กาญจนบุรี ปีใหม่ ข้อมูลตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ


790 ผู้ชม



กาญจนบุรี ปีใหม่

โดย...ปกรณ์กวี 

                    ปีใหม่ปีนี้มีวันหยุดหลายวันเลยดีใจจัง เพราะฉันเป็นคนจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ มาเรียนแล้วก็ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ 6 ปีแล้วค่ะ ปีนี้ได้หยุดหลายวันตั้งใจว่าจะนอนอยู่บ้านให้เต็มอิ่ม แต่พอคิดไปคิดมาก็เปลี่ยนใจค่ะ หาที่เที่ยวดีกว่า ฉันก็หาข้อมูลและสถานที่มากมายหลายที่แต่เน้นที่ใกล้ๆ ค่ะเพราะจะได้ไม่เปลืองค่าเดินทางมากนัก จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามข้อมูลตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ หลายจังหวัด ทั้งโคราช ปราจีน ชลบุรี ตราด ประจวบ แต่ตัดสินใจช้าเกินไปค่ะ ที่พักเต็มหมดแล้ว  ก็เลยต้องทำใจค่ะคิดว่าปีหน้าจะรีบจองที่พักให้เร็วกว่านี้ ฉันกลับบ้าน (จังหวัดกาญจนบุรี) ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม ค่ะ พี่สาวเลยชวนไปเที่ยวที่ อำเภอสังขละบุรี ค่ะเป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดกาญจนบุรีค่ะ ฉันเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามีที่เที่ยวที่ไหนกันอำเภอนี้เพราะยังไม่เคยไป เลยสักครั้ง  แต่ก้อตกลงที่จะไปค่ะและต้องไปพักกับเพื่อนพี่ ไปกันทั้งหมด 4 คนค่ะ ออกเดินทางวันที่ 1 มกราคม ตอนสายๆ ค่ะเดินทางประมาณ 4 ชม.กว่าๆ ค่ะ จากตัวเมือง

                    ถึงจะอยู่จังหวัดเดียวกันแต่ก้อไม่ใช่ใกล้เลยจริงๆ แต่ก้อแวะข้างทางด้วยนะค่ะ แวะดื่มกาแฟที่ร้านบ้านกาแฟค่ะ พอดื่มกาแฟจนชื่นใจกันแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ แล้วทุกคนก็เริ่มจะหิวกันแล้วเราเลยแวะทานอาหารกลางวันกันที่ครัวออฟโรด ซึ่งเป็นทางผ่านที่จะไปอำเภอสังขละอยู่แล้วค่ะ อาหารอร่อยและบรรยากาศก็ดีมากด้วยค่ะ

                    ทานข้าวกลางวันกันอิ่มแล้วก็ออกเดินทางต่อค่ะ เมื่อไปถึงอำเภอสังขละบุรีแล้ว ที่แรกที่เราเที่ยวกันก็เป็นสะพานมอญค่ะ เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า สะพานอุตตมานุสรณ์ เป็นสะพานไม้ที่ยาวที่สุดในประเทศไทยมีความยาวถึง 850 เมตร สร้างข้ามลำน้ำซองกาเลียสำหรับให้ประชาชนฝั่งตัวอำเภอสังขละบุรีและฝั่งหมู่ บ้านชาวมอญเดินข้ามสัญจรไปมาได้ค่ะ ซึ่งมีสินค้าของชาวมอญขายอยู่ที่ปลายสะพานด้วยค่ะ เมื่ออิ่มเอมกับธรรมชาติยามอาทิตย์ตกดินเรียบร้อยแล้วเราก็ไม่ลืมที่จะไป ไหว้พระกันค่ะ

                    เราไปกันที่วัดวังก์เวเวการามเป็นวัดจำพรรษาของ “หลวงพ่ออุตตมะ” ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนชาวไทย ชาวมอญ รวมทั้งชาวกระเหรี่ยงและพม่าที่อาศัยอยู่ในบริเวณนั้น จากวัดวังก์วิเวการามแยกไปอีก 1 กิโลเมตร จะเป็นที่ตั้งของเจดีย์แบบพุทธคยามีลักษณะฐานเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุส่วนที่เป็นกระดูกนิ้วหัวแม่มือขวา ขนาดเท่าเมล็ดข้าวสาร ให้สักการะบูชากันค่ะ เป็นเจดีย์ที่สวยงามและดูแปลกตาไปจากเจดีย์ทั่วๆ ไปที่เราเคยเห็นค่ะ

                    ส่วนวันที่ 2 ตอนเช้าเราก็ไปถ่ายรูปที่สะพานมอญกันอีกครั้งค่ะ หลังจากที่เมื่อวานเราได้ประทับใจกับบรรยากาศยามเย็นแล้ว วันนี้เราก้อตื่นกันแต่เช้าเพื่อไปซึมซับบรรยากาศยามเช้ากันบ้างก็ประทับใจ ไปอีกแบบค่ะ หลังจากที่ได้ภาพสวยๆ กันแล้วพวกเราก้อเดินทางกลับค่ะ ขากลับพวกเราแวะไปซื้อของฝากค่ะ ที่ด่านเจดีย์สามองค์ เขตสิ้นสุดชายแดนไทยด้านทิศตะวันตกค่ะ มีของตกแต่งบ้านที่ทำจากไม้สวยงามมากมายหลายชนิดค่ะ ราคาก็ถูกด้วย ที่นิยมซื้อกันมากที่สุดก็น่าจะเป็นเรือสำเภาที่ทำจากไม้ลำเล็กๆ กว้างยาวประมาณด้านละ 30 ซม. ค่ะ ฉันไปเห็นที่วังหลังมาลำละ 200 บาท แต่ที่นั่นราคาเพียง 80 บาท (ยังต่อได้อีกนะ ) ส่วนลำใหญ่กว่านั่นสัก 3 เท่าก็ราคาลำละ 200 บาท ที่กรุงเทพฯ ก็ขายกันลำละ 400-500 บาท แพงกว่าเป็นเท่าตัวเลยค่ะ หลังจากซื้อของฝากกันเต็มไม้เต็มมือแล้วก็เดินทางกลับจริงๆ แล้วค่ะ

                    แต่ยังไงก็ขอแวะอีกสักทีนะค่ะ เราแวะกันที่น้ำตกเกริงกระเวียค่ะ  เพราะตั้งอยู่ริมทางหลวงเลยถึงจะเป็นน้ำตกเล็กๆ แต่ก็มีเสน่ห์เหมือนกันค่ะ  นักท่องเที่ยวนิยมพักทานอาหารและพักรถกันที่นี่ค่ะ เมื่อถ่ายรูปกันจนกระทั่งเมมโมรี่กล้องเต็มแล้วเราก้อเดินทางกลับบ้านกันค่ะ
                   ฉัน เป็นคนจังหวัดกาญจนบุรีค่ะแต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ไปเที่ยวที่อำเภอสังขละ บุรีค่ะ อย่างที่เขาพูดกันว่าจะไปเที่ยวเมืองนอกทำไมทั้งที่ประเทศไทยเองยังเที่ยว ไม่หมดเลย แต่หลังจากที่ได้ไปเที่ยวครั้งนี้แล้วทำให้ฉันคิดได้ว่าแค่ในจังหวัดเราเอง ยังเที่ยวไม่หมดเลย หลังจากกลับมาแล้วฉันได้ให้เพื่อนๆ ที่กรุงเทพฯ ดูรูป ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันค่ะว่า “ให้พาไปเที่ยวบ้าง” ทำให้ฉันภูมิใจในจังหวัดของตัวเองมากเลย หวังว่าทุกท่านที่ได้อ่านบทความนี้แล้วจะอยากมาเที่ยวจังหวัดกาญจนบุรีกัน บ้างนะค่ะ ขอบคุณค่ะ

อัพเดทล่าสุด