สุดท้ายปลายทางที่บ้านฉัน
.ตรัง |
โดย...วลัชณัฏฐ์
|
ชอบเดินทางไปเที่ยวที่ไหนที่สุด เคยมีใครถามคุณบ้างไหม ฉันเองก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้เหมือนกัน แล้วที่เที่ยวที่ชอบหรือประทับใจล่ะ มันเป็นยังไงนะ เป็นการเดินทางออกไปเปิดโลกเปิดตาให้กว้างขึ้น โดยการซื้อตั๋วราคาแพงๆ เพื่อออกไปสัมผัสกับเกล็ดหิมะหรือลมหนาว หรือการซื้อที่นั่งหรูๆใจกลางเมืองเพื่อรับประทานอาหารเมนูพิเศษที่ทำขึ้นด้วยสุดยอดฝีมือเชฟหรือเปล่า ฉันไม่รู้
มันอาจจะเป็นความคิดของใครหลายคน แต่คงไม่ใช่ฉัน เพราะการเปิดโลกของฉันก็คือก้าวของทุกวันที่เราเดินผ่าน แม้มันจะเป็นก้าวที่เดินตามเส้นทางสายเดิมทุกวัน |
เราเคยคิดหรือเปล่าว่าเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปเรื่อยๆ การเดินทางก็เช่นกัน ทุกครั้งที่เราสาวเท้าออกไปฉันหมายถึงว่ามันคือการได้ออกเดินทางแล้ว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผ่านหน้าเราก็เปลี่ยนฉากไปทุกวัน ถ้าการที่จะบอกใครว่าเส้นทางไหน ที่ประทับใจฉันมันคงมีมากมาย
เพราะการเดินทางในวันนี้คือหน้าที่การงานที่ฉันรัก คงจะบอกเล่าได้ไม่หมด ฉันเคยคิดเหมือนกันว่ามีอีกหลายที่ที่เราต้องไปสัมผัสและค้นหา รู้สึกตื่นเต้นไปกับมัน หลายปีที่ผ่านมา หน้าที่การงาน การใช้ชีวิต สังคม ได้พัดพาตัวของฉันออกมาไกลจากที่ที่หนึ่ง ฉันยังคงทำงานที่ฉันรัก มองดูผู้คนที่เดินไปมาในจังหวัดและสถานที่ๆ ที่ฉันไม่รู้จัก ฉันยิ้มและเริ่มมีคำถามกับตัวเองว่า ฉันกำลังทำอะไรอยู่ มีความสุขจริงหรือที่ได้เดินทาง และยังมีที่ไหนอีกไหม ที่ฉันรู้สึกอบอุ่นและอยากนั่งอยู่ตรงนั้นนานๆ ฉันทบทวน
..และสุดท้ายก็เพิ่งจะคิดได้ว่า ที่ที่ฉันรู้สึกดีที่สุดไม่ใช่ที่ไหนเลย เพียงแต่เป็นบ้านของฉันนั่นเอง |
ตรัง
จังหวัดเล็กๆ ที่หล่อหลอมให้ฉันเติบโตขึ้นมาท่ามกลางธรรมชาติ และเมืองตรังเมืองนี้ทำให้ฉันเห็นสีเขียวๆ ของสวนยางที่ไล่เรียงตัวออกไปเป็นทิวแถว เห็นคนเดินเลี้ยงวัวผ่านทุ่งนาข้าว เขียวบ้าง เหลืองทองบ้าง ทั้งตอนเช้าและเย็น เห็นเด็กๆ วิ่งแก้ผ้ากระโดดลงคลองอย่างสนุกสนาน เห็นทะเลที่มีคลื่นซัดระลอกแล้วระลอกเล่า ภาพเหล่านี้ยังคงติดตาฉันอยู่ แค่เพียงนึกถึงก็รู้สึกดีทุกครั้ง แล้วทำไมฉันยังนั่งอยู่ตรงนี้ ทำไมเราไม่กลับบ้าน ฉันใช้เวลาสิบกว่าชั่วโมงกว่ารถทัวร์จะพามาถึง ทั้งๆ ที่จริงแค่เพียงชั่วโมงเศษๆ ฉันก็นั่งเครื่องบินกลับมาได้ นั่นเพราะฉันอยากเห็นวิวสวยๆ ของเส้นทางแต่ละจังหวัดที่ผ่านไป ภาพตรงหน้าต่างของฉันเปลี่ยนไปเรื่อย บางครั้งมันก็เป็นสวนมะพร้าว เปลี่ยนมาเป็นทุ่งนา เป็นแม่น้ำ ฉันมีความสุขที่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าต่างบานนี้ |
เมื่อเสียงรถเงียบลงฉันได้ยินเสียงคนพูดภาษาใต้ ไปหม่ายๆ สามล้อม้าย ฉันดีใจเหลือเกินเพราะนี่คือบ้านฉันจริงๆ และทุกครั้งที่กลับมาฉันก็จะใช้ชีวิตแบบเดิมๆ บรรยากาศยามเช้าของเมืองตรัง ถ้าไม่ไปกิน จ่าโก๊ย หมูย่าง ก็แปลกเพราะเค้าขายกันทั้งเมือง |
แต่ฉันพิศมัยรสชาติเผ็ดๆ ของน้ำยาใต้ผสมกับผักหลายชนิดที่กองอยู่ตรงหน้ามากกว่าอย่างอื่น เลยขอเลือกกินขนมจีนดีกว่า อิ่มแล้วก็ขอเดินเที่ยวชมเมืองหน่อยเถอะนะ หายไปนานๆ ก็คิดถึงเหมือนกัน นั่นมันร้านผลไม้ที่ฉันเคยมากับแม่ ร้านขายรองเท้าที่ฉันไม่ยอมเดินออกถ้าไม่ได้ของแถม ทุกอย่างมันอยู่ตรงนี้ทั้งนั้น |
เมืองตรังในพ.ศ.๒๕๕๒ เปลี่ยนไปเยอะ ฉันเลยมีความสุขกับการเก็บภาพความทรงจำของฉัน เดินเท้าไปในเมืองแคบและเล็กเมืองนี้แต่กลับรู้สึกตื่นใจ เมื่อเดินไปเจอกับตึกไม้ ตึกปูนแบบเก่าที่ยังคงตั้งตระหง่านอยู่ ฉันภาวนาให้ตึกพวกนี้อยู่ไปนานๆ ให้ลูกหลานในรุ่นต่อไปได้เห็นมัน |
แปลกดีใช่มั้ย ที่ทำไมฉันถึงมีความสุขเมื่อมายืนอยู่ตรงนี้ นั่นเพราะมันเป็นทั้งบ้านและสถานที่ท่องเที่ยวที่ฉันเที่ยวได้ไม่รู้จักเบื่อ ฉันอยากให้ทุกคนเห็นค่าของการเดินทาง เพราะไม่สำคัญว่ามันจะเป็นที่ไหน แค่มีใจแล้วก็ลุยไปได้เลย ถ้าวันนี้มีใครมาถามฉันอักว่า ฉันชอบเดินทางไปเที่ยวที่ไหนที่สุด ฉันได้คำตอบแล้ว เพราะคงไม่มีที่ไหนที่จะทำให้ประทับใจ (และอบอุ่นใจ) ไปได้มากกว่าที่นี่อีกแล้ว สุดท้ายปลายทางที่บ้านฉัน
.ตรัง |