อ.แม่สาย | 053-731-444 |
สภ.อ.เวียงแก่น
| 053-608-081 , 053-608-191 |
สภ.อ.เวียงชัย | 053-769-236-7 |
สภ.กิ่ง อ.เวียงเชียงรุ้ง | 053-953-152-3 |
สภ.อ.เวียงป่าเป้า | 053-781-466 |
รพ.เชียงรายประชานุเคราะห์ | 053-711-300 |
รพ.เกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์ (อ.เมือง)
| 053-717-499 |
รพ.ค่างเม็งรายมหาราช (อ.เมือง) | 053-717-649-50 |
รพ.โอเวอร์บรู๊ค (อ.เมือง) | 053-711-366 , 053-715-830-3 |
รพ.ขุนตาล | 053-606-221-2 |
รพ.เชียงของ | 053-791-007 |
รพ.เชียงแสน
| 053-777-017 |
รพ.เทิง | 053-795-259 |
รพ.ป่าแดด | 053-654-479-80 |
รพ.พญาเม็งราย | 053-799-033 |
รพ.พาน | 053-721-345 |
รพ.แม่จัน
| 053-771-300 |
รพ.แม่ฟ้าหลวง | 053-765-402 |
รพ.แม่ลาว | 053-666-035 |
รพ.แม่สรวย | 053-786-017 , 053-786-063 |
รพ.แม่สาย | 053-731-300 |
รพ.เวียงแก่น
| 053-608-153 |
รพ.เวียงเชียงรุ้ง | 053-953-137-9 |
รพ.เวียงป่าเป้า | 053-648-815 |
รพ.สมเด็จพระญาณสังวร (อ.เวียงชัย) | 053-768-750-2 |