ผู้บริหารที่ไม่น่าเชื่อถือบริษัทไปไม่รอด

ไม่รู้ว่าเป็นโรคบ้าอะไรสักอย่าง หลายครั้งที่ผมมักจะลองใจหรือวัดใจคนโดยไม่ใช่เรื่อง หมายความว่าเรื่องที่ควรทำไปตามครรลอง ไม่ต้องไปวัดใจเล่นให้เสียเวลาก็ดันไปวัดใจ เสียงั้นล่ะครับ พอได้เรื่องห่วยแตกอย่างที่คาดว่าน่าจะเป็นไปได้ ก็เสียเวลากลายเป็นเรื่องบ้าบอคอแตก
แต่จะว่าเสียเวลาเสียทีเดียวก็ไม่ถูกนัก เพราะ คนทำงานข่าวและเขียนหนังสืออย่างผมมันต้องมีอะไรเป็นข้อมูลสด ยิ่งสดแบบเจอกับตัวเองยิ่งโดนออกจะซาดิสม์นิดๆ ครับ
ว่ากันจริงๆ แล้วเรื่องที่จั่วหัวไว้ไม่จำเป็น ต้องเรื่องใหม่สด ผมก็มีข้อมูลมาตลอดกว่า 10 ปี ที่ทำข่าวเกี่ยวกับแวดวงธุรกิจเครือข่าย
ส่วนเรื่องสดๆ ที่เพิ่งได้มาน่ะมีแน่นอนครับ เพราะผู้บริหารที่ไม่น่าเชื่อถือจะว่าไปแล้วก็มี ไม่น้อยทีเดียว แต่จะให้เล่ากันตรงนี้ก็ดูจะประจาน กันเกินไป
เอาเป็นว่าสดไม่สดไม่รู้ แต่จะเล่ารวมๆ ให้คุณ ผู้อ่านทั้งที่อยู่ในแวดวงขายตรงและอยู่นอกวงการได้รู้จักธุรกิจนี้ให้มากขึ้น
จะว่าไปแล้วเรื่องผู้บริหารที่ไม่น่าเชื่อถือไม่ว่าจะเป็นบริษัทแบบไหนหรือธุรกิจไหนส่วนใหญ่ก็มักไปไม่รอด หรือจะรอดก็ไปไม่ค่อยจะถึงไหน เพราะความเชื่อถือต่อบริษัทและผู้บริหารนั้นมีมาจากทุกส่วนทั้งในและนอกองค์กร
แต่ขายตรงจะต่างกับธุรกิจทั่วไปตรงที่สมาชิกและผู้บริโภคมักจะเป็นกลุ่มเดียวกัน จะมีที่เป็นผู้บริโภคอย่างเดียวอยู่บ้างแต่ก็ส่วนน้อยกว่า หากจะเยอะหน่อยก็เห็นจะเป็นขายตรงชั้นเดียวหรือขายตรงแบบที่มีนักขายนำสินค้าไปขายโดยตรงอย่างมิสทินหรือเอวอน
ในบริษัทขายตรงส่วนใหญ่หากผู้บริหารมีพฤติกรรมที่ไม่น่าเชื่อถือไม่ว่าจะด้วยเรื่องราวเกี่ยวกับใครก็ตาม การรับรู้จะเร็วมากครับ เพราะความใกล้ชิดระหว่างสมาชิกกับบริษัทนั้นแทบจะเป็นส่วนเดียวกัน ใครทำดีไม่ดี ไม่ให้ความ เป็นธรรมกับสมาชิก เดี๋ยวก็รู้กันทั่ว
เมื่อรู้แล้วความรู้สึกดี ไม่ดี ชอบ ไม่ชอบ รักหรือเกลียดก็จะตามมา ห้ามกันไม่ได้เสียด้วยสิครับ
หากเป็นเรื่องที่ไม่ดี จะกลายเป็นการทำลายความเชื่อถือไปทันที
คุณผู้อ่านจะเป็นใครก็ตามเถอะครับหากจะต้องติดต่อมีกิจกรรมร่วมกับบริษัทขายตรงที่ไหนสักแห่ง และอยากรู้ว่าบริษัทนั้นน่าติดต่อคบหาด้วยหรือไม่ ให้ดูผู้บริหารสูงสุดเป็นเบื้องต้น และไม่ลืมที่จะดูคนแวดล้อมด้วยนะครับ
สิ่งเหล่านี้จะบอกได้ดีว่าบริษัทนั้นน่าร่วมธุรกิจด้วยหรือไม่
มีบางบริษัทอาจจะไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมาย แต่สามารถยืนหยัดเติบโตอยู่ได้ เมื่อลองไปดูรายละเอียดจะเห็นว่าคนที่เป็นเจ้าของหรือผู้บริหารสูงสุด เป็นคนน่าเชื่อถือ ให้ความเป็นธรรม ไม่เอา เปรียบคนอื่น ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมาไม่ว่าบริษัทนั้นจะเล็กหรือใหญ่หากเป็นอย่างที่ว่าก็ยืนหยัดอยู่ได้มีตัวอย่างหลายบริษัทที่ทำธุรกิจมีมาตรฐาน และน่าเชื่อถือจนเติบโตอยู่ถึงทุกวันนี้ จะยกตัวอย่าง มาทั้งหมดก็คงจะลำบากหน่อย
แต่มีอยู่บริษัทหนึ่งครับที่ผมมักได้ยินซัพพลายเออร์หลายรายพูดถึงว่าเป็นคู่ค้าที่ต่อรองราคาสินค้าแบบละเอียดเอามากๆ เขาไม่ได้พูดอย่างที่ผมเขียน แต่เขาใช้คำว่า “กดราคา” ที่ผมบอกว่าละเอียดเพราะนี่คือธุรกิจที่ต้องมีการเจรจาต่อรองกันอย่างรอบคอบ คิดสะระตะหลาย ด้านเพราะจะมีผลไปถึงต้นทุนค่าใช้จ่ายการบริหารจัดการ และกำไรที่พออยู่ได้ ซึ่งต้องสอดคล้องกับนโยบายบริษัทด้วยว่าจะขายถูกหรือขายแพงและจะโยนภาระให้ผู้ซื้อหรือไม่
แต่แปลกครับบ่นยังไงก็ยังยอมเป็นคู่ค้า สิ่งหนึ่งที่เห็นชัดเจนก็คือบริษัทที่ว่านี้ทำธุรกิจตรงไปตรงมา การต่อรองราคาเป็นไปตามแนวทางของธุรกิจ ไม่มีลูกเล่นเหลี่ยมเล่ห์หลอกล่อในเชิงหลอกลวง หากจะมีก็เป็นเรื่องเทคนิคการเจรจา เมื่อเจรจาจบทุกอย่างก็เดินหน้าไปตามนั้นคนทำธุรกิจด้วยก็สบายใจ
แม้จะรู้สึกว่าถูกกดราคา แต่ก็ตกลงทำธุรกิจด้วยในราคาที่ยอมรับได้เพราะความน่าเชื่อถือของผู้บริหารและบริษัท ในบริษัทหรือผู้บริหารที่เชื่อถือไม่ได้นั้นอาจจะไม่ต่อรองราคามากนัก แต่พอเป็นคู่ค้าเข้าจริงๆกลับเจอปัญหาสารพัดครับ ไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้
บางคนบอกว่าทุกอย่างต้องมีการเซ็นสัญญา ก็ว่ากันไปตามสัญญา เรื่องสัญญานี่ก็เป็นปัญหาอีกเรื่องที่มีโอกาสหรือข้อมูลมากพอเมื่อไหร่จะมาเขียนเล่ากันสักรอบ
แต่คุณผู้อ่านที่รักครับ สัญญานั้นเป็นเอกสารที่ทำขึ้นเพื่อไม่ให้คนบิดพลิ้วแล้วลอยนวลไปได้เพราะขาดหลักฐาน สัญญาเป็นแค่หลักฐานใช้แสดง ตามที่ตกลงกันไว้
ความเชื่อถือของคนจึงไม่ได้อยู่ที่สัญญา แต่อยู่ที่ว่ามีพฤติกรรมอย่างไรต่างหากครับ
ในมุมกลับกันคนบางพวกบางประเภทไม่เหมาะที่จะทำธุรกิจด้วย หรือไม่เหมาะที่จะตกลงตามข้อเสนออะไรได้สบายใจ หากไม่มีสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรเรื่องของเรื่องเพราะเป็นคนไม่รักษาคำพูดครับ ประเภทพลิ้ว ลื่นไหลไปได้เรื่อย
คนประเภทนี้ต้องมีหลักฐานไว้แสดงจึงจะคุยกันจบ หรือหากจะให้ดีก็ไม่ต้องคบค้าทำธุรกิจด้วยเป็นดีที่สุด เพราะรังแต่จะเสียเวลาที่เล่ามานี้แค่บางส่วนเสี้ยวเท่านั้น ยังมีอีกเยอะครับที่เก็บมาเล่าไม่หมด
สิ่งที่เห็นในแวดวงธุรกิจวันนี้ ฟันธงได้เลยครับว่าเมื่อไหร่ที่ผู้บริหารไม่รักษาคำพูดอย่าหวังที่จะเป็นที่ยอมรับและเติบโตได้ดีในธุรกิจ โดยเฉพาะกับธุรกิจขายตรงหรือในสังคมที่เป็นอยู่
ที่จะเห็นได้ชัดก็คือสมาชิกค่อยๆ หนี ผู้นำหรือแม่ทีมเลิกไปทำที่อื่น เข้าทำนองพฤติกรรมทำลายตัวเอง
สุดท้ายบริษัทก็จะแย่ หรือปิดไปในที่สุด
...............................................
ท่านที่ต้องการส่งข้อมูล ข่าวสาร และภาพ ให้กับเซ็กชั่นธุรกิจขายตรง หรือต้องการร้องเรียน ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจขายตรง ส่งตรงถึงคุณพิศิษฐ์ แทนทิว บรรณาธิการอาวุโส นสพ.สยามธุรกิจ ได้ตามที่อยู่ในสยามธุรกิจ หรือถ้าจะให้รวดเร็วไม่ตกหล่น ส่งทางอีเมล์ ได้ที่ tantewthai@ hotmail.com

โดย : siamturakij.com