พ.ญ.พัฒศรี พงษ์สถิตย์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญ Anti-aging Medicine : เคยสังเกตมั้ยค่ะ ว่าเวลาที่เรายืนหรือเดินนานแล้ว จะมีอาการปวดเท้า เมื่อยเท้า ร่วมกับมีอาการเวียนศีรษะ เมื่อยร่างกายและก็ปวดหลังตามมาด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าเท้าเป็นศูนย์รวมเส้นประสาทที่สำคัญจุดหนึ่งของร่างกาย เลย แต่นอกจากอาการที่กล่าวมาแล้ว ยังมีอาการอื่นๆ อันตรายอื่นๆ ที่สามารถเกิดขึ้นกับเท้าได้อีกด้วย จะเป็นยังไงนั้น เรามาติดตามกันค่ะ
          อาการเสี่ยงแรก คือ การเกิดตะคริวค่ะ การเดิน ยืน หรือนั่งผิดท่าเป็นเวลานาน ทำให้กล้ามเนื้อที่ต้นขาและน่องเกิดอาการแข็งเกร็งและก็ปวด ถ้าพยายามขยับกล้ามเนื้อในส่วนนั้น ก็จะยิ่งทำให้ปวดมากขึ้น สาเหตุหลักๆ มาจากการไหลเวียนของโลหิตไม่สะดวกนั่นเอง หากเกิดอาการ ควรหยุดเดินทันที พร้อมทั้งนวดและถูให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นคลายตัวลงค่ะ 
          อาการเสี่ยงที่สอง คือ เล็บขบ เกิดได้จากการตัดเล็บเท้า โดยไม่ใส่ใจสรีระรูปเล็บ หรือว่าชอบสวมรองเท้าหัวเรียวแหลม และก็เดินเป็นเวลาหลายชั่วโมง ฟังดูไม่อันตรายนะคะ แต่ว่าปล่อยทิ้งไว้ นอกจากจะทำให้มีอาการปวดทรมานแล้ว ยังทำให้เกิดการอักเสบ และก็เป็นแผลลุกลามติดเชื้อได้ง่ายอีกด้วย
          สุดท้าย คือ อาการเส้นเลือดขอด หรือเรียกให้ถูกต้องคือ Venous Insufficiency เกิดจากการยืน เดิน หรือว่าใส่ส้นสูงเป็นเวลานานๆ ทำให้เลือดไม่สามารถไหลย้อนกลับขึ้นมาจากขา ได้ นอกจากจะมีอาการปวดแล้ว ในบางรายรุนแรงถึงขั้นต้องผ่าตัดเอาเส้นเลือดดำออกเลยนะคะ
          อาการต่างๆ เหล่านี้จะไม่เกิดขึ้นเลยนะคะ ถ้ามีการดูแลสุขภาพเท้าที่ดีอย่างสม่ำเสมอ หมั่นนวดและบำรุงเท้าอยู่บ่อยๆ เพราะว่านอกจากจะทำให้สุขภาพเท้าดีแล้ว ยังมีเรียวขาและเท้าสวยๆ ไว้อวดใครๆด้วยนะคะ

ขอขอบคุณข้อมูลจาก
https://www.mcot.net/