สร้างธุรกิจด้วยตนเอง
การทำงานเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของชีวิต ไม่ว่าจะเลือกเป็นลูกจ้าง หรือเป็นนายจ้างของตัวเอง
หากได้งานที่เหมาะสม ก็จะทำให้สนุก และมีความสุขกับการทำงาน มีพลังในการสร้างสรรค์สิ่งแปลกๆ ใหม่ๆ แต่หลายคนก็เลือกที่จะเป็นนายตัวเอง ด้วยการลงมือสร้างธุรกิจเล็กๆ ขึ้นมา เพื่อจะพัฒนาให้ก้าวขึ้นไปสู่ธุรกิจระดับกลาง และระดับใหญ่ได้ในที่สุด ...
ตอนนี้ใครที่กำลังมีแนวคิดว่าอยากจะมองหาลู่ทางใหม่ให้กับตัวเอง ดูคำแนะนำดังต่อไปนี้ได้
1.สร้างความสำเร็จทางธุรกิจของคุณจากสิ่งที่คุณรัก
ไม่ว่าจะเริ่มต้นทำอะไรไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียน หรือเรื่องการทำงาน หากเริ่มต้นเลือกในสิ่งที่เรารัก เราชอบหรือมีพื้นฐานมาก่อนจะถือได้ว่าเป็นต้นทุนที่ดีของชีวิต เนื่องจากคนเราหากเลือกทำในสิ่งที่รักที่ชอบก็มักจะมีความสุข ไม่ต้องฝืนใจทำ
ดังนั้นการมีใจรักในงานหรือสิ่งที่คุณเลือกแล้วสัมฤทธิ์ผลของงาน ความสำเร็จต่างๆ ย่อมมีสูงกว่า เพราะการได้ทำสิ่งที่รักจะทำให้คุณมีพลัง คุณจะเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น มีการรับรู้ที่แม่นยำขึ้น คุณจะตื่นขึ้นมาพร้อมความคิดแปลกใหม่และสดใสอยู่เสมอ รวมทั้งจะสามารถหาหนทางที่จะเอาชนะความท้าทายที่เกิดขึ้นอย่างไม่คาดฝันได้ รวมทั้งจะเป็นคนที่มีความมั่นใจอยู่เสมอว่าเป้าหมายของคุณนั้นจะเป็นจริงได้ ทำให้โอกาสในการประสบความสำเร็จของคุณมีอยู่สูงมาก
ตัวอย่างเช่น...หากคุณเป็นคนชอบต้นไม้ คุณอาจจะเปิดร้านไม้ดอกไม้ประดับ และรับจัดสวนเล็กๆ น้อยๆ หรือทำร้านดอกไม้ หากยังไม่แน่ใจว่าควรจะออกมาทำเต็มตัวหรือไม่ คุณก็อาจจะลองหยั่งเชิงด้วยการเปิดร้านเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์ไปก่อน ต่อเมื่อเห็นอนาคตทางธุรกิจชัดเจนมากยิ่งขึ้นแล้วจึงค่อยตัดสินใจว่าจะทำเป็นงานนอกเวลาหรือออกมาลุยธุรกิจเต็มตัวดี
2.ค้นหาสิ่งที่คุณต้องการที่สุดให้เจอ
ไม่มีใครจะรู้ถึงความต้องการจริงๆ ความชอบที่สุดของคุณได้เท่ากับตัวคุณเอง ต้องค้นหาความชอบนั้นให้พบ ลองสร้างภาพจินตนาการว่าคุณกำลังเห็นภาพตนเองกำลังบริหารโรงเรียนสอนวาดภาพ หรือคุณกำลังเป็นเจ้าของร้านดอกไม้ หรือร้านหนังสือหรือร้านกาแฟเล็กๆ แต่น่ารัก ซึ่งเป็นความต้องการเบื้องลึก เพียงแต่ว่าคุณกำลังหาทางเริ่มต้นอยู่ว่าควรจะทำอย่างไร ให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา
หรือบางครั้งคุณอาจจะมีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะเริ่มกิจการหรือดำเนินกิจการบางอย่าง แต่คุณยังไม่แน่ใจว่าสิ่งนั้นคืออะไรกันแน่ ดังนั้นคุณต้องเร่งค้นหามันให้เจอ แล้วหาจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ธุรกิจที่คุณต้องการเป็นจริงขึ้นมา โดยปรึกษาผู้รู้ที่ไว้ใจได้หาหนังสือฮาวทูดีๆ เพื่อข้อแนะนำดีๆ
ตัวอย่างเช่น...บิลเกตส์ เป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 1 ของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด เมื่อเขาทราบว่าเขาสนใจในเรื่องคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์อย่างมาก และไม่สามารถรอจะเริ่มต้นทางธุรกิจเมื่อเรียนจบได้ แต่เขาเลือกจะทำตอนนี้และเดี๋ยวนี้ โดยลาออกจากมหาวิทยาลัยแล้วเริ่มงานทันทีด้วยความชอบและเชื่อมั่น และทำให้ธุรกิจเติบโตเป็นอันดับ 1 ของโลก เขาเริ่มธุรกิจเมื่อตอนเป็นวัยรุ่น ไม่มีความรู้ทางธุรกิจหรือประสบการณ์การทำงานใดๆ มาก่อนเลย มีเพียงใจรักและความมุ่งมั่นเป็นต้นทุน และในที่สุดการตัดสินใจของเขาก็เป็นสิ่งที่ถูกต้องและยิ่งใหญ่ในวงการคอมพิวเตอร์ของโลกในปัจจุบันนี้ แต่เหตุการณ์เช่นนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นได้กับใครง่ายๆ นัก
3.เมื่อรักในสิ่งที่คุณทำ สิ่งนั้นจึงไม่ใช่แค่งาน
เพราะคุณจะทำทุกอย่างด้วยหัวใจและด้วยความเต็มใจ โดยไม่คิดเพียงแค่ต้นทุน กำไร ขาดทุน เป็นสิ่งแรก แต่คุณจะทำให้ดีที่สุดด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความกระตือรือร้น ใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอน พร้อมแก้ปัญหาทุกอย่างที่ต้องเจออย่างมีความสุข เมื่อคุณรักทุกอย่างที่คุณทำ สิ่งนั้นจึงไม่ใช่งานอีกต่อไปแต่สิ่งนั้นคือความสุข
ตัวอย่างเช่น...เมื่อคุณได้เริ่มธุรกิจในสิ่งที่คุณรัก คุณจะไปทำอย่างสนุกสนานมีความสุขเหมือนได้ไปพักผ่อน เจอเพื่อน เช่น หากคุณเปิดร้านเครื่องประดับก็มักจะมีคนที่ชอบเหมือนกันอาจจะเป็นลูกค้า หรือเพื่อนๆ แวะเวียนไปเยี่ยมมีไอเดียใหม่ๆ ไปแลกเปลี่ยนกัน ไอเดียสามารถหลั่งไหลมาได้ตลอดเวลา ทำอะไรเพลินๆ เวลาหมดไปอย่างไม่รู้ตัว มีความสุขกับการวาดรูปออกแบบ การคัดเลือกพลอย เพชรต่างๆ เบิกบานสำราญใจ
4.ทำงานที่ท้าทายและน่าพอใจจะทำให้คุณมีพลัง
ความรู้และประสบการณ์ที่คุณสั่งสมมานานนั้นจะทำหน้าที่ไม่ต่างจากเชื้อเพลิงที่จะคอยผลักดันให้คุณเดินหน้าต่อไปอย่างมุ่งมั่นไม่เหน็ดเหนื่อย ถ้ายังนึกภาพไม่ออกก็ลองนึกถึงนักธุรกิจที่ยิ่งใหญ่ที่คุณเคยได้รับทราบเรื่องราวหรือข่าวคราวของเขา เช่น เจ.เค.โรว์ลิ่ง ผู้เขียนเรื่องแฮร์รี่ พอตเตอร์ ที่เธอเขียนงานออกมาไม่หยุดไม่หย่อนโดยไม่เคยบ่นว่าเหน็ดเหนื่อยแถมยังทำงานอย่างมีความสุขมากๆ อีกด้วย
ตัวอย่างเช่น...รายการแชมป์กะทะเหล็ก ที่เชฟแต่ละคนมีความคิดสร้างสรรค์อย่างไม่น่าเชื่อ พวกเขาทำอาหารอย่างมีความสุขไม่ยุ่งยากหรือรู้สึกกดดันแต่อย่างใด เพราะพวกเขาสามารถคิดเมนูอาหารใหม่ๆ และแปลกๆ ได้ทันใจ โดยไม่ต้องเตรียมสูตรหรือว่าวางแผนล่วงหน้าให้ยุ่งยาก เขาเพียงแต่ใช้เครื่องปรุงที่มีอยู่ทำอาหารให้แปลกและอร่อยน่ารับประทานก็สามารถผลิตอาหารที่ดูดีออกมาได้ ด้วยองค์ประกอบหลักก็คือพวกเขามีใจรักในงานอย่างเต็มเปี่ยมสามารถคิดค้นอะไรใหม่ด้วยตนเองภายในระยะเวลาอันจำกัด พวกเขายอมเสี่ยงต่อภาพพจน์และชื่อเสียงในขณะที่กำลังรีบเร่งทำงานเพื่อสร้างสรรค์และแข่งกับผู้อื่นอย่างมีความสุข นี่คือแรงผลักดันที่ขับเคลื่อนอย่างมีพลังจริงๆ
4.ปัญหามาปัญญาเกิด
อย่ากลัวที่จะเจอะเจอปัญหาหรืออุปสรรคต่างๆ บ้าง การทำธุรกิจที่มีการแข่งขันสูงนั้นแสดงว่าเป็นธุรกิจที่ดีมีอนาคตใครๆ จึงอยากเข้ามาในตลาดนี้ ไม่ต้องตกใจเมื่อเจอปัญหาเมื่อคุณมีความตื่นตัวและปรับตนเองให้สนใจแต่เรื่องรอบกาย ตั้งสติให้ดีพร้อมเผชิญหน้าอย่างตั้งใจ ไม่เป็นไรหากจะรู้สึกหงุดหงิดบ้าง แต่เมื่อตั้งรับดีๆ แล้วอุปสรรคและปัญหาเหล่านั้นจะช่วยให้คุณมีความคิดที่ยิ่งใหญ่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการระดมความคิดใหม่ๆ เกิดขึ้นในหมู่คณะหรือทีมงาน ไม่ว่าจะเป็นคิดคนเดียวหรือการคิดร่วมกับใครสักคนก็มักจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราเจออุปสรรคร่วมกัน
ตัวอย่างเช่น...อุปสรรคในการบริหารงาน จะทำให้คุณคิดหาทางออกใหม่ๆ มาแก้ปัญหาได้เสมอ เมื่อมีปัญหาใหม่ๆ ก็มีไอเดียใหม่ๆ เกิดขึ้น แล้วคุณก็จะแก้ปัญหาได้อย่างรอบด้านขึ้น เช่นหากคุณมีปัญหาเรื่องสภาพคล่อง ครั้งต่อไปคุณจะบริหารเงินได้ดีขึ้นเพราะคุณมีประสบการณ์มาแล้ว ปัญหาเดิมจะไม่เกิดอีกหรือถ้าเกิดคุณก็จะแก้ได้ภายในเวลาที่รวดเร็วขึ้น เพราะคุณรู้ทางหนีทีไล่เป็นอย่างดีแล้ว
5.ความคิดสร้างสรรค์ที่ได้ต้องนำไปพัฒนาใช้จริงได้อย่างง่ายดาย
บางครั้งการคิดอะไรที่ซับซ้อนมากเกินไป และไม่สามารถนำมาใช้ได้ในชีวิตประจำวันก็อาจจะเป็นงานคิดที่ไม่ค่อยสร้างสรรค์เท่าใดนัก ไอเดียที่ดีควรจะอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ใช่คิดมาแบบเป็นจินตนาการมากเกินไป ดังนั้นความคิดที่เรียบง่ายใช้ประโยชน์ได้ง่ายจึงขายได้ง่ายที่สุด การเริ่มธุรกิจและกิจการอะไรใหม่ๆ นั้น สิ่งที่ควรทำก็คือ การใส่ใจอยู่กับความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ที่มีประโยชน์และทำได้จริง โดยหาวิธีจัดการกับไอเดียนั้น
สิ่งที่ควรระวังก็คืออย่าเพิ่งขยายความคิดออกมากจนเกินไปคุณควรจะเริ่มต้นด้วยพื้นฐานที่มั่นคงจากความคิดเพียงเรื่องเดียวอย่างค่อยเป็นค่อยไป แล้วจึงพัฒนาความคิดนั้นต่อไปเรื่อยๆ จะดีกว่า จากนั้นจึงมาเริ่มที่ขั้นตอนการขัดเกลา โดยตัดองค์ประกอบอื่นๆ ที่ทำให้ภาพรวมซับซ้อนยิ่งขึ้นออกไป ที่สำคัญอย่าใช้ทรัพยากรจนเกินกำลัง การเริ่มธุรกิจใหม่ๆ ควรทำอย่างค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะมั่นใจเต็มที่จึงค่อยปูพรมเต็มหน้าตัก
ตัวอย่างเช่น...คุณผลิตสินค้าขึ้นมาแล้วต้องใช้ได้จริง ไม่ใช่ใช้ได้ดีโดยเฉพาะในห้องทดลองเท่านั้น เป็นต้นว่าคุณคิดถึงรถสะเทิ้นน้ำ สะเทิ้นบก รถดังกล่าวเมื่อแล่นบนถนนก็คล่องแคล่ว แต่เมื่อเกิดน้ำท่วมรถคันนั้นจะต้องสามารถวิ่งในถนนที่มีน้ำเจิ่งนองมากๆ ได้จริงโดยที่สมรรถนะของรถไม่เปลี่ยนไปเลย คือไม่ดับกลางคัน
6.การจัดเตรียมแผนธุรกิจ
เมื่อคุณตกผลึกทางความคิดอย่างแน่ชัดแล้วว่าจะทำธุรกิจอะไร ต่อมาก็คือการวางแผนทางธุรกิจต่างๆ ว่าสินค้าของคุณจับกลุ่มเป้าหมายใด จะทำตลาดอย่างไร ทำเลที่ตั้ง การเปิดตัว การโฆษณาประชาสัมพันธ์ต่างๆ หลังจากที่ได้ทำการศึกษาเบื้องต้นแล้ว นำแผนธุรกิจที่คุณร่างไว้แล้วไปปรึกษาครอบครัว เพื่อนฝูง เพื่อขอความเห็นและปรับมันให้ดีขึ้น เพื่อไปคุยกับธนาคารเพื่อสนับสนุนงบประมาณ การพูดคุยกับธุรกิจบัญชี นักกฎหมาย เพื่อก่อตั้งโครงงานของคุณให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา การเขียนแผนธุรกิจที่ดีจะทำให้คุณเข้าถึงเป้าหมายได้ชัดเจนและตรงประเด็นมากยิ่งขึ้น คุณจะก้าวไปข้างหน้าด้วยความมั่นใจ
ตัวอย่างเช่น...หากคุณไม่เข้าใจเรื่องบัญชีและระบบการเงินคุณอาจจะต้องไปปรึกษาธนาคารหรือบริษัทตรวจสอบบัญชี รวมทั้งนักกฎหมายว่าคุณจะจัดตั้งบริษัทอย่างไร วางระบบอย่างไร คุณต้องกู้แบงก์แล้วผ่อนจ่ายอย่างไร วิธีการที่จะลงทุนทำธุรกิจใหม่ๆ อย่างชาญฉลาดก็คือ คุณจะต้องปรึกษากับที่ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญและนักกฎหมายที่ดี เพื่อหารือเกี่ยวกับสิ่งที่คุณต้องการจะให้เกิดผลสำเร็จ
7.เมื่อพร้อมแล้วก็เดินหน้าได้เลย
การคิดให้กว้างและรอบคอบ หลังจากที่คุณได้ศึกษาตลาดแล้ว กำหนดแผนธุรกิจเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเท่ากับว่าคุณพร้อมแล้วที่จะเริ่มธุรกิจใหม่ของคุณ ใช้เทคนิคส่งเสริมการขายที่ฉลาดและคุ้มทุน เพื่อสร้างความสะดุดตาดึงดูดใจ และแสดงให้เห็นถึงความพิเศษที่ไม่เหมือนใครของธุรกิจหรือบริการของคุณ เมื่อพร้อมแล้วก็เดินหน้าได้เลย
ตัวอย่างเช่น...ผู้ประกอบการหลายคนเริ่มต้นธุรกิจกับหุ้นส่วน ซึ่งอาจเป็นหุ้นส่วนที่ลงทุนเฉพาะเงิน หรือหุ้นส่วนอาจจะมีทักษะที่ต่างไปจากคุณและยอมลงแรงไปกับคุณด้วย เป็นต้นว่าคุณทำธุรกิจทางด้านอสังหาริมทรัพย์ หุ้นส่วนของคุณจะเก่งในเรื่องจัดหาที่ดิน เก็งกำไรที่ดินได้เก่งกาจ สร้างมูลค่าเพิ่มในเรื่องที่เรื่องทางได้ หรือเห็นทิศทางที่จะสร้างค่าเพิ่มมันได้อย่างไร ในขณะที่คุณอาจจะเก่งเรื่องก่อสร้าง การออกแบบ การควบคุมงาน การขอใบอณุญาต จัดทีมงาน และบริหารโครงการ คุณสมบัติที่แตกต่างของหุ้นส่วนทั้งสองคนถือว่าเป็นส่วนเติมเต็มของกันและกันเพื่อทำงานให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น ในการทำธุรกิจการมีหุ้นส่วนที่มุมมองที่ต่างออกไปก็เป็นเรื่องดี เพราะทำให้ความคิดเห็นมีความหลากหลายรอบด้านมากยิ่งขึ้น เมื่องานพร้อม งบประมาณพร้อม หุ้นส่วนพร้อมก็เดินหน้าได้เลย
8.การพิจารณาถึงความเสี่ยง
ไม่ว่าธุรกิจใดก็ตามไม่มีสิ่งใดที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ ทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยงเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วยเสมอ ไม่มีใครเคยพูดว่าการเริ่มธุรกิจนั้นเป็นเรื่องง่าย เแต่เราทำธุรกิจบนพื้นฐานความระมัดระวังและทุ่มเทตั้งใจความเสี่ยงก็น้อยลง
ในธุรกิจย่อมมีความแตกต่างระหว่างความเสี่ยงและโอกาส เมื่อพลาดก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอเพียงแต่อย่าพลาดบ่อยเกินไป ทบทวนตัวเองเสมอว่าสิ่งที่คุณคิดว่าจะทำอยู่นี้เป็นความเสี่ยงที่คุณประเมินไว้ดีแล้วหรือยัง และพยายามสร้างโอกาสใหม่ให้ตัวเองเสมอ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการเป็นผู้ประกอบการใหม่ก็คือ การยอมเสี่ยงโดยที่ได้ประเมินเอาไว้อย่างดีแล้ว
ตัวอย่างเช่น...หากคุณจะลองออกสินค้าใหม่ซึ่งคุณแน่ใจว่ามันดีจริงๆ แต่ก็ต้องคิดถึงแผนรองรับไว้ด้วยว่าถ้าเกิดมันไม่ประสบความสำเร็จขึ้นมาคุณมีแผนรองรับความเสี่ยงอย่างไร สินค้าที่ทำออกมาแล้วจะปรับเปลี่ยนไปทำอะไรอย่างอื่นอีกได้หรือไม่ หรือจะนำไปพัฒนาเป็นสินค้าประเภทอื่นอีกได้หรือไม่ คุณมีงบประมาณรองรับความเสี่ยงนั้นมากน้อยเพียงใด
9.ใช้งบประมาณอย่างถูกต้องเหมาะสม
ในภาวะเริ่มต้นทำธุรกิจอย่าฟุ่มเฟือยเกินความจำเป็น โดยเฉพาะหากเป็นการใช้เงินที่กู้ธนาคารมาด้วยแล้วละก็ต้องใช้อย่างรู้ค่าและเหมาะสม การใช้เงินอย่างขาดการวางแผนที่ดีพออาจจะทำให้คุณต้องแบกภาระเรื่องดอกเบี้ยโดยไม่จำเป็น เพราะไม่ว่าสิ่งที่คุณต้องทำต้องมีนั้นจะมากมายแค่ไหนก็ตาม แต่คุณก็ต้องตั้งงบประมาณเอาไว้ให้ชัดเจนและพยายามใช้เงินไปตามขอบข่ายที่วางแผนเอาไว้แล้ว โดยอาจจะเผื่องบบานปลายเอาไว้ไม่เกิน 10%
ที่สำคัญก็คือคุณจะต้องมีใครสักคนที่ถูกมอบหมายให้บริหารงานภายใต้งบประมาณนั้น หากคุณเป็นผู้ก่อตั้งธุรกิจ คุณก็ต้องเป็นหลักในการควบคุมงบประมาณของคุณ การที่จะต้องปล่อยให้อะไรสูญเปล่าอย่างไร้ค่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก เช่น เปิดแอร์ทิ้งไว้ในห้องที่ไม่มีคนอยู่มาแล้ว 2-3 ชั่วโมง ไม่ว่าคุณจะเพิ่งเปิดตัวธุรกิจใหม่ หรือการรักษาธุรกิจที่มีอยู่ จงทำให้ทีมงานของคุณตระหนักอย่างจริงจังตั้งแต่วันแรกที่เข้ามาว่าการประหยัดและใช้ทรัพยากรอย่างรู้ค่าเป็นเรื่องที่ทุกคนควรมีส่วนร่วมและให้ความสำคัญ ควรส่งเสริมให้พนักงานประหยัดทั้งในชีวิตการทำงานและเรื่องส่วนตัว เพราะความสูญเปล่าก็มีค่าเท่ากับกำไรที่ลดน้อยลงนั่นเอง
ตัวอย่างเช่น...คุณตั้งงบประมาณไว้สำหรับโครงการเปิดตัวสินค้าตัวหนึ่งไว้ที่ 1,000,000 บาท คุณจะต้องแยกประเภทการใช้ไว้เลยว่า เพื่อการแถลงข่าวเท่าไหร่ ค่าสถานที่ ค่าอาหารว่าง ค่าของชำร่วย เชิญนักข่าวเท่าไหร่ ซื้อสปอตวิทยุเท่าไหร่ ค่าประชาสัมพันธ์เท่าไหร่ ค่าคลิปปิ้งเท่าไหร่ โดยเผื่องบประมาณบานปลายไว้ให้ไม่เกิน 10%
10.ทำทุกสิ่งให้สวยงามและตั้งใจที่จะเรียนรู้ใหม่ๆ อยู่เสมอ
จงฟังอย่างตั้งใจและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ทุกวันๆ จงเต็มใจที่จะทำอะไรใหม่ๆ และผู้ประกอบการที่ลูกค้าให้ความไว้วางใจ ในฐานะผู้ประกอบการคุณจะมีความยินดีและได้รับความพึงพอใจในการทำให้ลูกค้าของคุณมีชีวิตที่ง่ายดายขึ้น มีความหมายยิ่งขึ้น จงทำทุกอย่างให้สวยงามคือสิ่งที่คนทั่วๆ ไปควรจะพูดถึงบ่อยๆ ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ผลิตสินค้า วางแผน หรือคิดโครงการอะไรขึ้นมาก็ตาม มันควรจะเป็นวลีที่ผู้ประกอบการทุกคนจำขึ้นใจและใช้อยู่เสมอ
ตัวอย่างเช่น...จงคิดและทำในสิ่งที่ดีและสร้างสรรค์ เช่น เมื่อคุณทำกำไรได้ตามเป้า อย่างน้อยกันงบไว้ทุก 5% ของรายได้จะนำไปบริจาคเพื่อเป็นทุกการศึกษา หรือบริจาคให้กับโครงการการกุศลต่างๆ เพื่อเป็นการคืนกำไรให้สังคมบ้าง การแบ่งปันทำให้สังคมน่าอยู่มากขึ้น
ดังนั้นไม่ว่าความคิดที่ยิ่งใหญ่ของคุณจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าคุณจะมีแรงปรารถนาในเรื่องไหน ไม่ว่าธุรกิจที่คุณกำลังจะก้าวไปนั้นจะเป็นอย่างไร หากคุณสามารถทำได้ทุกข้อตามที่กล่าวมาแล้ว เชื่อแน่ความสำเร็จคงเป็นเป้าหมายที่ไม่ไกลเกินเอื้อมสำหรับธุรกิจใหม่ของคุณ
ที่มา : โพสต์ทูเดย์