เป็นอีกปี..ที่ผ่านไป เป็นอีกปี..ที่ผ่านไป |
โดย... จำปา |
| ความฝันของเราคือพาเธอไปเที่ยวให้ทั่วประเทศ..เธอชอบใช่มั๊ย ฉันยังจำประโยคนี้ได้อย่างดีทั้งๆ ที่ผ่านมา 5 ปีแล้ว ถึงแม้ตอนนี้จะเหลือเพียงฉันอยู่คนเดียวแต่ฉันก็จะสานต่อความฝันของเขาให้เป็นจริง..ตั้งแต่เรียนจบฉันเริ่มทำงานและเก็บเงินเพื่อไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ที่สวยงามในประเทศ เพราะฉันตระหนักดีว่า เวลาแห่งความสุขมักอยู่กับเราไม่นาน ดังนั้นเมื่อมีโอกาสฉันจะออกเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์แห่งความสุขนั้นเสมอ |
|
| ในปีที่ผ่านมา ฉันออกเดินทางสัมผัสธรรมชาติที่อ้าแขนรอโอบรับฉันเสมอไม่ว่าเมื่อใดก็ตาม เริ่มต้นปีใหม่หลายๆ คนรอส่งท้ายปีกันที่เมืองหลวงอันสวยงาม ฉันตัดสินใจเดินทางไปที่ภูหินร่องกล้า จ.เพชรบูรณ์ เพื่อส่งตะวันปลายปีที่ลานหินแตกหินปุ่ม และที่นั่นดวงอาทิตย์ค่อยๆ เลื่อนลับขอบฟ้าและขุนเขาไปอย่างช้าๆ ภายใต้ผู้คนมากมายที่รอส่งพระอาทิตย์ แต่กลับไม่มีเสียงคุยกัน เพราะทุกคนคงดื่มด่ำกับความงามตรงหน้า รอจนอาทิตย์ลับขอบฟ้าผู้คนค่อยๆ เก็บสัมภาระแล้วออกเดินทางต่อ ส่วนฉันมุ่งหน้าไปที่กางเต๊นท์ ซึ่งมีลักษณะเป็นป่าสนภายในอุทยาน ตกกลางคืนหมู่ดาวพากันเรียงรายออกมาทักทายนักท่องเที่ยว สุกสกาวไปทั่วทั้งฟ้า ภายใต้อากาศที่หนาวเย็น มีเสียงกีตาร์โปร่งลอยมาตามลมเล่นเพลงชื่นชมความงามของขุนเขาและดวงดาว ณ ที่แห่งนี้ทำฉันหลับอย่างเป็นสุขได้เสมอ |
หลังสงกรานต์ในปีเดียวกัน ฉันและเพื่อนๆ ออกเดินทางตั้งแต่เช้ามืดของวันเสาร์เพื่อจะได้ทันดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ชายหาดสวนสน เมื่อไปถึงพวกเราก็ได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสมใจ และโดยไม่ได้นัดหมายพวกเราวิ่งลงทะเลเล่นน้ำที่ใสแจ๋วกันอย่างสนุกสนาน และนอนที่เตียงผ้าใบริมชายหาดเพื่อพักผ่อนเอาแรง  จนใกล้เที่ยงจึงเดินทางออกจากสวนสนไปที่หัวหิน ที่นั่นมีม้าชายหาดตัวใหญ่ เราให้เราขี่เพื่อชมความงามของชายหาด ถึงแม้จะไม่เคยขี่ม้ามาก่อนแต่พวกเราก็ใช้บริการเจ้ามาแสนรู้เหล่านั้น เมื่อขึ้นไปขี่เจ้าม้าเหล่านี้ตัวอุ่นเหลือเกิน จนฉันอดไม่ได้ที่จะต้องขอกอดมันสักที ตกเย็นเราเดินทางต่อไปที่ชะอำเพื่อค้างคืนที่นั่น และทำอาหารกินกันถึงแม้จะไม่มีใครทำเป็นแต่บรรยากาศแห่งความสนุกทำเอาพวกเราลืมนึกถึงรสชาติของอาหารเลยทีเดียว เมื่อตื่นขึ้นมาเราขี่เรือกล้วยที่มีให้บริการที่ชายหาด ก่อนเก็บสัมภาระอำลาสายลม ชายหาดและเกลียวคลื่น |
|
| ในเดือนสิงหาคม พวกเราออกเดินทางกันอีกครั้ง คราวนี้ใช้บริการแพกเกจท่องเที่ยวของการรถไฟ พาเราไปเยือนถิ่นกาญจนบุรี เมื่อขึ้นรถไฟมีนักเรียนเต็มโบกี้ที่จะไปทัศนศึกษา บรรยากาศแห่งความสนุกและสดใสของเด็กนักเรียนทำเอาพวกเราย้อนวันวานกลับไปคุยเรื่องอดีตเมื่อครั้งยังเป็นขาสั้นคอซองกันอย่างสนุกสนาน เผลอแป๊บเดียวรถไฟจอดที่นครปฐมเพื่อให้เราสักการะองค์พระปฐมเจดีย์ และทานอาหารเช้า พวกเราจับจ่ายซื้อข้าวเหนียว และผลิตภัณฑ์จากหมูอันลือชื่อของนครปฐมเป็นเสบียงบนรถไฟ ฉึกฉักๆๆ ผ่านสถานที่ต่างๆ ทั้งทุ่งหญ้าสีเขียว บ้านเรือน ขุนเขา จนกระทั่งถึงน้ำตกไทรน้อย แวะให้พวกเราเล่นน้ำทานอาหารเที่ยง และส่งที่พักที่มีเรือมาคอยรอรับ ในที่พักนี้มีกิจกรรมมากมายในร่วมสนุก และที่นี่เองที่ทำให้เราได้เห็นน้ำใจของคนไทย เมื่อตอนที่พวกเราโดนเจ้าหน้าที่หลอกว่าแพจะล่มต้องว่ายน้ำกลางลำน้ำแควเพื่อกลับแพที่พัก เมื่อทุกคนโดดลงน้ำฉันซึ่งว่ายน้ำไม่เป็นก็ต้องโดดด้วย ทุกคนคอยช่วยเหลือกันเป็นอย่างดีจนเราถึงแพที่พักเจ้าหน้าที่จึงเฉลย ทำเอาเราตื่นเต้นกันอย่างมาก ตกกลางคืนพักที่แพริมน้ำมองเห็นขุนเขาและทางรถไฟสายมรณะสวยงามทีเดียว ตอนเช้าเราเดินทางไปเที่ยวถ้ำเชลย โดยมีวิทยากรให้ความรู้ตลอดเวลาถือว่าคุ้มค่ามากทีเดียวกับเงินที่จ่ายไปเพียงพันกว่าบาท |
|
| สุดท้ายปลายปีพวกเรานัดรวมตัวกันอีกครั้งเพื่อไปเที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ที่นี้ยังมีบ้านเรือนเก่าๆ เรียงรายกันไม่สิ้นเสน่ห์จริงๆ และยังมีส้มโออัมพวาที่แสนอร่อยอีกด้วย พวกเราเดินชมวิถีชีวิตชาวตลาดน้ำ จับจ่ายซื้อของและล่องเรือชมสองฟากฝั่งเสียดายที่ไม่ได้อยู่รอดูหิ่งห้อย เพราะภาระที่รอเราไปสะสาง แต่ก็สัญญากันไว้ว่าจะต้องมาดูหิ่งห้อยให้ได้ในคราวหน้า เป็นอีกปีที่ผ่านไป ที่ฉันเก็บเกี่ยวประสบการณ์แห่งความสุขได้ค่อนข้างมากทั้งใกล้และไกล ซึ่งก่อนส่งท้ายปีเก่าอีกรอบ ฉันเดินทางไปไหว้พระที่จังหวัดอยุธยาและอธิษฐานไปว่าขอให้เขาได้รับรู้ว่าตราบที่ฉันยังมีเวลาอยู่ฉันก็จะพยายามที่จะสานต่อความฝันของเขาให้เป็นจริง |
