มูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ ความอุปถัมภ์ของหลวงตามหาบัว) ตั้งอยู่เลขที่ 15/1 หมู่ 1 ซอยพระมหาการุณย์ ถนนติวานนท์ ตำบลบ้านใหม่ ปัจจุบันมีสุนัขอยู่ในความดูแล 800 ตัว แมว 150 ตัว ผู้สนใจบริจาคเงินหรือสิ่งของ เช่น หนังสือพิมพ์ ข้าวสาร น้ำยาทำความสะอาด ฯลฯ สามารถร่วมทำบุญกับทางมูลนิธิฯ และทางมูลนิธิยังมีโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการ วันละบาท ต่อชีวิตหมา-แมว, โครงการ หนูอยากมีพ่อ-แม่ ทุกปีอาทิตย์สุดท้ายของเดือนเมษายน จะจัดงานประจำปี มีการประมูลของดารา แสดงสุนัขดารา สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2584 4896, 0 2961 5625, 0 2961 3799 โทรสาร 0 2961 5305 |
พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี
แหล่งเรียนรู้เพื่อสืบสานจิตวิญญาณแห่งเมืองนนท์ ตั้งอยู่ใกล้กับท่าน้ำนนท์ เดิมเป็นที่ตั้งของศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า ซึ่งเป็นเรื่อนไม้สักที่มีสถาปัตยกรรมงดงาม สร้างในสมัยรัชกาลที่ 6 เป็นอาคารทรงคุณค่าทางด้านสถาปัตยกรรมและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่ยาวนานของจังหวัดนนทบุรี ปัจจุบันได้ปรับปรุงให้เป็น พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นแหล่งรวบรวม เก็บรักษาและจัดแสดงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ตลอดจนมรดกทางวัฒนธรรมและภูมิปัญญาอันทรงคุณค่าของชาวนนทบุรี เพื่อการเรียนรู้ สืบทอดและอนุรักษ์ให้ยั่งยืนสืบต่อไป ภายในอาคารจัดแสดงเรื่องราวที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์ ย้อนรอยอดีตเล่าเรื่องวันวานของจังหวัดนนทบุรี แสดงให้เห็นถึงวิถีชีวิตและภูมิปัญญาชาวบ้าน รวมถึงงานวิจิตรศิลป์ชั้นเยี่ยม ประติมากรรมดินเผา และชมภาพอดีตในยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ดซึ่งกลับคืนชีวิตด้วยเทคนิคพิเศษ แบ่งการจัดแสดงออกเป็น 8 ห้อง ได้แก่
ห้องที่ 1 โถงต้อนรับ รู้จักนนทบุรีวันนี้จากแผนที่ดาวเทียม และมองความเป็นไปของชีวิตประจำวันรอบศาลากลางจังหวัดหลังเก่าตั้งแต่เช้าถึงค่ำจากวีดิทัศน์ รวมถึงคำขวัญ สัญลักษณ์ และต้นไม้ประจำจังหวัดนนทบุรี ห้องที่ 2 ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า มองภาพรวมของอาคารจากหุ่นจำลอง ก่อนศึกษาองค์ประกอบสถาปัตยกรรม แล้วแกะรอยความเปลี่ยนแปลงในช่วงร้อยปีที่ผ่านมาจากภาพถ่ายเก่าหายาก ห้องที่ 3 ภาพอดีตนนทบุรี เมืองสวนผลไม้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ย้อนอดีตผืนดินนนทบุรีนับแต่กำเนิดขึ้นจากแม่น้ำ จนกระทั่งกลายเป็นเมืองสวนผลไม้ลือชื่อ ชมฉากจำลองสวนผลไม้เมืองนนท์ในอดีต ดูวิธีการทำสวนที่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร ห้องที่ 4 วิจิตรศิลป์ถิ่นนนท์ /เกียรติยศแห่งนนทบุรี เรียนรู้ศิลปวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดนนทบุรี ภาพจิตรกรรมฝาผนังชิ้นเยี่ยม และงานวิจิตรศิลป์ชั้นยอดของนนทบุรี แล้วรู้จักกับบุคคลสำคัญชาวนนทบุรีที่มีผลงานดีเด่นระดับชาติ ห้องที่ 5 เครื่องปั้นดินเผา สัญลักษณ์แห่งนนทบุรี ชมประติมากรรมดินเผาขนาดใหญ่รูปตราประจำจังหวัดนนทบุรี สืบหาต้นกำเนิดและแกะรอยการเดินทางของ หม้อน้ำลายวิจิตร สัญลักษณ์ประจำจังหวัด ซึ่งมีที่มาจากแดนไกล ห้องที่ 6 เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ด และบ้านบางตะนาวศรี ชมความงามของหม้อน้ำลายวิจิตรแบบต่างๆ และศึกษารูปแบบอันหลากหลายของเครื่องปั้นดินเผานนทบุรีในอดีตจากแหล่งผลิตใหญ่ 2 แห่ง ซึ่งเคยผลิตสินค้าส่งขายทั่วประเทศ ห้อง 7 ภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผาจังหวัดนนทบุรี ชมหุ่นดินเผาแสดงขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตามวิธีการดั้งเดิมของบ้านเกาะเกร็ดที่ไม่มีให้เห็นแล้ว และติดตามพัฒนาการที่เกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน ห้อง 8 การค้าเครื่องปั้นดินเผานนทบุรีในอดีต ชมภาพอดีตในยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ดซึ่งกลับคืนชีวิตขึ้นใหม่ด้วยเทคนิคพิเศษ และตามรอยวิถีการค้าของพ่อค้าเรือโอ่ง การเดินทาง ทางบก รถประจำทางสาย 32, 63, 97, 114, 175, 203, 543 และ 545 ทางน้ำ เรือด่วนเจ้าพระยา จากท่าช้างสุดทางท่าน้ำนนท์ พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี เปิดให้เข้าชมฟรี ทุกวันอังคารถึงวันศุกร์ เวลา 09.00-17.00 น.วันเสาร์-อาทิตย์และนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น. หยุดให้บริการทุกวันจันทร์ สอบถามรายละเอีนดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 08 5984 4465
คลองขนมหวาน (คลองบางบัวทอง) บริเวณคลองขนมหวานและคลองอื่น ๆ รอบเกาะเกร็ด ชาวบ้านที่อาศัยอยู่สองฝั่งคลองจะทำขนมหวาน จำพวกทองหยิบ ทองหยอด ขายส่งและยังสาธิตให้นักท่องเที่ยวได้ชม พร้อมซื้อกลับเป็นของฝาก การเดินทาง ลงเรือข้ามฟากได้สองท่า คือ ท่าเรือวัดสนามเหนือ (ไม่ไกลจากท่าน้ำปากเกร็ด) หรือท่าเรือวัดกลางเกร็ด มีเรือบริการระหว่าง 05.00-21.30 น.
ศูนย์เครื่องปั้นดินเผา เป็นหมู่บ้านทำเครื่องปั้นดินเผาภาชนะของที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง โอ่งน้ำ ครกที่ใหญ่และเก่าแก่ มีการสาธิตการแกะสลักลายเครื่องปั้นดินเผา การทำเครื่องปั้นดินเผาตั้งแต่การเตรียมดินจนถึงวิธีการนำเข้าเตาเผา นักท่องเที่ยวสามารถเลือกซื้อเป็นของที่ระลึก หรือไว้ประดับตกแต่งบ้านและสวนได้
กวานอาม่าน พิพิธภัณฑ์เครื่องปั้นดินเผา เป็นศูนย์วัฒนธรรมพื้นบ้านชาวมอญ จัดแสดงเครื่องปั้นดินเผามอญลายโบราณ การปั้นเครื่องปั้นดินเผานั้นเป็นอาชีพชาวมอญมาตั้งแต่ครั้งตั้งถิ่นฐานแถบลุ่มแม่น้ำอิรวดี และมีมาตั้งแต่สมัยกรุงธนบุรี นับเป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดนนทบุรี ลวดลายประณีตสวยงามเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ และยังเป็นสัญลักษณ์ตราประจำจังหวัดนนทบุรี สองข้างทางเดินบนเกาะมีบางบ้านที่ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาชนะของใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น กระถาง ครก โอ่งน้ำ ฯลฯ เปิดให้เข้าชมทุกวัน ระหว่างเวลา 09.00-17.00 น.สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 0 2584 5086
บ้านครูมนตรีตราโมท ( บ้านโสมส่องแสง ) ครูมนตรี ตราโมท ดุริยางคศิลปินแห่งบ้านโสมส่องแสง คีตกวี 5 แผ่นดิน ผู้มีชีวิตอยู่ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 จนกระ ทั่งถึงรัชกาลที่ 9 ได้รับการยกย่องให้เป็นศิลปินแห่งชาติ สาขาดุริยางคศิลป์ ดนตรีไทย ประจำปี พ.ศ. 2528 ได้รังสรรค์ผลงานประพันธ์ทำนองเพลงไทยไว้มากกว่า 200 เพลง รวมทั้งบทร้องอีกจำนวนมาก เช่น เพลงโสมส่องแสง โดยภายในบ้านจัดแสดงวิถีชีวิตความเป็๋นอยู่ที่เรียบง่าย สมถะ แสดงชีวะประวัติของครูมนตรี รวมทั้งผลงานเพลงที่เป็นลายมือต้นฉบับนับตั้งแต่แรกเมื่อมีอายุ 20 ปี ถึงเพลงสุดท้ายเมื่อมีอายุ 91 ปี รวมทั้งจัดแสดงข้าวของเครื่องใช้ตั้งแต่สมัยยังมีชีวิตอยู่ ปัจจุบันลูกหลานของท่านยังอยู่อาศัยในบ้านหลังนี้ และยังได้จัดสอนดนตรีไทยให้กับผู้สนใจทั่วไปทุกวันเสาร์ - อาทิตย์ และในช่วงอาทิตย์ที่สองของเดือนกุมภาพันธ์ของทุกปีจะมีจัดพิธีไหว้ครูดนตรีไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ บ้านครูมนตรี ถนนติวานนท์ 3 ซอยพิชยนันท์ 2 ตำบลตลาดขวัญ อำเภอเมือง นนทบุรี โทร . 0 2968 9498, 0 2527 5257 เปิดให้เข้าชมฟรีไม่เสียค่าใช้จ่าย
ศูนย์เกษตรบางรักน้อย เป็นสวนผลไม้ในเขตอำเภอไทรน้อย ปลูกผลไม้ประเภททุเรียน มังคุด มะไฟ มะม่วง สามารถเข้าเยี่ยมชมและชิมผลไม้สดๆ ได้ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที - 1 ชั่วโมง นอกจากนี้ยังสามารถซื้อผลไม้กลับไปเป็นของฝากจากอำเภอไทรน้อย ในช่วงฤดูผลไม้ออก สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2903 5766, 0 1362 9338 สวนชวนชมปรีชา อยู่ที่อำเภอบางบัวทองมีประมาณ 90 ไร่ มีพันธุ์ชวนชมหลากหลายชนิดให้เลือกชมเลือกซื้อมากมาย และมีต้นลีลาวดีจำหน่ายอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสวนชวนชมอีก 1 ไร่ ซึ่งอยู่ในหมู่บ้านวังใหญ่ซิตี้ ตำบลเสาธงหิน อำเภอบางใหญ่ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สวนชวนชมปรีชา โทร. 0 2903 08779, 0 1309 6086 ถนนสายดอกไม้
ที่อำเภอบางใหญ่ มีการส่งเสริมการปลูกดอกไม้ประดับจนทำให้ถนนกาญจนาภิเษกที่อยู่ในพื้นที่อำเภอบางใหญ่ได้ชื่อว่าเป็น ถนนสายดอกไม้ เนื่องจากทั้งสองข้างทางมีเหล่าพืชพันธุ์ไม้นานาชนิด สะพรั่งด้วยสีสันเสมือนหนึ่งเชิญชวนผู้พบเห็นได้แวะชื่นชมและเลือกซื้อ ในช่วงระหว่างเดือนธันวาคม มกราคม ของทุกปี อำเภอบางใหญ่ได้จัดงาน อเมซิ่งบางใหญ่ ถนนสายดอกไม้ ณ บริเวณห้างสรรพสินค้าใกล้ ๆ ที่ว่าการอำเภอบางใหญ่เพื่อให้เกษตรกรนำไม้ดอกประดับมาจำหน่ายโดยตรงในราคาถูกพิเศษ ให้ผู้ที่สนใจเลือกซื้อเพื่อไปมอบให้ญาติมิตรในเทศกาลปีใหม่หรือในโอกาสสำคัญอื่น ๆ กลุ่มส่งเสริมผู้ปลูกกล้วยไม้
ตำบลบ้านใหม่ อำเภอบางใหญ่ เป็นแหล่งเพาะปลูกกล้วยไม้สกุลหวาย โดยมีสวนกล้วยไม้หลายสวนที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชม และเลือกซื้อพันธุ์กล้วยไม้นานาชนิด ในทุก ๆ เช้าเกษตรกรจากสวนต่าง ๆ จะตัดช่อกล้วยไม้ เพื่อนำมาคัดเกรดที่ศูนย์รวบรวมของกลุ่ม สำหรับการบรรจุห่อส่งขายทั้งในและต่างประเทศ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณพนม พึ่งสุขแดง โทร. 0 1649 1076 หรือ คุณสมศักดิ์ ดุสฎีกาญจน โทร. 0 1806 7423 พิพิธภัณฑ์เขาสัตว์ ตั้งอยู่ที่บ้านเลขที่ 27/8 หมู่ 6 ถนนประชาราษฏร์ ตำบลตลาดขวัญ เป็นพิพิธภัณฑ์เอกชนที่รวบรวมเขาสัตว์และวัตถุโบราณไว้จำนวนมาก ดำเนินงานโดยคุณประเสริฐ ศรียรรยงค์ ภายในจัดแสดงเขาสัตว์และวัตถุโบราณนับแสนชิ้นมีอายุตั้งแต่ 100 ปี ถึง 16 ล้านปี โดยเฉพาะเขาสัตว์และส่วนหัวกระโหลกมีครบทุกชนิดทั้งสัตว์กินพืชและกินเนื้อ เน้นสัตว์ที่มีอยู่ในประเทศไทย ชิ้นที่เด่นคือ งาช้างแมมมอธยาว 2 เมตร พบในภาคอีสาน เขาเนื้อสมันซึ่งเป็นสัตว์ที่สูญพันธ์ไปแล้ว เขาวัวกูปรีและเขาสัตว์อื่น ๆ ทุกชนิดที่มีในประเทศไทยและต่างประเทศ รวมทั้งยังมีวัตถุโบราณของไทยมากกว่า 30,000 ชิ้น พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดให้เข้าชมวันเสาร์-อาทิตย์ 09.00 - 16.00 น. ค่าเข้าชมผู้ใหญ่ 100 บาท เด็ก 50 บาท สนใจเข้าชมติดต่อ โทร. 0 2562 2681, 0 2968 5956 โทรสาร 0 2526 5741 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี ตั้งอยู่ที่ถนนแจ้งวัฒนะ ตำบลบ้านใหม่ อำเภอปากเกร็ด มีพื้นที่สำหรับจัดกิจกรรมกว่า 160,000 ตารางเมตร ครบครันด้วยสาธารณูปโภคและสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับการจัดแสดงสินค้า การจัดนิทรรศการ การประชุม สัมมนา การแสดงโชว์ การประกวด การแข่งขันกีฬา การจัดเลี้ยงทุกรูปแบบ ในระดับชาติและระดับนานาชาติหมุนเวียนมาจัดแสดงเป็นประจำตลอดทั้งปี เป็นโลกแห่งพื้นที่ในการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ต่าง ๆ มีลานจอดรถที่มาตราฐาน มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น ลิฟท์สำหรับคนพิการ สะพานเชื่อมอาคารและศูนย์การประชุม ห้องฝากกระเป๋า ห้องข่าว ธนาคารย่อย ห้องลงทะเบียน บริการอาหารและเครื่องดื่มนานาชนิดทั้งไทยและนานาชาติ ประกอบไปด้วยอาคารอิมแพ็ค อารีน่า และอาคารชาเลนเจอร์ ซึ่งเป็นอาคารจัดแสดงที่ปราศจากเสากลางห้อง มีพื้นที่รวมทั้งหมด 60,000 ตารางเมตร สอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับสถานที่และกิจกรรมการจัดงานได้ที่ บริษัท บางกอกแลนด์ จำกัด อาคารบางกอกแลนด์ 99 อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี โทร. 0 2504 5050 โทรสาร 0 2504 4445 หรือ www.impact.co.th, E-mail: [email protected] การเดินทาง สู่เมืองทองธานี โดยระบบขนส่งมวลชน Impact Link จากสถานีรถไฟฟ้าหมอชิต มีรถบัสของอิมแพค เมืองทองธานี (Impact Link) บริการระหว่างเวลา 5.30 - 22.30 น. รถออกทุก 30 นาที ค่าโดยสาร 30 บาท รถประจำทาง จากแยกแจ้งวัฒนะ-วิภาวดี รังสิต สาย 29 , 59 , 95 และ ปอ.4 , 10 , 13 , 19 (สายเหนือ) สาย 29 , 52 และ ปอ.4 , 10 , 29 (สายใต้) สาย 59 , 95 , 150 และ ปอ.13 (สายตะวันออก) จากแยกปากเกร็ด สาย 33 , 90 , 367 , 359 (สายเหนือ) สาย 32 , 33 , 51 , 90 , 104 , ปอ.56 และ ปอ.พิเศษ 1 (สายใต้) จากถนนแจ้งวัฒนะ สาย 52 , 150 , 356 และ ปอ. 150 , 356 สาย 166 , ปอ.166 (สีฟ้า) ท่าน้ำนนท์-เมืองทอง (จุดขึ้นรถที่อิมแพ็คบริเวณ ลานแอ็คทีฟ สแควร์) รถตู้บริการ (Mini-van) เมืองทองธานี ไป อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมืองทองธานี ไป รามคำแหง 1 เมืองทองธานี ไป เดอะมอลล์งามวงศ์วาน เมืองทองธานี ไป เมเจอร์ซินิพล็กซ์ รังสิต เมืองทองธานี ไป สนามหลวง สวนผลไม้เกาะเกร็ด ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ที่ 1, 2, 3, 4, และ 5 ตำบลเกาะเกร็ด อำเภอปากเกร็ด มีสวนผลไม้หลากหลายชนิด เช่น สวนทุเรียน ชมพู่มะเหมี่ยว ลิ้นจี่ มะปราง กะท้อน และสวนผลไม้อื่น ๆ ผู้ที่สนใจท่องเที่ยวแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนเกาะเกร็ดสามารถเดินทางไปชมและเลือกซื้อผลไม้ได้ทุกวัน สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ที่ว่าการอำเภอปากเกร็ด โทร. 0 2583 2139 (ในวันเวลาราชการ) พิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมการแพทย์แผนไทย สังกัดกรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก กระทรวงสาธารณสุข พิพิธภัณฑ์แห่งนี้ตั้งอยู่ในกระทรวงสาธารณสุข ถนนติวานนท์ ตัวอาคารพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารทรงไทยแบบเครื่องก่อ 9 หลัง ออกแบบโดยศาสตราจารย์ ดร.ภิญโญ สุวรรณคีรี ศิลปินแห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ ภายในตัวอาคารทรงไทยจัดแบ่งเป็น 3 ชั้นคือ ชั้นใต้ดิน ชั้นที่หนึ่งและชั้นที่สอง ชั้นที่สองเป็นส่วนพิพิธภัณฑ์จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับความเป็นมาและวิวัฒนาการการแพทย์แผนไทย ปรัชญาการแพทย์พื้นบ้าน จัดแสดงเครื่องยาไทยประเภทต่าง ๆ และยังแสดงให้เห็นการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ในชีวิตประจำวัน ประกอบด้วยห้องต่าง ๆ 7 ห้อง ห้องที่ 1 หอพระไภษัชคุรุไวทูรยประภา แสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่าง ความเชื่อทางพุทธศาสนากับการแพทย์แผนไทยหรือที่เรียกว่า พุทธศาสน์การแพทย์ ห้องที่ 2 หอบรมครูการแพทย์แผนไทย เพื่อแสดงให้เห็นถึงพิธีไหว้ครู ตามหลักความเชื่อของไทย ห้องที่ 3 ห้องวิวัฒนาการการแพทย์แผนไทยตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน แสดงวิวัฒนาการทาง การแพทย์แผนไทยตั้งแต่ยุคก่อนสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี จนถึงสมัยรัตนโกสินทร์ ตั้งแต่รัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลปัจจุบัน ห้องที่ 4 ห้องภูมิปัญญาไทย ด้านแพทย์พื้นบ้านทั้ง 4 ภาคของไทย ห้องที่ 5 ห้องการนวดไทย แสดงประวัติความเป็นมาของการนวด อุปกรณ์เครื่องมือการนวดต่าง ๆ ห้องที่ 6 ห้องอาหารไทย แสดงวัฒนธรรมการกินอยู่ตามฤดูกาลและตามธาตุของคนไทยทั้ง 4 ภาค ซึ่งเหมาะสมต่อวิถีชีวิตความเป็นอยู่ประจำภาค และเป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ห้องที่ 7 ห้องยา แสดงถึงหลัก 4 ประการในการปรุงยา เครื่องยา และยาไทยสมุนไพรประเภทต่าง ๆ จากตัวพิพิธภัณฑ์ ลงไปชั้นที่หนึ่งของอาคารพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วย ห้องอาหารเพื่อสุขภาพ ขายอาหารเพื่อสุขภาพ และมีห้องจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ยาดม ยาทา ลูกอม สบู่ ยาสระผม ในบริเวณเดียวกันจะเห็น ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทย ห้องตรวจรักษาด้วยการแพทย์แผนไทย ห้องอบสมุนไพร ห้องนวด มีบริการนวดรักษาโดยสมัครเป็นสมาชิกก่อน และเปิดบริการ 08.30-17.00 น. ทุกวัน นวดรักษา นวดสุขภาพ 200 บาท นวดฝ่าเท้า 150 บาท ประคบสมุนไพร 150 บาท อบสมุนไพร 100 บาท สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 0 2590 2606 ชั้นใต้ดิน ประกอบด้วย ห้องประชุม ห้องสมุด ศูนย์จำหน่ายหนังสือของโครงการพัฒนาต่าง ๆ ด้านนอกอาคารมีเขามอซึ่งจำลองมาจากวัดโพธิ์ บนเขามอคัดเลือกท่าฤาษีดัดตนขนาดเท่าคนจริงจัดแสดง 25 ท่าและปลูกสมุนไพรที่เป็นยาต่างๆไว้บนเขาด้วย ภายในเขามอมี ถ้ำฤาษีเขามอหรือถ้ำครูแผนไทย ภายในถ้ำติดแอร์และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปและรูปฤาษีดัดตนในท่าต่าง ๆ รอบ ๆ เขามอแวดล้อมด้วยต้นไม้สมุนไพร บางต้นติดระบบสัญญาณเมื่อกดปุ่ม ต้นไม้สามารถพูดบอกข้อมูลรายละเอียดของต้นไม้ บริเวณรอบ ๆ อาคาร ยังแวดล้อมด้วยสวนสมุนไพรที่ปลูกไว้นับพันชนิด และยังมีซุ้มขายอาหารที่ทำจากพืชผักสมุนไพร ร้านขายพืชผักปลอดสารพิษ ร้านขายยาสมุนไพร ถ้าใครสนใจเรียนการแพทย์แผนโบราณ หรือ การนวดตัว นวดเท้า ก็สามารถสมัครเรียนได้ที่ สถาบันส่งเสริมสุขภาพแพทย์แผนไทย มีหลายหลักสูตรทั้งนวดตัว นวดเท้า ผู้เรียนสามารถนำไปประกอบอาชีพต่อไปได้ โดยมีใบประกาศนียบัตรรับรองจากระทรวงสาธารณสุข สอบถามรายละเอียดโทร. 0 2591 0598-9 การเดินทาง สามารถโดยสารรถประจำทางสาย 97 พิพิธภัณฑ์แห่งนี้เปิดทุกวัน เวลา 08.30-16.30น. (กรุณาติดต่อล่วงหน้าก่อนเข้าชม) สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่พิพิธภัณฑ์และศูนย์ฝึกอบรมการแพทย์แผนไทย โทร. 0 2591 4407, 0 2591 7804-5 www.dtam.moph.go.th
ตำหนักประถม-นนทบุรี ตำหนักประถม-นนทบุรี ตั้งอยู่เลขที่ 45/5 ซอยอัคนี (งามวงศ์วาน 2) เป็นตำหนักหนึ่งในวังเพชรบูรณ์ของสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย พระราชโอรสองค์ที่ 72 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 และสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ ผู้ทรงก่อตั้งโรงเรียนเพาะช่าง ตำหนักนี้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2462 เดิมอยู่ที่สี่แยกราชประสงค์ ที่ตั้งของเซ็นทรัลเวิลด์พลาซ่าในปัจจุบัน แต่ได้รื้อถอนออกมาเพื่อชะลอมาไว้ที่นนทบุรีเมื่อ พ.ศ. 2527 เป็นตำหนักหลังแรกที่สร้างในวังเพชรบูรณ์หลังจากที่สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯเสด็จจากประเทศอังกฤษกลับมาประเทศไทย แล้วทรงตั้งชื่อตำหนักตามเพลงไทยว่า โหมโรงปฐมดุสิต ต่อมาพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าสุทธิสิริโสภา พระธิดาในสมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯได้ขอพระราชทานรื้อถอนตำหนักบางส่วนเพื่อชะลอมาไว้ที่ซอยอัคนี บนเนื้อที่ 2 ไร่ แถวงามวงศ์วาน แล้วเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2527 ในการรื้อนั้นต้องใส่หมายเลขลงไปบนไม้ทุกแผ่นเพื่อความแม่นยำในการนำไปประกอบขึ้นใหม่ ไม้ทุกชิ้นจึงเป็นของเดิมทั้งสิ้น ตำหนักประถมนี้สร้างด้วยไม้สักทองทาสีเทาอ่อน ประดับด้วยกระจกสีฟ้าหลังคาใช้กระเบื้องว่าว เป็นอาคารใต้ถุนสูง เป็นแบบพักอาศัยในยุคที่กำลังได้รับอิทธิพลจากตะวันตกในยุคแรก ๆ แต่ยังมีหน้าตาแบบไทย มีการวางห้องต่างๆให้ติดต่อกันภายใต้หลังคาชัน เพดานสูง มีบานเกล็ดหรือบานกระทุ้งตามหน้าต่างเพื่อระบายความร้อน มีเนื้อที่ใช้สอยอยู่ที่ชั้นสอง ประกอบด้วยห้องนอน ห้องรับแขกและห้องน้ำ ยังมีห้องใต้หลังคาชั้นสามซึ่งใช้เป็นที่เก็บของ นอกจากนี้ระหว่างตำหนักใหญ่กับเรือนน้ำหลังเล็กมีซุ้มแปดเหลี่ยมคั่นกลางและสระบัวขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้า ถัดไปเป็นตำหนักใหม่ใต้ถุนสูงที่ไม่ได้สร้างตามแบบเดิมร้อยเปอร์เซ็นต์ จุดเด่นของตำหนักใหม่คือ ห้องโถงปิดลายทอง ตำหนักนี้ยังใช้เป็นที่วางฮาร์ฟ (พิณฝรั่ง) ชิ้นประวัติศาสตร์ที่สมเด็จเจ้าฟ้าจุฑาธุชฯ ทรงนำมาจากอังกฤษอายุกว่าร้อยปี ตำหนักประถมไม่ได้เปิดให้เข้าชมทั่วไป แต่จะมีเทศกาล ชิมน้ำชาชมตำหนัก ในช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมของทุก ๆ ปี ภายในงานมีกิจกรรมการแสดงดนตรีฮาร์ฟ หุ่นกระบอก นำชมตำหนัก สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0 2261 4777-8, 0 2589 7173
|
ตั้งอยู่ที่หมู่ 6 ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมือง สวนทุเรียนคุณป้าไสว ทัศนียเวช เกษตรกรผู้ปลูกทุเรียนนนท์อันลือชื่อ สวนทุเรียนโบราณแห่งนี้เริ่มปลูกมาตั้งแต่ พ.ศ. 2502 บนเนื้อที่กว่า 10 ไร่ ปลูกทุเรียนนนท์หลากหลายพันธุ์ อาทิ ก้านยาว หมอนทอง เจ้าเงาะ ทองย้อยฉัตร กำปั่นเนื้อขาว เป็นต้น ชมการปลูกทุเรียนอันเป็นเอกลักษณ์ของทุเรียนเมืองนนท์ด้วยการปลูกแบบยกโคก โดยใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น การทำสวนแบบวนเกษตร โดยปลูกพืชชนิดอื่นแซมต้นทุเรียน เช่น พริกไทย ชมพู่ ทองหลาง ส้มโอ เพื่อให้เกิดการพึ่งพาซึ่งกันและกัน บนพื้นที่ดอนและดินร่วน ทำให้ทุเรียนที่นี่มีรสชาดอร่อย หอม หวาน มัน เม็ดลีบ ปอกง่าย อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวทุเรียนนนท์ ชมเครื่องมือเกษตรแบบโบราณที่อนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังได้เรียนรู้ ทุเรียนนนท์จะเริ่มออกลูกประมาณเดือนเมษายน-พฤษภาคม ชมและเลือกซื้อทุเรียนจากสวน และซื้อกิ่งพันธุ์ สามารถติดต่อล่วงหน้าได้ที่ โทร. 0 2903 5766 |
|
| |