SCG Excellent Internship ปันโอกาสให้นิสิตฝึกงานจริง สร้างผลงานจริง


1,249 ผู้ชม


SCG Excellent Internship ปันโอกาสให้นิสิตฝึกงานจริง สร้างผลงานจริง




SCG Excellent Internship ปันโอกาสให้นิสิตฝึกงานจริง สร้างผลงานจริง

เอสซีจีถือเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ได้ชื่อว่าเป็นองค์กรนวัตกรรมแห่ง การสร้างคน ดังนั้น ทุกปิดเทอมจะมีนิสิตนักศึกษามาขอฝึกงานเป็นจำนวนมาก
ภายใต้โครงการ SCG Excellent Internship ในปีนี้เอสซีจีจึงขอขีดเส้นรับนักศึกษาจากทั่วประเทศเพียง 200 คน เพื่อให้สามารถพัฒนาศักยภาพเยาวชนคนรุ่นใหม่ให้เป็นทั้งคนเก่งและคนดีที่มีจิตสำนึก รับผิดชอบต่อสังคมอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด
"กิติ มาดิลกโกวิท" หรือพี่เบนซ์ ผู้อำนวยการสำนักงานบุคคลกลาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) บอกเล่าถึงโครงการดี ๆ นี้ว่า ที่ผ่านมาเอสซีจีได้เปิดรับนักศึกษาฝึกงานอย่างต่อเนื่องมา 30-40 ปีแล้ว โดยจะรับนักศึกษาฝึกงานจากหลายช่องทาง มีทั้งเด็กที่เดินเข้ามาติดต่อเอง อาจารย์ติดต่อเข้ามา ญาติพี่น้องที่ทำงานในเอสซีจีแนะนำเข้ามา หรือแม้กระทั่งลูกค้า ผู้มีอุปการคุณฝากเข้ามา
และเมื่อ 10 ที่แล้วได้เปิดเป็นโครงการ SCG Excellent Internship ขึ้น ปรากฏว่ามีนักศึกษาสมัครเข้ามาฝึกงานเป็น 1,000 คน แต่รับได้ประมาณครั้งละ 50 คน
ในวันนั้นผู้บริหารจึงมานั่งคิดกันว่า เราน่าจะรับผ่านช่องทางเดียว แล้วทำทุกอย่างให้เป็นระบบมากขึ้น น่าจะเป็นสิ่งที่ดี
มาในปีนี้เอสซีจีจึงเปิดรับนักศึกษา ฝึกงานผ่านโครงการ SCG Excellent Internship เพียงช่องทางเดียวทั้งหมด 200 คน แต่ก็ยังยืดหยุ่นให้กับผู้มีอุปการคุณส่วนหนึ่ง
โดยโปรแกรมฝึกงานได้พัฒนาให้มีมาตรฐานมากขึ้น มีการปฐมนิเทศ มีแคมป์ให้น้อง ๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน แล้วจัด พี่เลี้ยงคอยดูแลการฝึกงานอย่างใกล้ชิด
นอกจากนั้นยังมีโปรเจ็กต์ให้น้องฝึกงานได้ทำ ที่เป็นไฮไลต์คือกิจกรรม Innovative Suggestion Contest ที่เปิดโอกาสให้น้อง ๆ เสนอโครงการความคิดสร้างสรรค์ชิงทุนการศึกษา รวมมูลค่ากว่า 120,000 บาท
แบ่งเป็นรางวัลละ 10,000 บาท ซึ่ง นักศึกษามีสิทธิเลือกที่จะทำโครงการในลักษณะบุคคล หรือทำเป็นทีมก็ได้
"ตรงนี้จะทำให้นักศึกษาฝึกงานได้มีโอกาสแสดงศักยภาพที่โดดเด่นของตัวเองออกมา และองค์กรก็สามารถนำอินโนเวชั่นเหล่านี้ไปพัฒนาประยุกต์ใช้กับองค์กรได้"
"ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายโปรเจ็กต์ที่น้อง ๆ เสนอ แล้วองค์กรนำมาพัฒนาใช้งานจริง เช่น GL (General Ledger) เป็นโปรแกรมการปรับปรุงระบบงานในเรื่องของบัญชี หรือรถมินิซีแพค กระเบื้องที่ใช้กาวทาแทนใช้ปูน เพื่อให้สะดวกกับการใช้งาน"
นอกจากนั้นแล้ว โครงการ SCG Excellent Internship ยังส่งเสริมให้น้อง ๆ ทำกิจกรรม CSR Activity โดยเปิดโอกาสให้น้อง ๆ รวมตัวกันไปทำโครงการ CSR ด้วยตัวเองใน งบประมาณดำเนินการ 100,000 บาท
"กิติ" บอกว่า สิ่งที่โครงการ SCG Excellent Internship เน้นมาก คือการให้นิสิตนักศึกษาได้ฝึกงานจริง ทำงานจริง และมีผลงานจริง โดยมีพี่เลี้ยงคอยสอนงานและให้คำแนะนำแบบตัวต่อตัวอย่างดีตลอดระยะเวลาการฝึกงาน
ไม่เพียงเท่านั้น ยังจัดให้มีฝึกอบรมเรื่อง Corporate Governance (CG) ในห้องเรียนแล้วสอดแทรกเรื่อง CG ในทุกกิจกรรมที่น้อง ๆ ทำ
และให้น้อง ๆ ได้สัมผัสการบริหารงาน โดยยึดหลักบรรษัทภิบาล จากการที่ได้ฝึกงานจริงในหน่วยงานต่าง ๆ และมีการจัดอบรมความรู้พื้นฐานทางธุรกิจ มีการจัดกิจกรรม เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างผู้เข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการสร้าง เครือข่ายที่เข้มแข็ง
"Corporate government ถือเป็นหัวใจสำคัญที่เราย้ำ เพราะเรามองว่าตรงนี้คือความแตกต่าง เพราะที่อื่นอาจจะเน้นเรื่องงาน แต่ที่เอสซีจีเน้นอยากให้คนเป็นคนดี คำว่าเป็นคนดี คือให้เรียนรู้ว่า ในเอสซีจี เราทำธุรกิจอย่างไร เราโปร่งใสอย่างไร เรามีความรับผิดชอบต่อสังคมอย่างไร น้องที่มาฝึกงานที่นี้ถือว่าโชคดีกว่าองค์กรอื่น ๆ เพราะพี่กานต์ (กานต์ ตระกูลฮุน) จะลงมาพูดคุยกับน้อง ๆ ด้วยตัวเองในวันปฐมนิเทศ ซึ่งองค์กรใหญ่ ๆ น้องฝึกงานแทบไม่มีโอกาสอย่างนี้"
แม้ว่า "กิติ" จะบอกว่าไม่ได้คาดหวังว่านักศึกษาฝึกงานจำนวน 200 คนจะต้องกลับเข้ามาทำงานกับเอสซีจี 100 เปอร์เซ็นต์ การดำเนินโครงการ SCG Excellent Internship ก็เพื่อช่วยสถาบันการศึกษาสร้างคนที่มีศักยภาพ แต่ก็ไม่ได้ปิดประตูน้อง ๆ ไม่ได้ปิดโอกาสองค์กร
ในระหว่างการฝึกงาน ถ้าน้องคนไหนที่ฝึกงานแล้วหน่วยก้านดี เมื่อจบแล้วอยากทำงานกับเอสซีจี องค์กรนี้ก็ยินดีอ้าแขนรับทันที บางคนมีการตีตราจองล่วงหน้าด้วยซ้ำ
ซึ่งที่ผ่านมา นิสิตนักศึกษาที่ฝึกงานกับเอสซีจีมีสัดส่วนถึง 20-30 เปอร์เซ็นต์ที่กลับมาทำงานให้กับเอสซีจี ส่วนที่เหลือใช่ว่าไม่สนใจ แต่เป็นเพราะคนส่วนหนึ่งต้องไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโท บางส่วนบริษัทไม่มีตำแหน่งงานว่างตรงกับสิ่งที่บัณฑิตใหม่อยากทำ
"ทุก ๆ ปี ก่อนถึงเทศกาลรับนักศึกษาฝึกงานที่เอสซีจีกลาง จะมีการสำรวจความต้องการขององค์กรธุรกิจในเครือข่ายทั่วประเทศว่าแต่ละองค์กรต้องการนักศึกษาฝึกงานในส่วนไหนบ้าง สาขาที่เปิดรับจึงค่อนข้างกว้างและหลากหลาย โดยจะให้ น้ำหนักกับนักศึกษาในคณะวิศวกรรมศาสตร์มากหน่อย เพราะธุรกิจของเอสซีจีส่วนใหญ่เป็นเคมิคอล รองลงมาเป็นบริหารธุรกิจ ส่วนสาขาอื่น ๆ ก็มีความต้องการเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นคณะวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ นิเทศศาสตร์ สาธารณสุขศาสตร์ สถาปัตย กรรมศาสตร์ อุตสาหกรรมศาสตร์ และสาขาอื่น ๆ ตามที่องค์กรธุรกิจเสนอมา"
"กิติ" บอกว่า นักศึกษาที่สมัครเข้าร่วมโครงการทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์เดียวกัน นอกจากจะต้องมีเกรดเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 3.00 แล้วยังต้องสอบข้อเขียน ซึ่งจะมีทั้งเรื่องความรู้ทั่วไป ความรู้เบื้องต้นทางธุรกิจ และภาษาอังกฤษ เด็กกลุ่มนี้จึงถือว่าเป็นเด็ก หัวกะทิที่มีความมุ่งมั่นที่จะมาฝึกงานและกระหายความรู้จริง ๆ
ช่วง 2 เดือน ตั้งแต่ 22 มีนาคม ถึง 24 พฤษภาคม 2553 แม้ว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ที่นักศึกษาจะได้ฝึกงานกับเอสซีจี แต่ทุกคนก็เต็มอิ่ม เพราะนอกจากจะได้เรียนรู้การทำงานขององค์กรขนาดใหญ่ รับรู้ถึงวัฒนธรรมที่ดีงามของบริษัทที่โดดเด่นเรื่องธรรมาภิบาล
นักศึกษาทุกคนที่มาฝึกงานที่นี่ยังจะได้รับเบี้ยเลี้ยงอีกคนละ 300 บาทต่อวัน และถ้าคนไหนต้องไปประจำต่างจังหวัด นอกจากจะได้มีโอกาสสัมผัสบรรยากาศการทำงานต่างพื้นที่แล้ว องค์กรแห่งนี้ยังจัดที่พักและรถรับส่งให้ฟรี
งานนี้เรียกว่าได้กับได้ทั้งผู้ให้และผู้รับ
หน้า 26

วันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4203  ประชาชาติธุรกิจ


อัพเดทล่าสุด