พักผ่อนที่เมืองตาก

                     เราไปถึงจังหวัดตากเช้ามืด อากาศกำลังเย็นสบาย และสดชื่นมาก ๆ ไหน ๆ ก็มาถึงใกล้เช้าแล้ว เราเลยชวนกันออกไปรอตักบาตรในตลาดกันซะหน่อย แล้วซื้อน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋มาทานกัน สายๆ ค่อยอาบน้ำ แต่งตัวออกไปเที่ยวกัน ซึ่งนำเที่ยวโดยมัคคุเทศก์จำเป็นคือเพื่อนเรานี่เอง เราตกลงไปเที่ยวกันที่อำเภอแม่สอด ไปแวะไหว้ศาลเจ้าพ่อพะวอ ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของชาวเมืองตาก ผู้เดินทางผ่านมาจึงนิยมเข้ามากราบไหว้กัน จากนั้นขับรถไปสุดเขตชายแดนไทย-พม่า ที่อำเภทแม่สอด หรือเรียกว่า สุดประจิมที่ริมเมย เพื่อไปเลือกซื้อสินค้าหลากหลายที่ตลาดริมเมย ทั้งอัญมณี เฟอร์นิเจอร์ งานหัตถกรรมต่างๆ สวยงามน่าใช้ทั้งนั้นเลย ในละแวกนั้นยังมีวัดต่างๆ ที่น่าสนใจ เช่น วัดชุมพลคีรี วัดไทยวัฒนาราม วัดมณีไพรสณฑ์ ตกเย็นเราก็กลับมาเข้าพักที่อุทยานแห่งชาติตากสินมหาราช ซึ่งภายในอุทยาน ฯ มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย ทั้งต้นกระบากที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย สะพานหินธรรมชาติ น้ำตกอีกหลายแห่ง และยังได้ทำความรู้จักกับ “เจ้าธันวา” เป็นหมีควายที่ทางอุทยานฯ เค้าเลี้ยงไว้ตั้งแต่ยังเล็กอีกด้วย

                     ตอนเช้าเราตื่นมาสูดอากาศที่อุทยาน ฯ ซึ่งที่นี่เย็นสบายตลอดทั้งปี ทั้งบริสุทธิ์ สดชื่นมากจนน่าอิจฉาสำหรับคนเมืองหลวงอย่างเรา ที่ไม่ค่อยได้มีโอกาสมาสัมผัส และสูดอากาศดีๆ อย่างเต็มปอดแบบนี้ ช่างเหมาะแก่การมาพักผ่อนเสียจริง ๆ เลย ห่างจากอุทยานฯ ไม่ไกลมากนักเราไปเลือกซื้อผักสด ผลไม้สด สินค้าพื้นเมืองได้ที่ตลาดมูเซอ ช่วงบ่ายเราไปแวะเที่ยวเขื่อนภูมิพล ที่ อ.บ้านตาก ซึ่งเป็นเขื่อนคอนกรีตขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และทิวทัศน์สวยงามมากๆ ด้วย จากนั้นไปชมวนอุทยานไม้กลายเป็นหิน ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่ถูกฝังใต้ดินเป็นเวลานานจนแข็งกลายเป็นหิน มีจำนวนทั้งหมด 7 ต้น ดูแล้วน่าตื่นตาตื่นใจไม่ใช่น้อย และไปต่ออีกไม่ไกลนักเข้าไปสักการะพระบรมธาตุ (พระเจ้าทันใจ) เป็นพระธาตุประจำวันเกิดปีมะเมีย ซึ่งมีความศักดิ์สิทธิ์ โดยผู้คนนิยมมาขอพร กันมากมาย จากนั้นกลับเข้าตัวเมืองตาก ยามเย็นเราไปเดินเล่นกันที่สะพานรัตนโกสินทร์ 200 ปี ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำเมย เพื่อชมพระอาทิตย์ตกดินได้สวยงามอีกด้วย