ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต


870 ผู้ชม


ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต
  โอกาสทองของมหัศจรรย์แห่งพัฒนาการลูกน้อยนั้น เริ่มต้นตั้งแต่ในครรภ์จนถึง 3 ขวบปีแรก
เท่านั้นนะคะ โดยเฉพาะสมองและระบบภูมิคุ้มกันของลูกคือส่วนสำคัญอย่างยิ่งที่จะทำให้ลูก
เกิดการเรียนรู้ที่ดี เราจึงต้องส่งเสริมให้ลูกน้อยมีพัฒนาการที่สมบูรณ์พร้อมทั้งทางสมอง
และระบบภูมิคุ้มกันตั้งแต่เขายังอยู่ในครรภ์ นั่นคือเหตุผลที่ไม่สามารถมองข้าม 2 ปัจจัยนี้ได้
เพื่อให้เจ้าตัวเล็กพร้อมเรียนรู้โลกกว้างอย่างต่อเนื่องค่ะ   ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต
ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิตภูมิคุ้มกันของลูกน้อยเริ่มต้นสร้างตั้งแต่ลูกน้อยยังอยู่ในครรภ์
ของคุณแม่แล้วนะคะ เรียกได้ว่าคุณแม่เป็นคนกำหนดพัฒนาการ
ของภูมิคุ้มกันของลูกเลยล่ะค่ะ เพราะอาหารทุกอย่างที่คุณแม่
ทาน กิจกรรมทุกอย่างที่คุณแม่ทำล้วนส่งผลต่อพัฒนาการ
ของลูกน้อยในครรภ์ทั้งนั้นค่ะ หากคุณแม่ให้ความสำคัญกับ
อาหารที่ช่วยเสริมสร้างสมองพร้อมพัฒนาระบบภูมิคุ้มกันของ
ลูกน้อยอย่างเพียงพอแล้ว ลูกน้อยก็จะได้รับสารอาหารดีๆ
มีคุณค่าต่อพัฒนาการตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ เมื่อลูกลืมตาดูโลก
คุณแม่ก็จะชื่นใจกับพัฒนาการต่างๆ ของลูกที่เกิดจากการ
ดูแลและเอาใจใส่จากคุณแม่เป็นอย่างดีค่ะ
ยิ่งถ้าคุณแม่วางแผนและดูแลตัวเองเป็นอย่างดีตั้งแต่ยังไม่
ตั้งครรภ์ด้วยแล้วล่ะก็ หมดกังวลเรื่องพัฒนาการของลูกได้
เลยค่ะ เพราะเขาจะมีพัฒนาการที่ดีอย่างที่คุณแม่ปรารถนาค่ะ
  ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต
ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิตภูมิคุ้มกันที่ถ่ายทอดจากคุณแม่สู่ลูกน้อย
ในครรภ์นั้นจะช่วยปกป้องลูกจากเชื้อโรค
ต่างๆ ได้เป็นอย่างดีไม่ว่าคุณแม่จะมี
ภูมิคุ้มกันโรคอะไรบ้างก็ตาม ภูมิคุ้มกัน
เหล่านั้นก็จะถูกส่งผ่าน ไปสู่ลูกน้อยใน
ครรภ์ได้ เช่น คุณแม่มีภูมิคุ้มกันโรคคางทูม
บาดทะยัก หรือหัดเยอรมัน ลูกก็จะได้รับ
ภูมิคุ้มกันโรคเหล่านั้นครบหมดค่ะ และเมื่อ
คลอดออกมาก็ยังได้รับต่อเนื่องผ่านทาง
น้ำนมคุณแม่อีกด้วย คอยสังเกตนะคะว่า
น้ำนมช่วงแรกจะมีความเข้มข้นมากกว่าปกติ เพราะเป็นน้ำนมเหลือง หรือ Colostrums ที่อุดม
ไปด้วยสารอาหารที่ช่วยเสริมสร้างระบบเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อย ซึ่งจะช่วยป้องกันไม่ให้
ลูกน้อยป่วยง่าย ท้องเสีย ท้องเดิน หรือ ปวดท้องค่ะ แต่ภูมิคุ้มกันจากน้ำนมเหลืองนี้จะอยู่ปกป้อง
ลูกน้อยเพียงแค่ 6 เดือนเท่านั้นนะคะ คุณแม่อย่างเราเลยต้องเตรียมความพร้อมให้กับตัวเอง
และเจ้าตัวเล็กตั้งแต่ตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่มีสุขภาพที่แข็งแรงเจ้าตัวเล็กมีพัฒนาการที่ดีทั้งทาง
สมองและ ระบบภูมิคุ้มกัน และที่สำคัญเพื่อให้น้ำนมคุณแม่มีคุณค่าครบถ้วนเพื่อลูกน้อยค่ะ   ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต

พันธุกรรม เป็นสิ่งที่ลูกได้รับมาจากคุณพ่อคุณแม่โดยตรง
หากคุณพ่อคุณแม่มีระบบ ภูมิคุ้มกันที่ดี ลูกก็ย่อมได้รับระบบ
ภูมิคุ้มกันที่ดีเช่นกันค่ะตรงกันข้ามถ้าหากคุณพ่อคุณแม่มี
ระบบภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์ลูกก็อาจจะได้รับการถ่ายทอด
ภูมิคุ้มกันที่ไม่สมบูรณ์นั้นได้ค่ะ คุณแม่เองก็ไม่ต้องเป็นกังวล
มากเกินไปนะคะ หากรู้ตัวว่าได้รับการถ่ายทอดระบบ
ภูมิคุ้มกันทางพันธุกรรมที่ไม่แข็งแรงเท่าไร เพราะเรา
สามารถทำให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้นได้ด้วยการไม่พา
ตัวเองเข้าไปอยู่ในที่เสี่ยง เช่น สถานที่แออัด หรือสถานที่
ที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคค่ะ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวเองป่วย
อ่อนแอ ซึ่งแน่นอนค่ะว่าย่อมส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์ด้วย
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่า การที่ลูกน้อยจะมีภูมิคุ้มกันที่ดี
ได้นั้นขึ้นอยู่กับคุณแม่เป็นสำคัญเลยนะคะซึ่งก็คือพันธุกรรม
ที่จะถ่ายทอดสู่ลูกน้อยนั่นเอง ส่วนอีกหนึ่งปัจจัยนั้นก็คือ การดูแลสุขภาพของคุณแม่ในระหว่างตั้งครรภ์ค่ะ
 

ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิต
 
ลูกน้อย ภูมิคุ้มกันจากในท้อง ปฐมบทแรกแห่งภูมิคุ้มกันของชีวิตสุขภาพร่างกาย เมื่อคุณแม่ได้รับเชื้อโรคต่างๆ
เข้ามา ร่างกายก็จะต้องสร้างสารภูมิคุ้มกัน ขึ้นมา
อย่างรวดเร็ว และมากพอที่จะกำจัดเชื้อโรคต่างๆ
ที่เข้าสู่รางกายได้ หากคุณแม่ไม่ดูแลตัวเองให้
เต็มที่ เช่น ไม่ค่อยออกกำลังกาย ทานอาหารไม่
ครบ 5 หมู่ หรือขาดการดูแลสุขภาพ เมื่อนั้น
ร่างกายของคุณแม่ก็จะอ่อนแอ ระบบภูมิคุ้มกัน
ก็อ่อนกำลังตามไปด้วย ส่งผลให้คุณแม่เจ็บป่วย
พัฒนาการด้านต่างๆ ของลูกน้อยในครรภ์ก็ต้อง
สะดุดค่ะ ยอดคุณแม่อย่างเราจึงต้องฟิตร่างกาย
ให้แข็งแรงอยู่เสมอด้วยการทานอาหารที่มี
สารอาหารสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันค่ะ เพื่อให้
ลูกน้อยในครรภ์แข็งแรงที่สุด เมื่อลูกคลอด
ออกมาเราจะได้เฝ้ามองพัฒนาการที่ดีขึ้นของ
ลูกในทุกๆ วันอย่างสุขใจ

อัพเดทล่าสุด