เส้นทางเดินทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (เส้นทางที่ 2)
(กรุงเทพ นครราชสีมา ขอนแก่น กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม - มุกดาหาร)
เช้า - ออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ไป จังหวัดนครราชสีมา
ชมหลุมขุดฯ บ้านธารปราสาท ชมหมู่บ้านท่องเที่ยวบ้านธารปราสาท*,
อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
บ่าย - ออกเดินทางไปจังหวัดขอนแก่น
ชมแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดขอนแก่น
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียง *
- พักค้างคืนจังหวัดขอนแก่น
วันที่ 2
เช้า - ออกเดินทางไปจังหวัดกาฬสินธุ์
- พระธาตุขามแก่น *
- ชมพิพิธภัณฑ์แหล่งขุดค้นไดโนเสาร์ภูกุ้มข้าว *
- ออกเดินทางไปจังหวัดสกลนคร
บ่าย - โครงการพระราชดำริ ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพาน
- ชมพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ , พระธาตุเชิงชุม , วัดป่าสุทธาวาส *
- พักค้างคืนจังหวัดสกลนคร
วันที่ 3
เช้า - เดินทางไปจังหวัดนครพนม
เดินทางชมโครงการศูนย์ศิลปาชีพกุดนาขาม ,พระธาตุประสิทธ์ *
บ่าย - แม่น้ำสองสี
- สักการะพระธาตุท่าอุเทน ,บ้านลุงโฮจิมิน ,โบสถ์นักบุญอันนา *
- พักค้างคืนจังหวัดนครพนม
วันที่ 4
เช้า - ออกเดินทางไปจังหวัดมุกดาหาร
- แวะชมแหล่งท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม
- พระธาตุเรณูนคร ,พระธาตุพนม *
บ่าย - เดินทางถึงจังหวัดมุกดาหาร
- วัดสองคอน *
- ชมหอแก้วมุกดาหาร , อุทยานแห่งชาติภูผาเทิบ,ชมสินค้าที่ตลาดอินโดจีน*
พักค้างคืนจังหวัดมุกดาหาร
วันที่ 5
เช้า - ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยสวัสดิภาพ
บ้านปราสาทนับเป็นแหล่งโบราณคดีแห่งที่ 2 ต่อจากบ้านเชียงที่ได้จัดทำในลักษณะ
พิพิธภัณฑ์กลางแจ้ง สันนิษฐานว่ามีชุมชนอาศัยอยู่ในบริเวณนี้มาตั้งแต่สมัยก่อนประวัติศาสตร์จนถึงสมัยประวัติศาสตร์ และหลักฐานของวัฒนธรรมแบบทวารวดีและเขมรโบราณ มีหลุมขุดค้นที่ตกแต่งละเปิดให้ชม
3 แห่ง
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ภูเวียงตั้งอยู่ใกล้อุทยานแห่งชาติภูเวียง ภายในอาคารมีการจัดแสดง
เรื่องราวการขุดค้นพบไดโนเสาร์ที่จังหวัดขอนแก่น เรื่องราวเกี่ยวกับการกำเนิดโลก กำเนิดหิน แร่ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตและสิ่งสำคัญที่เป็นเอกลักษณ์ทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติของจังหวัดขอนแก่น
สร้างขึ้นประมาณต้นพุทธศตวรรษที่ 25 ตั้งอยู่ในวัดเจติยภูมิ พระธาตุขามแก่นถือว่าเป็น
โบราณสถานที่สำคัญของจังหวัดขอนแก่นทุกปีในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จะมีงานฉลองและนมัสการพระธาตุเป็นประจำ
ตั้งอยู่บริเวณเชิงเขาภูกุ้มข้าว วัดป่าสักกะวัน เป็นแหล่งขุดค้นพบกระดูกไดโนเสาร์ชนิดกินพืช
จำนวนมากกว่า 700 ชิ้น และในพิพิธภัณฑ์ยังมีซากปลาโบราณพันธุ์ใหม่ของโลก ภูกุ้มข้าวเป็นแหล่งที่พบซากฟอสซิลกระดูกไดโนเสาร์แหล่งใหญ่และสมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย
บริเวณพระตำหนักเป็นป่าไม้ร่มรื่น มีไม้ดอกไม้ประดับตกแต่งไว้อย่างสวยงาม พระบาทสมเด็จ-
พระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์จะเสด็จแปรพระราช- ฐานเยี่ยมพสกนิกรในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในระหว่างที่ไม่ได้ประทับอยู่ที่พระตำหนักอนุญาตให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ทุกวัน
ประดิษฐานอยู่บนเนินสูง ในวัดพระธาตุเชิงชุมวรวิหาร ภายในพระวิหารประดิษฐาน หลวงพ่อ
พระองค์แสนเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะเชียงแสน เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของชาวสกลนคร งานมนัสการพระธาตุประจำปีเริ่มตั้งแต่วันขึ้น 11 ค่ำ ถึง 15 ค่ำ เดือนยี่
อยู่ในเขตเทศบาลเมืองสกลนคร ตรงทางเข้าศูนย์ราชการจังหวัด เป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์พระ
อาจารย์มั่น ภูริทัตตะเถระ ภายในพิพิธภัณฑ์มีรูปหล่อเหมือนเท่าตัวจริง ตู้บรรจุอังคารธาตุ เครื่องอัฐบริขาร พร้อมทั้งประวัติความเป็นมาของท่านตั้งแต่เกิดจนมรณภาพ และภายในวัดมีเจดีย์บรรจุอัฐิหลวงปู่หลุย
ศูนย์ศิลปาชีพตามโครงการพระราชดำริ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นศูนย์ที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดสกลนคร มีผลิตภัณฑ์ของศูนย์มากมายหลายชนิด เช่น งานปั้น เครื่องปั้นดินเผา เคลือบเงา ลงยา ผ้าไหม ผ้าฝ้าย ของฝาก ของชำร่วย งานฝีมือชั้นสูง ฯลฯ
ประดิษฐานอยู่ที่วัดธาตุประสิทธิ์ อำเภอนาหว้า เป็นที่บรรจุพระอุรังคธาตุของพระพุทธเจ้า เดิมเป็นเจดีย์เก่าแก่ อยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม ภายในอุโมงค์ขององค์เจดีย์ มีพระพุทธรูปเก่าแก่อยู่หลายองค์ ชนเผ่าญ้อได้พบพระธาตุนี้เมื่อ ปี พ.ศ.2112 และบูรณะครั้งแรก ถวายนามว่าพระธาตุประสิทธิ์
หมู่บ้านเก่าแก่ในจังหวัดนครพนมที่โฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีสาธารณรัฐสังคมนิยม
เวียดนาม พร้อมผู้ร่วมอุดมการณ์เข้ามาพึ่งพระบรมโพธิสมภารพระบาทสมเด็จอยู่หัวฯ เพื่อกอบกู้เอกราชของเวียดนาม ระหว่าง พ.ศ. 2467 2474 นับว่าสถานที่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ส่งผลให้การกู้ชาติประสบผลสำเร็จ ปัจจุบันยังคงรักษาสภาพเดิม และปลูกต้นไม้รอบบ้านอย่างร่มรื่น เช่น ต้นหมาก พลู กล้วย และชา นอกจากนี้บริเวณริมถนนยังมีร้านก๋วยเตี๋ยวและอาหารเวียดนาม
คุณพ่อเอดัวร์ นำลาภ อธิการโบสถ์ วัดนักบุญอันนา สร้างขึ้นเมื่อ ค.ศ.1926 เป็นสัญลักษณ์ของเมืองนานาชาติที่มีคนหลายเชื้อชาติอาศัยอยู่ สถาปัตยกรรมที่สวยงามแปลกตาน่าชม ในช่วงก่อนวันคริสต์มาส ชาวคริสต์แต่ละชุมชนจะประดิษฐ์ดาวรูปแบบต่าง ๆ แล้วแห่มารวมกันไว้ที่นี่
อยู่บ้านท่าอุเทน องค์พระธาตุก่ออิฐถือปูน เป็นผังรูปสี่เหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม สร้างเป็น 3 ชั้น ชั้นแรกเป็นอุโมงค์บรรจุของมีค่าต่าง ๆ ชั้นที่ 2 สร้างครอบอุโมงค์ ชั้นที่ 3 คือ เจดีย์องค์ใหญ่ สูงประมาณ 1.5 เมตร พระธาตุนี้เป็นศิลปกรรมและปูชนียสถานอันสำคัญยิ่งองค์หนึ่ง
สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในวโรกาสครองราชย์ครบ 50 ปี
ความสูง 65 เมตร แยกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนฐานเป็นสถานที่แสดงประวัติศาสตร์ของเมืองมุกดาหาร นิทรรศการทางศิลปวัฒนธรรมและวิถีของคนสองฝั่งโขง ชั้น 3/12 ชั้นที่12 เป็นที่เก็บรักษาอาวุธและสิ่งของเครื่องใช้สมัยก่อน ส่วนหอชมวิวและโดม บนยอดสูงสุดเป็นที่ตั้ง "ลูกแก้วมุกดา" มีลักษณะกลมสีขาวหมอกมัวทำจากประเทศเยอรมนี ภายในประดิษฐาน "พระพุทธรูปนวมิ่งมงคลมุกดาหาร" เป็นพระพุทธรูปเนื้อเงินแท้บริสุทธิ์ ปางมารวิชัย
ตลาดขายสินค้าหลากหลายชนิด ราคาย่อมเยา ต่อรองได้ สินค้าส่วนใหญ่มาจากลาว กัมพูชา เวียดนาม จีน ยุโรปตะวันออก เช่น ฝรั่งเศส ที่น่าสนใจ ได้แก่ เครื่องเซรามิก ประเภทแก้ว ถ้วย ชาม ตุ๊กตาอิริยาบถต่างๆ เครื่องเงิน เครื่องหนัง ผ้า เสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ตกแต่งรถยนต์ สินค้าพื้นเมือง อาทิ ผ้าหมี่ ผ้าไหม เครื่องดนตรีประเภทแคน ขลุ่ย พิณ โปงลาง ฯลฯ
อยู่ที่วัดพระธาตุพนมวรมหาวิหาร ลักษณะเป็นเจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมสูงสถาปัตยกรรมมีแหล่ง
ที่มาเดียวกับปราสาทขอม เป็นเจดีย์ทรงเหลี่ยม บนยอดพระธาตุเป็นฉัตรทองคำน้ำหนักถึง 110 กิโลกรัม พระธาตุพนมเป็นพระธาตุเก่าแก่อายุกว่า 2,000 ปี ภายในบรรจุพระอุรังคธาตุ (กระดูกส่วนหน้าอก) ของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
จำลองมาจากองค์พระธาตุพนม สูง 35 เมตร กว้าง 8.37 เมตร มีซุ้มประตู 4 ด้าน ภายในเป็น
โพรงบรรจุพระไตรปิฎก มีพระพุทธรูปพระองค์แสนน้ำหนัก 1,200 กิโลกรัม หน้าตักกว้าง 50 เซนติเมตร สูง 50เซนติเมตร ประกอบด้วยพุทธลักษณะสวยงามมาก
ลักษณะเป็นภูเขาหินทรายประกอบด้วยเทือกเขาน้อยใหญ่หลายลูกติดต่อกันแบบลูกคลื่น
ภายในอุทยานประกอบด้วย ภูหมากยาง ภูมโน ภูโปร่ง ฯลฯ หลายบริเวณเป็นหน้าผาสูงและลานหินกว้าง มีหินรูปร่างแปลก ๆ มากมาย
มีชื่อเต็มว่าสักการสถานแห่งมรณสักขี วัดสองคอน หรือในชื่อเดิมว่าวัดพระแม่ไถ่ทาส เป็น
โบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาธอลิก สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติบุญราศรีมรณสักขีทั้ง 7 ท่านที่ได้พลีชีพเพื่อยืนยันความเชื่อในองค์พระผู้เป็นเจ้า