พ่อของผมเป็นคนดุ เสียงดังและมักจะอารมณ์เสียกับเรื่องต่างๆ อยู่เสมอ
เมื่อผมยังเป็นเด็กวัยรุ่น ผมไม่เคยเข้าใจกับคำสั่งของพ่อเลย บางอย่างมันก็เป็นเรื่อง ที่ฝืนความรู้สึกของผมโดยสิ้นเชิง การไปเตะฟุตบอลแล้วกลับบ้านค่ำเหมือนเพื่อนคนอื่นไม่ถูกต้องนักในสายตาของพ่อ ผมต้องกลับมาช่วยงานที่บ้านทุกวัน บางครั้งผมก็คิดว่าพ่อไม่เคยเข้าใจผมเลย ไม่ได้รักผมเลยแม้แต่นิดเดียว
เดือนธันวาคมของทุกปีโรงเรียนของผมมีการจัดงานวันพ่อ โดยมากจะมีการจัดบอร์ดเกี่ยวกับในหลวง แต่ปีนี้มีอะไรที่พิเศษกว่าอาจารย์ให้พวกเราเขียนการ์ดวันพ่อ การ์ดจะต้องถูกทำขึ้นเองและให้อาจารย์ตรวจก่อนส่งทางไปรษณีย์ไปที่บ้านของแต ่ละคน สำหรับผมแล้วเรื่องการ์ดนี้ไม่ได้มีความสำคัญไปมากกว่าการได้เตะฟุตบอล หรือ ว่าเตะตะกร้อ กับเพื่อนเลย มันออกจะเป็นความกระดากอายด้วยซ้ำที่จะต้องเขียนการ์ดอวยพรให้กับพ่อ หลายวันนั้นผมทำอะไรหลายอย่างกว่าจะได้ทำการ์ดก็เป็นวันสุดท้ายก่อนที่จะส่ง การ์ดสีฟ้าทำมาจากกระดาษแข็งที่เหลือมาจากจัดบอร์ดที่โรงเรียน ลายขลิบสีทองข้างๆผมก็ได้มาจากหมวกวันปีใหม่เก่าๆของน้อง ผมเขียนข้อความลงไปว่า .ขอให้พ่อมีความสุขและหายป่วยจากโรคที่เป็นอยู่ ผมคิดว่าถ้าผมเป็นอาจารย์ไอ้การ์ดใบนี้คงได้คะแนนไม่เกินห้าจากเต็มสิบแน่ๆ สองวันต่อมาผมกะว่าการ์ดจะต้องถูกส่งมาถึงที่บ้าน ทุกเย็นเมื่อกลับถึงบ้านผมจะรีบไปที่ตู้ไปรษณีย์เพื่อที่จะเก็บการ์ดของผมก่อน พ่อจะได้รับมัน
หลายวันต่อมาผมก็ไม่เห็นมีการ์ดส่งมาที่บ้านแล้วผมก็ลืมเรื่องนี้ไป
วันหนึ่งพ่อใช้ให้ผมไปหยิบของที่โต๊ะบัญชีเมื่อไขล็อคกุญแจและดึงลิ้นชักออก มา ผมพบการ์ดใบนั้นวางอยู่ ผมไม่รู้ว่าพ่ออ่านมันรึยัง ความรู้สึกของผมตอนนั้นคือเจ้าการ์ดใบนี้คือสิ่งที่ไม่น่าเก็บไว้ มันไม่ได้ทำมาจากความตั้งใจของผมเลยมันน่าจะหายไป แต่ว่าผมก็ยังไม่อยากจะทิ้งมันไปเลยนำมันซ่อนไว้ในลิ้นชักข้างๆกัน ต่อมาเมื่อผมเปิดลิ้นชักอีกครั้งก็พบการ์ดใบนี้วางอยู่เสมอ
คราวนี้ทุกครั้งที่ผมเจอมันผมจะนำมัน ไปเก็บไว้ที่อื่นเสมอ และ ไม่ว่ากี่ครั้งที่ผมเปิดลิ้นชักเดิมก็จะพบว่ามันอยู่ที่เดิมเสมอ ครั้งสุดท้ายที่ผมพบมันผมเก็บมันไว้ในที่ที่คิดว่าจะไม่เจอมันอีกเลย
และ เรื่องนี้พ่อกับผมไม่เคยพูดถึงมันเลย จากนั้นไม่นานพ่อก็จากไปด้วยโรคประจำตัว
ห้องของพ่อเหมือนกับถูกปิดตาย ไม่มีธุระจำเป็นจริงๆหรือว่าทำความสะอาด ก็จะไม่มีคนเข้าไปในห้องนั้นเลย ผมเข้ามาเรียนต่อในที่ใหม่มีเรื่องใหม่ ให้พบให้เจอทุกวัน ความทรงจำหลายอย่างเกี่ยวกับพ่อก็จางหายไป....
จนวันหนึ่งผมเจอปัญหา ในหัวของผมมีแต่เรื่องสับสน อยากหนีปัญหาไปไกลๆไม่อยากเจอแม้แต่ผู้คน ผมกลับมาที่บ้านไขกุญแจห้องพ่อแล้วเข้าไปในนั้น ที่ห้องของพ่อทุกอย่างยังเหมือนเดิม ข้าวของทุกชิ้นยังอยู่ครบเหมือนครั้งที่พ่อยังอยู่ ในห้องเงียบมากผมได้ยินแม้แต่เสียงหัวใจของตัวเอง
ผมเดินไปที่โต๊ะบัญชีที่พ่อมักจะนั่งอยู่ที่นั่นเสมอ ตอนนั้นผมคิดว่าถ้าพ่อยังอยู่พ่อจะทำอย่างไร จะแนะนำผมอย่างไร แล้วจะช่วยผมแก้ปัญหาอย่างไร ทันใดนั้นผมคิดถึงเรื่องเก่าๆเรื่องนึงขึ้นมา ผมรีบเอากุญแจไขลิ้นชักโต๊ะบัญชีด้วยความหวังว่ามันจะยังอยู่ เมื่อเปิดลิ้นชักผมก็พบมัน การ์ดสีฟ้าขลิบทอง ยังดูโดดเด่นอยู่ลิ้นชักของพ่อ มันยังอยู่ที่เดิมเหมือนทุกครั้ง
ถึงตอนนี้ผมรู้แล้วว่าพ่อรักผมมากขนาดไหน
ทุกครั้งที่การ์ดใบนี้หายไปพ่อจะหามันแล้วนำมัน มาเก็บไว้ที่เดิม
ไม่ว่ามันจะเป็นการ์ดที่ไม่มีราคาค่างวดใดๆและแทบจะหาความสวยงามใดๆไม่ได้เลย พ่อก็เก็บมันไว้เสมอ และ
สิ่งที่พ่อสอนผมด้วยการกระทำมันมากกว่าคำพูดทั้งหมด
พ่อสอนให้ผมมีความรับผิดชอบกับการกระทำของตนเอง
ให้มีความอดทนและไม่ท้อแท้กับปัญหาใดใด
เหมือนพ่อเคยเจอเสมอและผ่านมาได้ทุกครั้ง
ผมรู้สึกขึ้นมาทันทีว่าปัญหาที่ผมเจอตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลย กำลังใจจากการ์ดใบนั้นเหมือน จะค่อยๆแผ่ซ่านจากมือเข้ามาสู่หัวใจผม ในใจของผมรู้สึกอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาดเหมือนกับพ่ออยู่ในนั้น
ผมวางการ์ดเก็บไว้ที่ลิ้นชักตามเดิมและออกมาจากห้องของพ่อด้วยความรู้สึกที่แตกต่างกับเมื่อตอนที่เข้ามา
ก่อนประตูจะปิดลงผมบอกออกไปด้วยความรู้สึกที่พ่อก็มีให้ผมมาตลอดว่า
" พ่อครับ ผมรักพ่อ "
สิ่งที่น่าเสียดายคือผมไม่ได้พูดคำๆ นี้กับพ่อเมื่อท่านยังมีชีวิตอยู่
ดูหัวข้อเกี่ยวกับวันพ่อ