อาหารสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ และผิวพรรณ ที่สวยงาม จากภายในสู่ภายนอก


1,052 ผู้ชม


อาหารสมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพ และผิวพรรณ ที่สวยงาม

ผัก
 



         ความสวยความงาม นับเป็นเรื่องที่มนุษย์เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามีอิทธิพลต่อจิตใจของผู้คน หรือเรียกว่าเป็นจิตวิทยาของโลกเลยทีเดียว การได้เห็นของสวย ๆ งาม ๆ ย่อมทำให้จิตใจชุ่มชื่น แต่อย่างไรก็ตาม การดูแลร่างกายให้มีสุขภาพสมบูรณ์ด้วยทางอาหารที่ครบถ้วน ก็จะทำให้ผิวพรรณสดใสงดงามได้
         แต่ในปัจจุบันนี้สังคมได้พัฒนาไปมากด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง ได้มีการสกัดสารสำคัญจากธรรมชาติ เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เสริมความงามต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลชั่นบำรุงผิวพรรณ หรือเครื่องประทินความงามอื่น ๆ มาวางตลาดให้เลือก แต่ย่อมมีราคาแพง จึงส่งผลให้คนที่ยึดติดกับเรื่องความสวยความงามต้องเสียค่าใช้จ่ายไปกับ เรื่องนี้อย่างมหาศาล
         แต่วันนี้...ถึงไม่มีเงินก็สวยได้ เพราะเรามีสูตรเด็ดเคล็ดลับในการนำสมุนไพรไทยมาช่วยไม่ยากเริ่มต้นที่
         ว่านหางจระเข้ (Aloe indica Royle) คุณค่าของว่านหางจระเข้มีมากมาย นอกจากใช้รักษาโรคแล้ว ยังใช้บำรุงผิว บำรุงเส้นผมได้ด้วย ปัจจุบันจะเห็นได้ว่ามีแชมพูสระผม และเครื่องสำอางหลายอย่างที่ใช้ว่านหางจระเข้เป็นส่วนประกอบ และกำลังเป็นที่นิยมของคนทั่วไป ที่สำคัญว่านหางจระเข้มีคุณสมบัติช่วยให้กระบวนการเมตะโบลิซึมทำงานได้เป็นปกติ ลดการติดเชื้อ สลายพิษของเชื้อโรค กระตุ้นการเกิดใหม่ของเนื้อเยื่อส่วนที่ชำรุดได้
         ฉะนั้นว่านหางจระเข้จึงถูกนำมาใช้เพื่อบำรุงผิวพรรณ ผู้ที่ใช้ว่านหางจระเข้บำรุงผิวพรรณอยู่เป็นประจำ จะรู้สึกได้ชัดว่าผิวพรรณผุดผ่อง สดชื่น มีน้ำมีนวล และยังสามารถขจัดสิวและลบรอยจุดด่างดำได้ด้วย
         การใช้ว่านหางจระเข้เพื่อบำรุงผิว เริ่มต้นที่ปอกเปลือกออกใช้แต่เมือกวุ้นสีขาวใสที่อยู่ภายใน แต่เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการแพ้ ก่อน ใช้ควรตรวจสอบว่าตนเองจะเกิดอาการแพ้หรือไม่ โดยใช้น้ำที่ได้จากวุ้นสีขาวของว่านหางจระเข้ทาตรงบริเวณโคนหูแล้วทิ้งไว้ สักครู่ ถ้าเกิดการระคายเคืองเป็นผื่นแดงแสดงว่าแพ้ ไม่เหมาะที่จะใช้กับผิวหน้าอีกต่อไป ถ้าไม่มีอาการแพ้ก็สามารถใช้ได้ตลอด เมื่อใช้ว่านหางจระเข้ทาบริเวณหัวสิว จะทำให้หัวสิวแห้งเร็ว ส่วนคนที่มีผิวที่มันก็จะช่วยให้ลดความมัน คนที่มีผิวหน้าแห้งก็ยังรักษาความชุ่มชื่นของผิวไว้ได้
         ต่อมาเป็น งา (Sesamum indicum Linn., S. orientle,L) พืช ล้มลุกที่ให้เมล็ดเป็นจำนวนมาก เมล็ดงามีทั้งสีดำและสีขาว ซึ่งในเมล็ดงามีน้ำมันอยู่ประมาณ 45-54 % น้ำมันงามีกลิ่นหอมน่ารับประทาน สำหรับคนที่ผิวหยาบกร้านสามารถนำเอาเมล็ดงาสดมาบีบน้ำมันงาออกโดยไม่ผ่านความร้อน ใช้ทาผิวหนังเพื่อบำรุงผิวพรรณให้ผุดผ่อง ช่วยประทินผิวให้นุ่มนวลไม่หยาบกร้านได้
         แตงกวา ก็เช่นกันเป็นผักที่มีวิตามินสูง ในผลแตงกว่ายังมีเอนไซม์ cryssin ซึ่ง ช่วยย่อยโปรตีนได้ เอนไซม์ชนิดนี้จะช่วยย่อยผิวหนังที่หยาบกร้าน ให้หลุดออกไป เพื่อให้ผิวใหม่ที่อ่อนนุ่มเกิดขึ้นมาแทนที่ บางคนใช้แตงกวาสดผ่าเป็นชิ้นบาง ๆ วางบนใบหน้าที่ล้างสะอาดแทนน้ำแตงกวา ปัจจุบันมีน้ำแตงกวาผสมในเครื่องสำอาง เช่น ครีมล้างหน้า ครีมทาตัว เพื่อช่วยให้ผิวไม่หยาบกร้าน และช่วยสมานผิว แตงกวาเป็นสมุนไพรที่หาง่ายมีประโยชน์ราคาถูก ใช้ติดต่อกันเป็นประจำจะทำให้สวยสดชื่นมีน้ำมีนวล
         แต่สำหรับ มะเขือเทศ แล้วเป็นผักที่มีวิตามินหลายชนิด น้ำจากผลมะเขือเทศสุกจะมีสาร 1icopersioin ซึ่ง มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราและแบคทีเรียได้ และน้ำมะเขือเทศสด นำมาพอกหน้าจะรักษาสิวสมานผิวหน้าให้เต่งตึง หรืออาจจะฝานบางๆ แปะลงบนผิวหน้าก็ได้เช่นกัน
         ส่วน ขมิ้นชัน จะมีฤทธิ์ในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อราหลายชนิด ใช้ทาผิวที่มีผดผื่นคันได้ ผงขมิ้นใช้ทาตัวเพื่อให้มีสีเหลืองทอง ใช้บำรุงผิว และช่วยฆ่าเชื้อที่ทำให้เกิดโรคผิวหนังบางชนิดได้อีกด้วย
         ต่อมาถึงคิวของ น้ำผึ้ง ที่ได้จากผึ้ง ในน้ำผึ้งประกอบด้วยน้ำตาลกลูโคส, ฟรุกโตส, ขี้ผึ้ง, อัลบูมินอยด์, ละอองเกสรดอกไม้, และ ฮอร์โมนเอสโตรเจนจำนวนเล็กน้อย น้ำผึ้งใช้เป็นส่วนประกอบของเครื่องสำอาง ใช้พอกหน้าทำให้ผิวหน้าชุ่มชื่น เปล่งปลั่งมีน้ำมีนวลขึ้น น้ำผึ้งยังมีคุณสมบัติช่วยสมานผิว น้ำผึ้งเป็นเครื่องสำอางจากธรรมชาติที่ให้ประโยชน์สูงและหาง่าย นอกจากนี้ยังใช้น้ำผึ้งบำรุงผม ฮอร์โมนเอสโตรเจนจะช่วยบำรุงหนังศรีษะ และกระตุ้นการงอกของเส้นผมอีกด้วย
         มะขามเปียก ก็เช่นกันที่สามารถช่วยชำระสิ่งสกปรกจากผิวหนัง เพราะฤทธิ์ที่เป็นกรดอ่อน ๆ ในมะขามจะช่วยขจัดสิ่งสกปรกจากผิวหนังได้ดี ปัจจุบันได้มีหญิงไทยจำนวนมาก ใช้มะขามเปียกผสมน้ำอุ่นและนมสดผสมให้เข้ากันดี พอกบริเวณผิวหนัง โดยเฉพาะบริเวณที่เป็นรอยด้าน เช่น ตาตุ่ม ข้อศอก ฝ่ามือ ที่มีรอยกร้านดำ และบริเวณรักแร้ ขาหนีบ เพื่อให้ผิวหนังที่เป็นรอยดำจางลง ทำให้ผิวขาวนุ่มนวลขึ้น และนมสดจะช่วยบำรุงผิวให้นุ่มได้
         สมุนไพรทั้งหมดที่ว่านี้เป็นภูมิปัญญาพื้นบ้านที่มีการใช้สืบต่อกันมาเป็นเวลานาน และได้ถูกลืมไปชั่วระยะหนึ่ง เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยี และค่านิยมของคนไทยต่อค่านิยมด้านวัตถุ ทำให้คนรุ่นใหม่สนใจสินค้าจากต่างประเทศ แต่ปัจจุบันเป็นที่สังเกตว่าคนต่างประเทศสนใจภูมิปัญญาไทย โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงาม ซึ่งจะเห็นบ่อยว่ามีผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับความงามที่มีส่วนผสมของสมุนไพร
         การที่เราหันไปใช้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูป ใช้สะดวกราคามักจะสูง แต่ถ้าเรานำเอาวัตถุดิบที่มีอยู่ในบ้านเรามาใช้เอง อีกทั้งมีราคาถูก ไม่มีสารเคมีเจือปน อะไรที่เราหาได้ง่าย และเป็นผลิตภัณฑ์ที่เราปลูกใช้ได้เราจะทำให้เราพึ่งตนเองได้
         ทั้งประหยัดแถมทำให้สวยใส ปิ้ง!! ได้ขนาดนี้ ไม่ลองใช้ดู จะพูดว่า “เสียดาย” แน่นอน...


ขอขอบคุณข้อมูลบจาก 
https://www.daradaily.com/news/

อัพเดทล่าสุด