การดูแล จุดซ่อนเร้น เรื่องที่ต้องเปิดเผย เพื่อการดูแลที่ถูกต้อง


822 ผู้ชม


เรื่องที่ต้องเปิดเผย ของจุดซ่อนเร้น

จุดซ่อนเร้น
 


          แค่ดูแลความสะอาด หมดจดตั้งแต่โคนผมจรดปลายเท้า ก็นับว่าคุณได้ถ้วยชนะเลิศ สาขาสุขอนามัยไปแล้ว แต่ข้อมูลต่อจากนี้ จะทำให้สาวรักสุขภาพได้รางวัลพิเศษ...สิ่งนั้นคือ เสน่ห์จากของรักของหวงที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสตรีเพศ และนี่เป็นเรื่องของจุดเร้นลับที่สุดในร่างกาย ที่สมควรอย่างยิ่งกับการนำมาเปิดเผย!!!

ทำความรู้จักกับ "คุณน้อง"
          อวัยวะเพศของสตรีที่เราขอเรียกแบบลำลองว่า "คุณน้อง" เริ่มจากภายนอกที่เป็นเนินไขมันปกคลุมลงมาตั้งแต่หัวเหน่า และมีขนอ่อนขึ้นปกคลุมมากน้อยแล้วแต่กรรมพันธุ์ของแต่ละคน
          จากนั้นก็มีกลีบเนื้อ ที่มีลักษณะเหมือนประตูปิดช่องทางที่จะเข้าไปเชื่อมต่อกับอวัยวะภายใน โดยที่ส่วนบนของกลีบเนื้อดังกล่าว จะมาบรรจบกันเป็นหนังหุ้มปุ่มปมประสาท สัมผัสที่รับรู้เกี่ยวกับการกระตุ้นทางเพศที่เรียกว่า "คลิตอริส" (Clitoris)
          บริเวณปากทางที่กลีบเนื้อสองข้างมาปิดเอาไว้ คือ ปากช่องคลอด ซึ่งจะเป็นช่องทางลึกเข้าไปภายใน ช่องคลอดของผู้หญิงนั้นจะมีลักษณะเป็นลูกคลื่นเป็นลอน ๆ เพื่อช่วยในการขับถ่ายเอา "ตกขาว" ซึ่งเกิดจากการหลุดลอกตัวของผิวหนัง ที่ปกคลุมช่องคลอดอยู่รวมกับน้ำเมือกต่าง ๆ ออกมา
ธรรมชาติของเธอ
          ตกขาวของผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาถ้า มีลักษณะเป็นสีขาวขุ่น ไม่มีกลิ่นและไม่มีอาการระคายเคือง และจะมีมากขึ้นในช่วงเวลาที่ใกล้จะมีรอบเดือน หลังจากรอบเดือนผ่านไป ตกขาวจะมีลักษณะใส ๆ และมีน้อยลง จากนั้นจะมีเมือกใส ๆ เพิ่มมากขึ้นใน ช่วงกลางของรอบเดือน เมื่อมีการตกไข่
          ส่วนที่ลึกที่สุดของช่องคลอดจะต่อเนื่องกับปากมดลูก ที่จะเป็นทางเชื่อมต่อเข้าสู่โพรงมดลูก ท่อรังไข่และช่องท้องส่วนอุ้งเชิงกราน ปากมดลูกนี้จะเปิดขยายและมีมูกออกมามาก ในวันที่มีการตกไข่ช่วงปลายของรอบเดือน เพื่อให้ตัวอสุจิมาสามารถแหวกว่ายเข้าไปภายในโพรงมดลูกได้ง่ายขึ้น
          ถ้ามีเพศสัมพันธ์ในวันดังกล่าว และเมื่อเวลามีประจำเดือนออกมา เนื่องจากการหลุดลอกตัวของเยื่อบุโพรงมดลูก ปากมดลูกก็จะเปิดออกอีกครั้ง เพื่อให้เลือดประจำเดือนไหลออกมาจากโพรงมดลูก เข้าสู่ช่องคลอดและออกสู่ภายนอก
          ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่สุขอนามัยของ "คุณน้อง" จะ อ่อนแอ และถ้าไม่รักษาความสะอาดให้ดี อาจเกิดการติดเชื้อแบคทีเรียจากภายนอก รุกรานผ่านปากมดลูกที่เปิดขยาย เพราะมีเลือดประจำเดือนเป็นอาหารอันโอชะ จนแบคทีเรียเกิดการแพร่พันธุ์ ทำให้เกิดการอักเสบติดเชื้อของมดลูกและปีกมดลูกได้
          ช่วงเวลาที่มีประจำเดือน จึงต้องเป็นช่วงเวลาที่ผู้หญิงจะต้องรู้จักการทำความสะอาดอวัยวะเพศอย่างถูก วิธี เพื่อเป็นการป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้

          อย่างไรก็ตาม ภายในช่องคลอดนั้นจะมีเชื้อแบคทีเรียที่เป็นมิตรต่อมนุษย์อาศัยอยู่ มีชื่อว่า แลคโตแบซิลลัส (Lactobacillus) แบคทีเรียชนิดนี้จะทำหน้าที่เหมือนทหารยามคอยปกป้อง ไม่ให้เชื้อโรคภายนอกรุกรานเข้าไปทำอันตราย โดย การปรับสภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดให้เป็นกรดอ่อน ๆ มีค่าความเป็นกรดด่างอยู่ที่ประมาณ 4-4.5 ซึ่งไม่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของเชื้อรา หรือเชื้อแบคทีเรียที่เป็นอันตรายอื่น ๆ

          การรับประทานยาปฏิชีวนะที่ออกฤทธิ์ครอบคลุมกว้างเป็นเวลานาน จะไปทำลายแบคทีเรียแลคโตแบซิลลัสที่เป็นมิตรให้หมดไป จนเชื้อโรคประเภทเชื้อราฉวยโอกาสเข้ามา ทำให้เกิดการอักเสบได้ เช่นเดียวกับการสวนล้างช่องคลอดด้วยน้ำหรือน้ำยาฆ่าเชื้อ นอกจากไม่เกิดประโยชน์แล้ว ยังจะไปทำลายแบคทีเรียที่เป็นมิตรซึ่งทำหน้าที่ ป้องกันโรคที่อาศัยอยู่ภายในช่องคลอดด้วย

เรียนรู้ เพื่อดูแล
          ปกติช่องคลอดผู้หญิงจะรู้จักทำความสะอาดภายในเองอยู่แล้ว โดยขับออกมาเป็นตกขาวซึ่งบางครั้งอาจจะมาก บางเวลาก็อาจจะน้อย การชะล้างเพียงภายนอกให้ตกขาวที่ออกมาเปรอะเปื้อนหมดไป ก็เป็นการเพียงพอแล้ว

          แต่ การเรียนรู้ที่จะดูแลสุขอนามัยของอวัยวะเพศสตรีนั้น เป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ที่จะต้องเรียนรู้เพื่อที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีซึ่งต่อไปนี้ จึงเป็นหลักการและวิธีการที่แนะนำ...
ขนอ่อน ๆ ภายนอก
          ธรรมชาติมีไว้ช่วยป้องกันไม่ให้กลิ่นต่าง ๆ ที่อับชื้นระเหยออกมา จึงไม่ควรที่จะถอนทึ้งหรือดึงเล่นแต่อย่างใด รวมทั้งไม่ควรโกนหรือย้อมสีด้วย จะอนุญาตก็แค่เล็ม ๆ ตัดแต่งให้สวยงามเท่านั้น

บริเวณซอกหลีกและรอยพับของกล้ามเนื้อ
          ถ้ามีคราบไคลมาหมักหมมก็ให้ชะล้างออกด้วยน้ำอุ่น ๆ ถ้ายังสะอาดไม่พอ การใช้โฟมอนามัยเฉพาะที่ ที่มีความเป็นกรดด่างใกล้เคียงกับผิวหนังบริเวณดังกล่าว คือประมาณ 5.5 ก็จะช่วยให้รู้สึกว่าสะอาดขึ้นได้
ไม่ควรสวนล้างช่องคลอด
          ไม่ว่าจะด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโดยไม่จำเป็น เพราะจะทำให้สภาพแวดล้อมภายในช่องคลอดเปลี่ยนไป จนอาจเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
ควรให้ฝ่ายชายสวมถุงยาง
          สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เพราะนอกจากจะสามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้แล้ว ยังทำให้ "คุณน้อง" สะอาดไม่ต้องมีน้ำอสุจิ ตกค้างหมักหมมอยู่ภายในช่องคลอด รวมทั้งลดโอกาสการติดเชื้อรา ซึ่งอาจหลงอยู่ภายใต้ผิวหนังหุ้มปลายอวัยวะของฝ่ายชายที่ทำความสะอาดมาไม่ดี
หลังมีเพศสัมพันธ์
          การทำความสะอาดภายนอกก็เป็นการเพียงพอแล้ว และในกรณีที่ฝ่ายชายหลั่งน้ำอสุจิไว้ภายนอก ควรรีบไปชะล้างด้วยน้ำอุ่นทันทีหลังจากเสร็จภารกิจ เพื่อทำให้น้ำอสุจิที่เปรอะเปื้อนบริเวณขนอ่อน ๆ ได้รับการชำระล้างออกไปหมดจนไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง การใช้สบู่อ่อน ๆ หรือน้ำยาและโฟมทำความสะอาดก็สะดวกดี
เปลี่ยนผ้าอนามัยบ่อย ๆ
         ระหว่างมีประจำเดือน อย่ารอจนผ้าอนามัยเปียกชุ่มแล้วจึงเปลี่ยน เพราะเลือดที่ตกค้างอยู่บนแผ่นอนามัยนั้น อาจทำให้ผิวหนังบริเวณปากช่องคลอดระคายเคือง และเป็นผื่นแพ้ได้ง่าย ควรทำความสะอาด "คุณน้อง" อย่างน้อยวันละสองครั้ง ในตอนเช้าและเย็น ส่วนผ้าอนามัยชนิดสอดเพื่อความสะดวกบางประการนั้น ควรเลือกใช้ชนิดที่สะอาดปลอดภัย ได้มาตรฐาน รวมทั้งไม่เก็บผ้าอนามัยไว้ในทีอับชื้น เช่น ตามซอกตู้ ใต้อ่างน้ำ หรือตามหลืบลิ้นชัก เพราะอาจขึ้นราได้ง่าย
หลังจากอาบน้ำ
          ทำความสะอาด "คุณน้อง" จนสะอาดแล้ว ควรซับด้วยผ้าเช็ดตัวแห้ง ๆ ที่เป็นผ้าฝ้าย 100 เปอร์เซ็นต์ ไม่ควรเช็ดถู อย่างรุนแรง และควรนำผ้าเช็ดตัวออกตากแดด ให้แห้งทุกวัน ไม่ควรตากไว้หน้าห้องน้ำเพราะจะอับชื้นและขึ้นราได้
กางเกงในหรือชุดชั้นใน
          ควรเป็นผ้าฝ้ายที่มีเนื้อผ้าบางเบาอากาศถ่ายเทสะดวก จะช่วยลดความอับชื้นของ "คุณน้อง" และควรซัก ตาก ให้แห้งก่อนนำมาใช้
          คราวนี้ "คุณน้อง" ของสาว ๆ คงดีใจ เพราะจะได้สดชื่น สดใสตลอดไปแล้ว..เย้...ยย


ขอขอบคุณข้อมูลจาก
Front

อัพเดทล่าสุด