เมืองไทยที่ฉันรัก
โดย...ลดาพร
ฉันด้วย...กะจะไปฮันนีมูนรอบสอง กับแฟนที่เกาหลี...
ฉันจะไปชอบปิ้งที่สิงค์โปร์กับฮ่องกง แล้วเธอล่ะ ลดา เธอจะไปเที่ยวที่ไหนω
ฉันไม่ตอบคำถามเธอเหล่านั้น แต่กลับยิ้มอยู่ภายในใจอย่างเงียบๆ ใครจะรู้ล่ะว่า ในแต่ละปี ฉันก็มีโปรแกรมท่องเที่ยวอยู่ในใจแล้วเช่นกัน แต่ไม่ใช่สถานที่เช่นเดียวกับเพื่อนๆ... ในปีนี้ฉันตั้งใจแล้วว่าจะไปไหน.. ฉันยิ้มกับความสุขของตัวเอง
ในหนึ่งปีฉันและสามี จะมีโปรแกรมท่องเที่ยวยาวปีละครั้ง และช่วงเวลาที่เราเลือกไป จะเป็นช่วงฤดูหนาว ในช่วงเวลาอากาศที่หนาวเย็น ไอหมอก และดอกไม้สีสวยๆ... แน่นอน..ฉันตั้งใจที่จะไปจังหวัดในภาคเหนือ และจังหวัดที่ฉันเลือกจะต้องมีทะเลหมอกและอากาศที่หนาวเย็น ปีนี้ฉันตั้งใจจะไปดูทะเลหมอก...
การเดินทางท่องเที่ยวในแต่ละปี ฉันและสามีจะเดินทางด้วยตัวเอง และตั้งโปรแกรมการเดินทางด้วยตัวเองทั้งหมด และไปกันเพียงสองคน โดยขับรถยนต์ส่วนตัวไปเอง ดังนั้นข้อมูลการท่องเที่ยวทั้งหมดฉันจะต้องค้นหาด้วยตัวเอง และแหล่งข้อมูลที่ดีที่สุดในโลกดิจิตอลปัจจุบัน คงจะหนีไม่พ้นข้อมูลจากเวปไซต์ ต่างๆ ที่ฉันค้นหาจาก Google รวมทั้งเวปไซต์ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลความรู้สำคัญ เสมือนเป็นห้องสมุดชั้นยอด
ฉันตั้งใจอยากไปดูทะเลหมอกที่ผาชู้ จังหวัดน่าน เมื่อตั้งโปรแกรมได้แล้วก็ค้นคว้าหาข้อมูลไปเรื่อยๆ..จากจังหวัดน่าน ไปจนถึงภูชี้ฟ้า และผาตั้ง จังหวัดเชียงราย ..ฉันและสามีจะพักแรมโดยกางเต็นท์ตามอุทยานแห่งชาติ เต็นท์ของเราจะเคลื่อนที่ไปทั่วประเทศ และกางมาแล้วนับสิบครั้ง ทุกคนจะอิจฉาเรา เมื่อเราเปิดประตูเต็นท์ออกมาแล้วได้กลิ่นไอของสายหมอกยามเช้า ยามค่ำคืนที่จะเห็นทะเลดาวอยู่แค่เอี้อม
และแล้ววันที่ฉันรอคอยก็มาถึง เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2551 ที่ผ่านมาฉันออกเดินทางจากจังหวัดนครสวรรค์ตอนตีห้า และไปจังหวัดน่าน โดยใช้เส้นทางนครสวรรค์ กำแพงเพชร อุตรดิตถ์ แพร่ และน่าน คืนแรกฉันไปค้างกางเต็นท์ที่ดอยเสมอดาว ชมพระอาทิตย์ขึ้นและพระอาทิตย์ตกที่สวยงามจับใจ... ฉันประทับใจทะเลดาวในยามค่ำคืน ที่ไม่เคยเห็นที่ไหนสวยเหมือนอย่างที่นี่เลย...ฉันอำลาดอยเสมอดาวเพื่อไปดอย ภูคา เส้นทางในระหว่างขึ้นดอยสวยงามมาก จนฉันแทบไม่เชื่อเลยว่า...นี่คือเมืองไทย เมืองแห่งขุนเขาทะเลหมอก ที่สูงสุดสายตา... บนดอยภูคาฉันประทับใจป่าดึกดำบรรพ์ และต้นชมพูภูคาที่หาไม่ได้แล้วที่ไหนในโลก ในวันนั้นฉันกางเต็นท์ที่ลานดูดาว ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็นถึง 6 องศา และดวงดาวเต็มท้องฟ้า...
วันรุ่งขึ้นเราขับรถขึ้นไปสู่ภูชี้ฟ้า จังหวัดเชียงราย และพักกางเต็นท์ที่จุดชมวิว ฉันขึ้นยอดภูตั้งแต่เช้ามืด..แต่ในวันนั้นอากาศไม่เป็นใจ มีฝนตกตลอดทางที่ขึ้นภู เราไม่ได้เห็นทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า.. แต่ความสวยงามของบรรยากาศ ทำให้เราบอกกับตัวเองว่า.. เราต้องมาที่นี่อีกครั้ง... ฉันให้สัญญาไว้กับตัวเอง
ในวันนั้นเนื่องจากฝนตกตลอดทาง ทำให้เราต้องล่นเวลาเดินทางกลับเร็วขึ้นอีกหนึ่งวันเนื่องจากไม่ได้พักค้าง คืนที่ผาตั้ง แต่ที่น่าประทับใจและไม่ลืมเลย นั่นคือดอกไม้สวยๆ..ที่งานเทศกาลเชียงรายดอกไม้งาม ที่นี่งดงามเหมือนสวรรค์บนดิน ที่รายล้อมไปด้วยดอกไม้เมืองหนาวที่จัดไว้อย่างสวยงาม โดยเฉพาะกลิ่นดอกลิลลี่ ที่หอมตลบอบอวล เมื่อเวลาเราเดินผ่าน และดอกทิวลิป แสนสวย ที่ไม่ต้องเดินทางไปดูถึงต่างประเทศ
ฉันกลับมาบ้านวันที่ 27 ธันวาคม 2551 เมื่อกลับมาถึงบ้าน ฉันหลับตาลงสูดลมหายใจยาว มองท้องฟ้าสีใสที่อยู่ตรงหน้า ฉันกระซิบบอกกับสามีเบาๆ... ฉันภูมิใจและดีใจที่เป็นคนไทย
ได้อยู่ในประเทศที่อุดมสมบูรณ์ มีรอยยิ้มของเพื่อนร่วมทาง และน้ำใจที่มีให้แก่กันและกัน
ฉันรักเมืองไทยมากที่สุดเลย.. และขอบคุณสำหรับความสุขที่ธรรมชาติมอบให้..ในวันที่ผ่านมา....