จริงใจกับลูกค้าและพูดในสิ่งที่ทำได้


785 ผู้ชม


จริงใจกับลูกค้าและพูดในสิ่งที่ทำได้




5 ปีกับการสร้างแบรนด์ "ดั๊บเบิ้ล เอ" ผมถือว่ามาเร็ว เรามาถึงจุดนี้ได้ เราค่อนข้างพอใจ การสร้างแบรนด์กระดาษเมื่อ 5 ปีก่อนเขาไม่มีการสร้างแบรนด์พวกนี้มาก่อน ผมมองว่าคนเราต้องมีชื่อสินค้าต้องมีแบรนด์และจะทำอย่างไรให้จำชื่อ จำแบรนด์ของเราได้ บางคนอาจจะให้ความสำคัญแต่ละจุดไม่เหมือนกัน แต่เราจะให้ความสำคัญในเรื่องของคุณภาพและชื่อสินค้า ถ้าเราไม่มั่นใจเราคงไม่กล้าสร้างแบรนด์ เพราะถ้าสร้างแบรนด์มาแล้วคุณภาพไม่ดีก็พังหมดเลย
        ต่อไปเรายังคงผลิตสินค้าที่เกี่ยวกับกระดาษอยู่ ถ้าเราแตกไลน์เราก็ยังคงเป็นพวกเครื่องเขียนพวกนี้ ซึ่งก็ยังเป็นพวกกระดาษอยู่ เราจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกระดาษพิมพ์เขียน อย่างตอนนั้นมีออกมาเป็นกระดาษเอสี่ ดั๊บเบิ้ล เอ ก็เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่ม ตอนนี้ก็มีการสร้างเพิ่มมูลค่าอย่างต่อเนื่อง ด้วยการขยายผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องเขียน
        ปีนี้เราคงมุ่งเน้นในการพัฒนาบุคลากรและให้ความรู้ความสามารถใหม่ๆ กับบุคลากร และพัฒนาบุคลากรที่มีคุณภาพมาอยู่ในองค์กรของเรา องค์กรจะประสบความสำเร็จได้ขึ้นอยู่กับบุคลากร เราเริ่มทำตรงนี้ตั้งแต่ที่เริ่มทำแบรนด์ ดั๊บเบิ้ล เอ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว เราคิดว่า ''ดั๊บเบิ้ล เอ'' จะสำเร็จได้ คงหนีไม่พ้นเรื่องของบุคลากร
        ไม่ใช่ว่าบุคลากรของเราไม่ดี แต่เราจะมีการให้ความรู้ใหม่ อย่างที่เราพัฒนา ''ดั๊บเบิ้ล เอ สเตชั่นเนอรี่'' เป็นสิ่งใหม่ เราก็ต้องมีการรู้เกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ เรื่อยๆ เราจะมีการเทรนนิ่ง การอบรมพนักงาน การให้ไปดูงานต่างๆ ตอนนี้เราก็มีการให้สาขาต่างประเทศเข้ามาดูงานต่างๆ ในบ้านเรา มาฝึกงานในบ้านเรา
        ผมคิดว่าคุณภาพของสินค้าทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ ถ้าคุณภาพสินค้าดีบริษัทก็จะเป็นที่ยอมรับว่าผลิตสินค้าดี อันนี้ผมคิดว่าสำคัญมาก วันนี้ผมต้องขอบคุณโรงงาน ถ้าสินค้าไม่มีคุณภาพ โฆษณาแทบตายคนซื้อก็ไม่ซื้อใช้
        ทุกเดือนเราจะมีการเช็คเกี่ยวกับสินค้า เราจะมีการไปเยี่ยมลูกค้าเดือนหนึ่งไม่ต่ำกว่า 500 ราย เพื่อถามความรู้สึกความต้องการว่าตอนนี้สินค้าของเราต้องปรับไปในทิศทางไหน เราอยู่นิ่งไม่ได้เพราะอยู่ในการยุคการแข่งขัน เราต้องปรับปรุงสินค้าและต้องรู้ความต้องการของลูกค้าในการทำการตลาด ว่าลูกค้าต้องการให้ออกมาแนวไหน สิ่งไหนที่สื่อให้ลูกค้าเข้าใจและเข้าถึงลูกค้ามากที่สุด
        ผมจะให้พนักงานทุกคนสามารถออกความคิดเห็นได้ และมาแสดงความคิดร่วมกัน เราไม่ถือว่า top management จะต้องเป็นผู้ที่ตัดสินใจและถูกที่สุด เรามีการประชุมกันเรียกว่า ก่อนเราทำโครงการต้องมีการประชุมคณะกรรมการ ซึ่งจะมีทั้งผู้ที่มีประสบการณ์และผู้ที่ฟอร์มใหม่สดให้มาคิดดูว่า แนวทางของโครงการที่ต้องการให้ออกมาจะเป็นแนวทางไหนดี
        ซึ่งผู้ที่ทำงานมานานก็จะมีประสบการณ์ที่สามารถกลั่นกรองแต่ละโครงการได้ เราให้ความสำคัญกับบุคลากร เราจะให้บุคลากรสามารถแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ อย่างกรณีที่ว่าสินค้าของเราจะออกสินค้าตัวใหม่เดือนละ 5 ตัว ตรงนี้เราจะให้คนรุ่นใหม่ เป็นคนมาออกแบบสินค้า ซึ่งเขาจะรู้ว่าถ้าเอาแก่ๆ อย่างผมไปออกแบบใครจะซื้อ
        ตอนนี้บุคลากรใหม่ของผมเป็นคนที่จบใหม่เลย เรามีการรับตรงนี้เยอะขึ้น คนแก่ๆ อย่างผมมีอยู่ 4-5 คนในแผนกการตลาด นอกนั้นเป็นคนที่จบมาใหม่ๆ เลย ยังไม่ได้รับปริญญามาทำก็มี ตรงนี้มีคนรุ่นใหม่วัย freashy อยู่ประมาณ 30 กว่าคนแล้ว หรือประมาณ 80% แต่ก็ไม่ใช่ว่าเราให้เด็กเก่าออกนะ แต่เราจะรับเด็กใหม่มาตามตำแหน่งที่ว่าง
        หลักการทำงานของผมคือให้ลูกน้องออกความคิดเห็น จริงใจกับลูกค้า พูดในสิ่งที่ทำได้ มีอยู่แค่นั้น ผมคิดว่า 3 ข้อนี้จะทำให้คนเชื่อถือ เวลาลูกน้องออกความคิดเห็นมา ผมอาจจะเสริมว่า เขาลืมจุดนี้จุดนี้ควรจะเพิ่มเติมเข้าไป เขามีความคิดเห็นดีๆ แต่บางทียังขาดแต่ประสบการณ์เท่านั้นเอง

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ

อัพเดทล่าสุด