Play + Learn = เพลิน Happy Workplace แบบดีแทค


1,104 ผู้ชม


Play + Learn = เพลิน Happy Workplace แบบดีแทค




Play + Learn = เพลิน Happy Workplace แบบดีแทค

ดีแทคย้ายบ้านใหม่สู่ใจกลางเมือง ไม่ใช่แค่ตอบโจทย์พื้นที่เพื่อรองรับพนักงานที่เพิ่มมากขึ้น แต่อีกมุม คือ การสราง "วิถีดีแทค" หรือ "Dtac Way"

การจากฐานที่มั่นเดิม ณ ตึกชัย ของดีแทค สู่อาคารหลังใหม่ "Dtac House" ใจกลางเมือง ณ จามจุรีสแควร์ คงไม่ใช่แค่การตอบโจทย์ในเรื่องพื้นที่เพื่อรองรับพนักงานที่จำนวนเพิ่มมากขึ้นตามอัตราการขยายตัวทางธุรกิจในแต่ละวัน

แต่เป็นเพราะดีแทคต้องการ "รวมศูนย์" พนักงานที่กระจัดกระจายอยู่ตามสำนักงานทั้ง 6 แห่งเข้าไว้ด้วยกัน ภายใต้บรรยากาศแห่งความสุขและความอบอุ่น

เป็นยุทธวิธีการสร้างสายสัมพันธ์ในการทำงาน เสริมความแข็งแกร่งให้กับวัฒนธรรมองค์กร เพื่อสร้างสรรค์สินค้าและบริการสู่ลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

"ที่ดีแทคอยู่รอดมาได้ทุกวันนี้เป็นเพราะพนักงานของเรามีความคิดสร้างสรรค์สูงทำให้คิดสินค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่งในตลาดได้ ผมจึงอยากตอบแทนพนักงานให้พวกเขาได้ทำงานในสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสุข และจะทำให้พวกเขารู้สึกสนุกในการให้บริการลูกค้า" ธนา เธียรอัจฉริยะ Chief Commercial Office บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าว

ดีแทคใช้อาคารชัยเป็นฐานที่มั่นมาตั้งแต่ปี 2542 รวมถึงเช่าพื้นที่ของอาคารอีกหลายแห่งในกรุงเทพฯ ซึ่งในตอนนั้นมีพนักงานเพียง 700 คน แต่เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี จนถึงปี 2551 พนักงานดีแทคทั้งในกรุงเทพฯและทั่วประเทศ เพิ่มจำนวนขึ้นเป็นเกือบ 6,000 คน ทำให้ยากต่อการตอบโจทย์การแข่งขันที่รุนแรงขึ้นอย่างในปัจจุบัน เพราะฐานที่มั่นเดิมมีข้อจำกัดหลายประการ ทั้งในเรื่องของพื้นที่ที่จำกัด การประสานงานของหน่วยงานต่างๆที่อยู่ห่างกัน การเดินทางระหว่างอาคาร การรวมกลุ่มเพื่อกิจกรรมขององค์กร และอื่นๆ

ดังนั้น ในปี 2551 ดีแทคจึงเริ่มโครงการย้ายสำนักงานใหญ่และอีกหลายส่วนที่กระจัดกระจายตามตึกต่างๆ มาที่อาคารจัตุรัสจามจุรี

สุธีรพันธุ์ สักรวัตร Assistant Vice President ของดีแทค ผู้ดูแลโปรเจ็คการย้ายบ้านครั้งนี้อธิบายถึงคอนเซปต์การออกแบบ ตกแต่ง ที่เป็นไปตาม "วิถีดีแทค" หรือ "Dtac Way"  เพื่อเป็นออฟฟิศที่ดีที่สุดของพนักงาน ให้ฟังว่า

พื้นที่ 61,160 ตารางเมตร ตั้งแต่ชั้น 22 - 41 ตกแต่งออกมาในรูปแบบที่เรียบง่าย กึ่งดิบ แต่อิงกับธรรมชาติ และมีความเรียบแฝงตัวอยู่ โดยวัสดุกว่า 80% มาจากประเทศไทย โดยอิงกับหลักฮวงจุ้ยบ้างในบางชั้น อย่างเช่น ล็อบบี้ และชั้นผู้บริหาร

บนผนังไม่มีการนำประโยค หรือวลีเด็ดที่สะท้อนให้เห็นถึงตัวตนของดีแทคมาแปะแต่ประการใด

เหตุผลไม่ใช่เพียงเพราะ ไม่ต้องการให้รกสายตาเท่านั้น แต่ชาวดีแทคอยากให้ผู้ที่มาเยี่ยมเยือนออฟฟิศได้รู้จักในแก่นของความเป็นดีแทคจากสปิริตมากกว่าสิ่งที่จับต้องได้อย่างเป็นรูปธรรม

เพราะประโยคบนผนังเหล่านี้ จะไม่ส่งผลอันใดเลย หากผู้ที่ทำงานอยู่ในบ้านหลังนี้ไม่ได้มีความคิดตามและไม่สร้างให้เกิดบรรยากาศอันน่าอบอุ่นเกิดขึ้น

โดยพื้นที่ถูกแบ่งออกเป็น 2 ส่วนใหญ่ๆ ประกอบด้วย ส่วนออฟฟิศ และพื้นที่ใช้งานทั่วไป เพื่อตอบสนองจุดประสงค์สำคัญอย่างหนึ่ง คือ Play & Learn = เพลิน หรือสนุกไปด้วย ทำงานไปด้วย

ภายในออฟฟิศเปิดกว้าง สัญญาณ Wi-Fi และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกถูกติดตั้งไว้ทั่วทุกแห่งของ Dtac House พนักงานสามารถนั่งทำงานได้ทุกที่ ไม่จำเป็นต้องนั่งประจำโต๊ะ ซึ่งช่วยขจัดความจำเจ ทำงายอย่างเพลิดเพลินด้วยบรรยากาศที่ดี ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ไอเดียตลอดเวลา

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่ที่ตอบความจำเป็นของพนักงานให้รู้สึกถึงความเป็นบ้านได้แม้อยู่ในที่ทำงาน ด้วยการเพิ่มเติมบรรยาการการทำงานที่สนุกสนานเข้าไป เช่น สไลเดอร์ ห้องคาราโอเกะ ลู่วิ่ง สนามฟุตซอลในร่ม หรือฟิตเนส รวทั้งการจัดสรรพื้นที่ที่เติมสิ่งเล็กๆน้อยๆให้พนักงานรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงยิ่งขึ้น เช่น ห้องนั่งสมาธิ ห้องละหมาด ห้องให้นมบุตร และห้องเด็กเล่น

การคำนึงถึงพนักงานของออฟฟิศแห่งนี้ ได้ถูกตอกย้ำด้วยการจำกัดพื้นที่ห้องทำงานของผู้บริหารที่ถูกบีบให้เล็กกว่าออฟฟิศเดิมด้วยขนาดเพียง 4x4 ไม่เน้นการตกแต่งหรูหรากว่าพนักงานทั่วไป และใช้พื้นที่เท่าที่จำเป็นเท่านั้น โดยผู้บริหารที่จะมีห้องส่วนตัวได้ ต้องเป็นระดับ Senior Vice President ขึ้นไปเท่านั้น ส่วนระดับตั้ง Vice President ลงมาจะมีพื้นที่ทำงานเช่นเดียวกับพนักงานทั่วไป

ธนาเชื่อมั่นว่า งบประมาณสำหรับออฟฟิศใหม่ที่ได้ลงทุนไปทั้งหมด 450 ล้านบาทจะไม่สูญเปล่า

ออฟฟิศที่ดีที่สุดของพนักงานแห่งนี้ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรวมศูนย์ เกิดการทำงานแบบเป็นทีมเวิร์คที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการประสานงานและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าเป็นไปได้อย่างรวดเร็วยิ่งกว่าเดิม

และทุกองค์ประกอบที่รวมกันเป็น dtac house แห่งนี้ จะทำให้ดีแทคเป็นองค์กรที่มีวัฒนธรรมที่แข็งแกร่ง ภายใต้สิ่งแวดล้อมในการทำงานที่สนับสนุนแรงบันดาลใจ และความคิดสร้างสรรค์

เพื่อเติมเต็มความเป็น Happy Workplace ให้สมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น 

ที่มา : bangkokbiznews.com


อัพเดทล่าสุด