เด็กดี เด็กเก่ง เด็กอัจฉริยะ เกิดจากส่งเสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกตั้งแต่แรกเกิด เปิดโอกาสแห่งการเรียนรู้โลกกว้างอย่างต่อเนื่อง

เมื่อเดือนที่แล้วเราได้พูดถึงระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยในครรภ์กันไปแล้วนะคะ
เดือนนี้เรามาต่อกันที่การส่งเสริมระบบภูมิคุ้มที่ดีให้กับลูกน้อยแรกเกิดเพื่อให้ลูกน้อย
มีระบบภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์ พร้อมเรียนรู้โลกกว้างได้อย่างเต็มศักยภาพค่ะ 

นับตั้งแต่วันแรกที่ลูกน้อยคลอดออกมา ลูกน้อยต้องปรับตัวเป็นอย่างมาก ระบบภูมิคุ้มกัน
ที่ได้รับจากแม่คือส่วนสำคัญที่สุดที่จะช่วยปกป้องลูกน้อยจากเชื้อโรคต่างๆ ในขณะเดียวกัน
คุณแม่ก็ต้องดูแลไม่ให้ลูกน้อยเจ็บไข้ได้ป่วยโดยเฉพาะในช่วงเดือนแรกหลังคลอดด้วยนะคะ
เช่น ล้างมือก่อนอุ้มหรือสัมผัสลูกน้อย ไม่พาลูกน้อยที่เพิ่งคลอดออกไปนอกบ้าน และไม่อุ้ม
ลูกน้อยเข้าใกล้คนที่ไม่สบาย เป็นหวัด หรือคัดจมูกค่ะ

ระบบภูมิคุ้มกันของเรามีความสลับซับซ้อนมากนะคะแต่ก็ไม่น่าเชื่อว่าจะทำงานประสานกัน 
ได้เป็นอย่างดี ตรวจสอบและจัดการกับเชื้อโรคต่างๆ ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายได้ เช่น ร่างกาย
ของเราได้รับเชื้อแบคทีเรีย เซลล์เม็ดเลือดขาว หรือที่เราเรียกว่า Antibodies ในร่างกาย
ก็จะตรวจสอบว่าเป็นแบคทีเรียชนิดดี หรือชนิดร้าย หากพบว่าเป็นแบคทีเรียชนิดร้าย ร่างกาย
ก็จะตรวจสอบอีกว่าเป็นแบคทีเรียชนิดใหม่หรือเป็นชนิดที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกัน                             
แล้ว ถ้าเป็นแบคทีเรียชนิดร้ายที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันแล้วก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้าเป็นแบคทีเรียชนิดร้ายตัวใหม่ ร่างกายของเราก็จะสร้าง Antibody
ขึ้นมาสู้กับแบคทีเรียชนิดร้ายตัวนั้น โดยเฉพาะ ถ้าร่างกายของเรา
แข็งแรงพอก็จะต่อสู้กับแบคทีเรียชนิดนั้นได้ แต่ถ้าช่วงนั้น
ร่างกายเราอ่อนแอ เราก็อาจจะเจ็บป่วยเพราะร่างกายไม่สามารถ
จัดการกับเชื้อแบคทีเรียตัวนั้นได้ ทั้งหมดนี้ก็คือระบบภูมิคุ้มใน
ร่างกายของเรา ที่ปกป้องไม่ให้เราเจ็บป่วยจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
ที่เข้าสู่ร่างกายได้ง่าย ถ้าเราดูแลตัวเองให้แข็งแรงอยู่เสมอ
เมื่อเราป่วยเราก็จะฟื้นตัวได้เร็วกว่าปกติด้วย
 
 
 

ระบบภูมิคุ้มกันของลูกน้อยแรกคลอดจะไม่แข็งแรง เท่ากับเด็กโต หรือผู้ใหญ่นะคะ และจำเป็นต้องใช้ เวลาหลายเดือนในการสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้ สมบูรณ์พร้อมที่จะต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ หากลูกน้อย คลอดออกมาและมีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรง ยอด คุณแม่ก็วางใจได้ในระดับหนึ่งว่า ลูกน้อยจะมีระบบ ภูมิคุ้มกันที่ดีพอที่จะจัดการกับเชื้อโรคต่างๆ แต่อย่าลืมนะคะว่าเรื่องของโรคภัยไข้เจ็บมีวิวัฒนาการ ที่รวดเร็วมาก จนบางครั้ง วิทยาการทางการแพทย์ก็ ตามไม่ทัน ฉะนั้นตั้งแต่ตั้งครรภ์เราต้องดูแลตัวเอง เป็นอย่างดีเพื่อให้เรามีระบบภูมิคุ้มกันที่สมบูรณ์พอ พร้อมที่จะถ่ายทอดให้ลูกน้อยผ่านทางรก ซึ่งจะช่วย ปกป้องลูกน้อยได้อีกหลายเดือนจนถึงคลอด แต่ เนื่องจากช่วงแรกคลอดระบบภูมิคุ้มของลูกก็ยังทำงาน ได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่กลับต้องเผชิญกับเชื้อโรค ต่างๆ ที่มองไม่เห็นอีกมากมาย ลูกน้อยจึงจำเป็นต้อง ได้รับภูมิคุ้มกันที่ดีจากแม่ผ่านทางนมแม่ด้วย โดยเฉพาะน้ำนมเหลือง ที่อุดมไปด้วยภูมิคุ้มกันที่ดี ที่ช่วยปกป้องลูกน้อยจากโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ ได้ตลอดช่วงแรกซึ่งเป็นช่วงสำคัญของชีวิต

นมแม่เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการมาก ส่วนเรื่องของการช่วยส่งเสริมในเรื่องของระบบ ภูมิคุ้มกันยังไม่ค่อยมีใครพูดถึงกันเท่าไร โดยเฉพาะ “น้ำนมเหลือง” น้ำนมแรกจาก อกแม่ที่มีสารภูมิคุ้มกันมากมายที่จะช่วยจัดการ กับเชื้อโรคต่างๆ ที่เข้าสู่ร่างกายของลูกน้อย ช่วยให้ลูกน้อยมีสุขภาพแข็งแรงนับตั้งแต่ วันแรกที่ลืมตาดูโลก ลูกที่ได้รับนมแม่จะ เจ็บป่วยน้อยกว่า และระยะเวลาในการเจ็บป่วย ก็จะน้อยกว่าด้วย สำหรับนมแม่ที่ปั๊มเก็บไว้ใน ตู้เย็นนั้น เวลาจะนำออกมาให้ลูกกิน ไม่ควรนำ

เข้าไปอุ่นร้อนในไมโครเวฟค่ะ เพราะจะทำลายภูมิคุ้มกันที่ถ่ายทอดผ่านทางน้ำนมแม่ แค่นำไปแช่
ในน้ำอุ่นๆ ก็เพียงพอแล้วค่ะ นอกจากนั้นก็ยังมีสารอาหารสำคัญที่ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิคุ้มกัน
ให้ลูกน้อยได้ ไม่ว่าจะเป็น DHA ที่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของระบบทางเดินหายใจใยอาหาร
2 ชนิด กาแลคโตโอลิโกแซคคาไรด์ และอินนูลิน ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของระบบทางเดิน
อาหาร และ Zing (สังกะสี) ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันโดยรวมของร่างกาย การให้ลูกน้อยกิน
นมแม่และได้รับสารอาหารสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันอย่าง เพียงพอจะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ลูกน้อย
มีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรงตลอดไปค่ะ    ระบบภูมิคุ้มกันของลูกเป็นเรื่องที่สำคัญมากนะคะ หากยอดคุณแม่เข้าใจเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
ของลูกน้อย และประโยชน์ของภูมิคุ้มกันที่ถ่ายทอดจากแม่สู่ลูก รวมถึงการดูแลและส่งเสริมให้
ลูกมีระบบภูมิคุ้มกันที่ดีอยู่เสมอลูกน้อยของยอดคุณแม่ก็จะพร้อมเรียนรู้โลกกว้างอย่างต่อเนื่อง
แล้วล่ะค่ะ

ที่มา เอนฟา สมาร์ท คลับ