10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จีน รับวิกฤติ 52


673 ผู้ชม


10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ จีน รับวิกฤติ 52




นับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2552 เป็นต้นไป จีนได้ปฏิรูปภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับทุกอุตสาหกรรมทั่วประเทศ เพื่อลดภาระภาษีธุรกิจในปี 2552 ได้มากกว่า 120,000 ล้านหยวน (17,600 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) รวมถึง 10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในจีน ดังนี้

มาตรการภาษี

- ยกเลิกนโยบายยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มเครื่องมือที่นำเข้าจากต่างประเทศ และยกเลิกการคืนภาษีจากการซื้ออุปกรณ์ในประเทศของวิสาหกิจทุนต่างชาติ เพื่อให้เกิดความเสมอภาคระหว่างวิสาหกิจต่างชาติกับวิสาหกิจจีน

- ปรับลดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับผู้เสียภาษีธุรกิจ และผู้ที่เสียภาษีด้านอื่นๆ ในจำนวนที่ต่ำจากเดิมที่เคยเก็บในอัตรา 6% และ 4% ตามลำดับ เป็น 3% แต่ปรับเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่มผลิตภัณฑ์สินแร่จากเดิม 13% เป็น 17%

*แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่า 4 ล้านล้านหยวน (600,000 ล้านดอลลาร์) ตั้งแต่พฤศจิกายน 2551 ถึงปี 2553

มาตรการด้านการเงิน

-ใช้นโยบายอ่อนค่าเงินหยวน โดยอัตราแลกเปลี่ยนเมื่อ 3 ธ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ที่ 6.8830 หยวนต่อดอลลาร์ เพื่อช่วยกระตุ้นการส่งออก และรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี 2552 ไม่ให้ชะลอตัวลงมากนัก หลังจากที่ธนาคารโลกปรับลดตัวเลขการขยายตัวทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2552 ลงจาก 9.2% เหลือ 7.5%

10 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน

1. เปิดโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้ต่ำ โดยเพิ่มเงินอุดหนุนบ้านราคาประหยัด

2. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชนบท ก๊าซ น้ำประปา ไฟฟ้า

3. โครงการก่อสร้างถนน ทางรถไฟ และสนามบินในภาคกลางและตะวันตก เสฉวน

4. การพัฒนาระบบการศึกษาและสุขภาพเพิ่ม โรงเรียน โรงพยาบาล

5. โครงสร้างพื้นฐานด้านสิ่งแวดล้อมและระบบบ่อบำบัดน้ำเสีย การใช้พลังงานใหม่ๆ

6. การพัฒนาด้านนวัตกรรม การสร้างสรรค์ใหม่ ทางเทคโนโลยี

7. การบูรณะสิ่งปลูกสร้างในพื้นที่ที่เกิดแผ่นดินไหว

8. การปฏิรูประบบภาษีมูลค่าเพิ่ม

9. การลดหย่อนภาษีสำหรับการซื้อสินทรัพย์ลงทุนเพื่อกระตุ้นภาคการลงทุน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดรายจ่ายด้านภาษีของภาคธุรกิจราว 120 พันล้านหยวน นอกจากนี้ ทางการจีนมีมาตรการกระตุ้นรายได้ภาคชนบท โดยเพิ่มราคาขั้นต่ำเพื่อรับซื้อสินค้าธัญพืชและเพิ่มการอุดหนุนทางตรงให้กับเกษตรกร 10 เพิ่มสวัสดิการ สังคม ริเริ่มมีเงินบำนาญชราภาพ ปรับระบบการเงิน การผ่อนคลายด้านสินเชื่อ เช่น ยกเลิกข้อจำกัดด้านโควตา เพดานเงินกู้ของธุรกิจขนาดเล็ก ธุรกิจการเกษตร เพื่อช่วย SMEs เพิ่มสินเชื่อการบริโภค การซื้อบ้าน

ประมาณการการเติบโตของเศรษฐกิจจีนในปี 2552 เหลือร้อยละ 8.5 ลดลงร้อยละ 0.8 จากร้อยละ 9.3 ที่คาดการณ์ในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทางการจีนจะออกพันธบัตรเพื่อระดมเงินทุนสำหรับกระตุ้นเศรษฐกิจ เนื่องจาก หนี้ภาครัฐยังอยู่ในระดับต่ำ มีสัดส่วนราวร้อยละ 17-19% ของ GDP จีนมีทุนสำรองต่างประเทศสูงถึงกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ถือว่ามากที่สุดในโลก

ที่มา : bangkokbiznews.com


อัพเดทล่าสุด