คิดใหญ่แล้วไปให้ถึง : แก้ปัญหาอย่าง " คิดนอกกรอบ"
ปกติเมื่อคุณมีปัญหา คุณแก้ไขอย่างไรคะ?
หากคุณมีเงินทุน คงไม่ยากกับการใช้เงินแก้ปัญหาต่าง ๆ
หากคุณมีทีมงานเพียบพร้อม คุณคงมีมือไม้ช่วยคิด ช่วยแก้ปัญหา
แต่หากคุณเป็นผู้ประกอบการที่มีเงินทุนจำกัด คุณจะทำอย่างไร?
สิ่งที่เราสามารถทำได้ คือใช้วิธี "คิดนอกกรอบ" ในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ค่ะ
โดยเริ่มจากการวิเคราะห์ปัญหาอย่างแท้จริงว่าปัญหาดังกล่าวนั้นคืออะไรกันแน่ แล้วแก้ที่ตรงจุดนั้น
เป็นการมองลงไปถึงรากเหง้าของปัญหาและวิเคราะห์ทางแก้ให้ตรงจุด มิใช่จำกัดอยู่แค่วิธีแก้ปัญหาอย่างแรก ๆ ที่เรานึกออก
เป็นการมองไปที่บริบทรอบ ๆ ปัญหา ว่าเราสามารถที่จะหยิบจับสิ่งใด มาผสม รวม ตัดทอน เพื่อแก้ปัญหาอย่างตรงจุดได้บ้าง
ยกตัวอย่างเช่น หากร้านค้าของเราเกิดขายดีมาก แต่เรามีปัญหาเรื่องของพนักงานขายไม่เพียงพอ เราจะทำอย่างไร?
คำตอบแรก ๆ ที่นึกออก คือเราอาจจะหาพนักงานขายเพิ่ม โดยการลงโฆษณาตามที่ต่าง ๆ
แต่การหาพนักงานเพิ่ม เป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายประจำให้กับเรา และหากสินค้าของเรา เป็นสินค้าที่มีช่วงที่ขายดี และช่วงที่ยอดนิ่ง ๆ (Seasonal sales) การเพิ่มพนักงานขายก็นับว่าเป็นการเสี่ยงสำหรับเราพอสมควร
ดังนั้น เราลองมาดูกันว่า นอกเหนือจากการเพิ่มพนักงานขาย มีหนทางอย่างอื่นอะไรบ้างที่สามารถนำมาแก้ปัญหาได้
จากการวิเคราะห์ถึงปัญหา เราสามารถทราบได้ว่า เราต้องการพนักงานขายเพิ่ม เนื่องจากว่า เวลาที่ลูกค้าเต็มร้าน พนักงานของเราไม่สามารถดูแลลูกค้าได้อย่างทั่วถึง
จากการสังเกตการณ์ ลูกค้าต้องการพนักงานขายเนื่องจากที่ตัวสินค้าไม่มีข้อมูลที่จำเป็นกับการตัดสินใจซื้อของลูกค้าแสดงอย่างชัดเจน กว่าที่จะสรุปแบบกันได้ ลูกค้าต้องสอบถามจากพนักงานขายมากพอสมควร
นอกจากนี้ เมื่อมีการปิดการขายแล้ว ระบบของร้านยังไม่ดีพอที่จะทำให้ลูกค้าสามารถจ่ายเงินและรับสินค้าไปได้อย่างรวดเร็ว
ดังนั้น หากเราสามารถทำระบบข้อมูลสินค้าของเราให้ชัดเจน เห็นชัด ลูกค้าก็ไม่ต้องสอบถามพนักงานขายมากเท่าปัจจุบัน ซึ่งแสดงว่าพนักงานขาย ก็จะมีเวลาเข้าไปทักทาย ยิ้มแย้ม กับลูกค้าท่านอื่น ๆ และให้ความช่วยเหลือในกรณีที่ลูกค้าอยากทราบข้อมูลที่ไม่ได้มีจัดแสดงไว้เท่านั้น
นอกจากนี้ เมื่อปิดการขายแล้ว หากเราสามารถสร้างระบบให้กับพนักงานได้ดียิ่งขึ้น ให้พวกเขาทำงานน้อยลง เพื่อที่จะมีเวลาไปขายลูกค้าคนอื่นๆ ได้ เท่านี้ เราก็สามารถแก้ไขปัญหาพนักงานไม่เพียงพอได้ในระดับหนึ่งแล้ว
คิดต่อไปอีก นอกจากนี้ แทนที่จะให้ลูกค้าเดินเลือกสินค้าและพนักงานขายต้องเดินประกบตาม เราอาจจะเปลี่ยนวิธีการขาย เป็นการจัดแคตตาลอกให้ลูกค้าได้นั่งเปิดดู พร้อมทั้งเรื่องราคาและสีสรรค์ แค่นี้แคตตาลอกก็ทำหน้าที่เป็นพนักงานขายให้คุณแล้วค่ะ
ด้วยวิธีการดังกล่าวนี้ นอกจากสามารถแก้ปัญหาพนักงานขายไม่เพียงพอแล้ว มันยังเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเราให้มากขึ้นด้วย เหมือนยิงนกตัวเดียวได้นกหลายตัว เงินเดือนเพิ่มก็ไม่ต้องเสีย ไม่ต้องฝึกหัดพนักงานขายเพิ่ม ทั้งยังทำให้พนักงานปัจจุบันทำงานได้สะดวกขึ้นอีกด้วย
พอจะนึกวิธีการแก้ปัญหาแบบคิดนอกกรอบกันได้แล้วนะคะ มันคือการเข้าใจปัญหาและแก้ให้ตรงจุด ไม่ยึดติดกับการแก้ปัญหาเดิม ๆ ที่นึกออกแรก ๆ
อย่าลืมลองนำวิธีการแก้ปัญหาแบบคิดนอกกรอบนี้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ให้สมกับเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่นะคะ
ฝากไว้ให้คิด
ความมั่นใจมิได้เกิดจากการเป็นฝ่ายถูกเสมอ หากเกิดจากการไม่กลัวเป็นฝ่ายผิด
ดิฉันชอบคำคมอันนี้มาก และคิดว่ามันเป็นแนวคิดที่ทำให้เกิดสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาในโลก เนื่องจากผู้ประกอบการเป็นผู้ที่สร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมา ดังนั้น แม้เราจะไม่ทราบว่าสิ่งที่เราทำนี้ถูกหรือผิด ล้มเหลว หรือสำเร็จ แต่การที่เราไม่กลัวที่จะผิด และให้ข้อผิดพลาดเหล่านั้นมาสอนเรา สิ่งนี้จะทำให้คุณเรียนรู้และสามารถเป็นผู้ชนะได้ในที่สุด
แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ