ปลายฝน ต้นหนาวที่เพชรบูรณ์ By
Little Rabbit
|
ช่วง เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ปลายฝน ต้นหนาว อากาศกำลังดี เย็นสบาย ต้นไม้ยังเขียวสดแบบนี้ ถือโอกาสในช่วงวันหยุดยาว นัดแนะกับกลุ่มผู้ร่วมเดินทางไปเที่ยว เมืองมะขามหวาน อุทยานน้ำหนาว ศรีเทพเมืองเก่า เขาค้ออนุสรณ์ นครพ่อขุนผาเมือง ก็จังหวัดเพชรบูรณ์ยังไงล่ะ โดยเราวางแผนการเดินทางไว้ที่เขาค้อ-ภูทับเบิก-น้ำหนาว เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลา ออกเดินทางกันเลยละกัน
|
วันแรก เราขับรถออกจากกรุงเทพฯ แต่เช้า จากกรุงเทพ ฯ ถึงเพชรบูรณ์ระยะทางรวม 346 กิโลเมตร พอเข้า อ.ศรีเทพ เราแวะเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์ศรีเทพ ชมโบราณสถานเก่าแก่ เช่น ปรางค์สองพี่น้อง ปรางค์ศรีเทพ โบราณสถานเขาคลังใน จากนั้นช่วงบ่าย ๆ ไม่พลาดที่จะแวะไปทานไก่ย่างวิเชียรบุรี อยู่ที่ อ.วิเชียรบุรี มีร้านใหญ่ๆ ให้เลือกหลายร้านเลยทีเดียว และการันตรีความอร่อย พอ ท้องอิ่ม เราขับรถเข้าไปไหว้พระพุทธไสยาสน์วิเชียรบุรีศรีรัตนมิ่งมงคล ที่วัดวิเชียรบำรุง ซึ่งเป็นพระนอนที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ ก่อนจะเดินทางต่อไปยัง อ.เขาค้อ มีฝนตกโปรยปรายลงมาบ้าง ทำให้เราได้เห็นรุ้งกินน้ำด้วย ทอดตัวยาว อยู่ไกลๆ อยู่แต่ในเมืองไม่ค่อยได้เห็นเท่าไหร่ เลยออกอาการตื่นเต้นสักหน่อย และระหว่างทาง เราพักรถแวะชิมกาแฟอยู่ริมเขา ชมวิวทิวทัศน์มองเห็นหมอกปกคลุมอยู่บนยอดเขาไกล ๆ บรรยากาศดีมาก ๆ เลย แล้วจึงกลับเข้าที่พักบนเขาค้อประมาณช่วงเย็น |
วัน ต่อมา เราตื่นมาตอนเช้าขับรถไปจุดชมวิวเหนืออ่างเก็บน้ำรัตนัย เพื่อไปดูทะเลหมอก ซึ่งพอมีให้เห็นบ้างแต่ยังไม่เยอะเท่าไหร่ อากาศที่เขาค้อเย็นสบาย ไม่ถึงกับหนาวจัด แถมสดชื่นเพราะความเขียวชอุ่มของป่า สมแล้วที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็น สวิสเซอร์แลนด์เมืองไทย ได้สูดอากาศดี ๆ เต็มปอดแบบนี้ ผู้คนที่นี่ถึงบอกว่า พักเขาค้อ 1 คืน อายุยืน 1 ปี จากนั้นเราก็ตระเวนเที่ยวบนเขาค้อ ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวมากมาย ทั้งพระตำหนักเขาค้อ หอสมุดนานาชาติเขาค้อ พิพิธภัณฑ์อาวุธฐานอิทธิ อนุสรณ์ผู้เสียสละเขาค้อ พระบรมธาตุเจดีย์กาญจนาภิเษก น้ำตกศรีดิษฐ์ อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง ไร่บีเอ็น แค่อยู่บนเขาค้อก็ใช้เวลาเที่ยวจนหมดวันแล้วล่ะ กลางวันเราก็ทานข้าวที่ร้านอาหาร เมนูขึ้นชื่อของที่นี่ ต้องมีผักสดต่าง ๆเช่น เห็ดหอมสด มะระหวาน ยอดฟักแม้ว อร่อยมาก ๆ เลยทีเดียว พอเที่ยวจนครบ เราจึงเดินทางต่อไปยัง อ.หล่มเก่า ซึ่งตั้งใจว่าจะไปภูทับเบิกกัน แต่ปรากฏว่าหน้าฝนที่ผ่านมาทำให้ถนนพัง ทางไม่ค่อยดี เลยเปลี่ยนแผนไปพักที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าแทน
|
ตอน เช้าที่อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า หลังจากทานอาหารเช้าเรียบร้อย เราก็เตรียมตัวเที่ยวในอุทยาน ฯ กัน ซึ่งมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจหลายแห่ง ทั้งทางประวัติศาสตร์ และทางธรรมชาติ เช่น พิพิธภัณฑ์การสู้รบ โรงเรียนการเมืองการทหาร กังหันน้ำ สำนักอำนาจรัฐ ลานหินปุ่ม ลานหินแตก ผาชูธง ถึง แม้ต้องเดินเท้าเข้าไปชม แต่พอเทียบกับทัศนียภาพที่สวยงามที่ได้เห็นด้วยตา ก็ถือว่าคุ้มค่ามาก และเพราะอากาศที่นี่เย็นสบาย เราจึงไม่รู้สึกเหนื่อยเท่าไหร่ ช่วงบ่ายเรากลับเข้า อ.หล่มเก่า ไปชิมขนมจีนหล่มเก่า ของขึ้นชื่อของที่นี่ด้วย โดยเค้าจัดเส้นขนมจีนใส่จานมาให้ และมีน้ำยาให้เราเลือกตักทานได้เองพร้อมผักต่างๆ อร่อยและราคาไม่แพงเลย แล้วเราก็เดินทางต่อไป อ.น้ำหนาว ถึงประมาณ 5 โมงกว่า จึงไปรอชมพระอาทิตย์ตกดินที่จุดชมวิวได้พอดี แล้วจึงเข้าพักที่บ้านพักในอุทยานแห่งชาติน้ำหนาว ช่วงดึกทางอุทยาน ฯ มีบริการพาไปส่องสัตว์ตอนกลางคืน เลยลองไปดูซักหน่อย แต่โชคไม่ดี ฝนดันตกระหว่างทาง เลยไม่ค่อยได้เจอสัตว์เท่าไหร่ ได้เห็นแค่กวาง ช้าง กระรอกบิน บ้าง ดึก ๆ อากาศเย็นมาก น้ำหนาวสมชื่อ แต่เพื่อให้รู้สึกว่ามาถึงน้ำหนาวจริง ๆ ถึงมีน้ำอุ่นเราก็ไม่ใช้ แข็งใจอาบน้ำเย็น แต่อาบเสร็จแล้วกลับรู้สึกอุ่นดีนะ |
วัน สุดท้ายแล้ว ตอนเช้าไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว หมอกเต็มไปหมดเลยล่ะ แล้วกลับมาเก็บของเดินทางกลับหลังทานอาหารเช้าเรียบร้อยแล้ว เราเลยไปเที่ยวถ้ำใหญ่น้ำหนาวกันซะหน่อย โดยมีเจ้าหน้าที่อุทยานพาเข้าไปชม มีหินงอกหินย้อยรูปร่าง ๆ แปลกมากมาย แต่เราสามารถเดินเข้าไปชมได้แค่ประมาณ 500 ม.เนื่องจากฝนตกพื้นภายในถ้ำค่อนข้างลื่น หลังจากชื่นชมความสวยงามจนพอใจแล้ว เราเดินทางกลับกัน แวะซื้อของฝากระหว่างทางที่ไร่กำนัลจุล และกลับถึงกรุงเทพ ฯ โดยสวัสดิภาพ
|