สุดแสนประทับใจที่ภูเก็ต....
โดย Roses
ภูเก็ต สุดแสนประทับใจ เราเดินทางกันโดยรถยนต์ มุ่งสู่จังหวัดภูเก็ต บนถนนเพชรเกษม ตะวันเริ่มตกดินแล้วการจราจรบนถนนค่อนข้างติดขัด เนื่องจากเป็นวันศุกร์ ผู้คนต่างพากันออกเดินทางไปพักผ่อนต่างจังหวัดกับครอบครัว เราใช้เวลาเดินทางทั้งคืนเพื่อเดินทางไปยังภูเก็ตเช้า วันใหม่... เราตื่นมาพบกับบรรยากาศท้องทะเล ถึงแม้ว่ามันจะอยู่ไกลจากเราแต่เราก็สามารถมองเห็นมันผ่านกระจกรถของเราได้ เมื่อรถเราแล่นเข้าสู่ตัวเมืองภูเก็ต บรรยากาศตอนเช้าช่างเงียบสงบเหลือเกิน เราพากันเข้าไปพักผ่อนที่โรงแรมก่อนสัก 2-3 ชม. โรงแรมที่เราไปพักนั้นชื่อโรงแรมเมโทโปร ภูเก็ต ช่วงที่เราไปพักนั้นเป็นช่วงเทศกาลวันคริสต์มาสพอดี ทางโรงแรมจึงได้จัดต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ที่สุดในโลกไว้ ความสูงประมาณ 10 เมตร และตอนกลางคืนก็มีการจัดงานคริสมาสด้วย ก่อนที่เราจะเดินทางเที่ยวชมเมืองภูเก็ตตามโปรแกรมที่เราวางไว้ พอได้เวลาอันสมควรเราก็พากันออกเดินทางไปวัดฉลอง เพื่อนสักการะหลวงพ่อแช่ม เกจิอาจารย์ชื่อดัง สมัยที่ปราบอั้งยี่ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง
เสร็จ จากวัดฉลองเราก็พักรับประทานอาหารที่ร้านภูเก็ตซีฟู๊ด เมนูแนะนำคือ น้ำพริกกุ้งเสียบ ก่อนที่เราจะเดินทางต่อไปที่แหลมพรหมเทพ แต่ว่าเราไม่ได้ไปคอยชมพระอาทิตย์ตกดินนะ เราไปชมบรรยากาศตอนกลางวันกันเฉยๆ โฮ..ขนาดกลางวันยังสวยงามเลย แสงแดดสาดส่องลงกระทบกับน้ำทะเลมีประกายระยิบระยับ เมื่อมาถึงแหลมพรหมเทพอย่าลืมไปลิ้มลองปลาหมึกย่าง ไม่ต้องถามว่าร้านไหนนะ มีอยู่ร้านเดียวเอง ขอบอกอร่อยจริงๆ แต่ว่าราคาค่อนข้างแพง ก็ไม่เป็นไรหรอก คิดเสียว่านานๆทานที เราไม่ได้ทานทุกวัน
.... พอชมแหลมพรหมเทพและทานปลาหมึกจนอิ่มเอมใจแล้ว เราก็เดินทางสู่ หาดกมลา แอะ! เราไม่ได้ไปเล่นน้ำกันตอนเย็นๆ นะ เพียงแต่เราจะไปชมภูเก็ตแฟนตาซี ถ้ากล่าวถึงภูเก็ตแฟนตาซีแล้วน้อยคนนักที่จะไม่รู้จัก เพราะภูเก็ตแฟนตาซีเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต และมีชื่อเสียงมากในการแสดงโชว์ ก่อนที่เราจะเข้าไปชมโชว์อันตระการตานั้น เราก็ต้องไปทานอาหารกันก่อนที่ภัตตาคารมโนห์ราทอง ภายในมีเหล่ากินรีคอยตอนรับอย่างเป็นกันเอง ภายในมีอาหารหลากหลายประเภทจนไม่รู้ว่าจะทานอะไรก่อนดี มีทั้งอาหารไทยและนานาชาติ จัดเป็นบุฟเฟ่ต์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ทานอาหารจนท้องอิ่มแล้ว เราก็ไปเดินย่อยตามบูธกิจกรรมต่างๆ ที่ทางภูเก็ตแฟนตาซีจัดขึ้น
....... เวลา 20.00 น. เย้ได้เวลาเข้าไปดูโชว์แล้ว มีผู้คนหลากหลายเชื้อชาติต่างพากันทยอยเข้าไปดูโชว์ ในระหว่างทางที่เดินเข้าไปนั้นมีรูปของบุคคลสำคัญที่เคยมามาชมที่นี่ติดอยู่ ตลอดทางเดินยาวไปจนถึงจุดฝากของ ซึ่งภายในห้ามนำกล้องถ่ายรูปเข้าไปเด็ดขาด มีการตรวจอย่างเข็มงวด แม้แต่โทรศัพท์มือถือที่มีกล้องยังไม่สามารถนำเข้าไปได้ พอเราเข้าไปถึงที่นั่งแล้ว รอ ประมาณ 10 นาที การแสดงก็เริ่มขึ้น การแสดงนี้มีชื่อว่า มหัศจรรย์กมลา เป็นการแสดงวัฒนธรรมไทยประยุกต์ผสมผสานเทคโนโลยีหลายอย่าง มีมายากลลวงตา จนทำให้คนดูงงเป็นไก่ตาแตกกัน ต่อจากนั้นชมการแสดงลีลาพลิ้วไหวกลางอากาศกับบันจี้บัลเล่ห์ ซึ่งการแสดงนี้เราชอบมาก สวยงาม อ่อนช้อย นักแสดงใส่ชุดเรืองแสง ต่อมาหรรษากับคาราวานช้างที่น่ารักกว่า 10 เชือก มีการต่อสู้ต่างๆ แต่เราจับใจความได้ว่ากมลาสู้กับสิ่งต่างๆอยู่ แต่สุดท้ายก็มีช้างชื่อไอยราออกมาช่วยกมลา ทำให้กมลาชนะทุกอย่าง เราไปดูครั้งแรก ยังงงอยู่เลย
หลังจากที่ดูจบแล้วเราก็เก็บภาพความประทับใจไว้ในความทรงจำ ถ้ามีโอกาสเราจะกลับมาเชียร์เจ้าอีกนะจ๊ะกมลา