บริหารจัดการแบบ H2O Plus


721 ผู้ชม


บริหารจัดการแบบ H2O Plus




   - เปิดมุมมองธุรกิจสวยๆ งามๆ อย่าง ''H2O Plus'' องค์กรขนาดกระทัดรัดที่คุณภาพล้นปริ
        - ศึกษาต้นแบบธุรกิจ การจัดรูปแบบองค์กรให้อินเทรนด์ ด้วยการสร้างความมีส่วนร่วมกับชุมชน และสไตล์ที่ล้มล้างภาพลักษณ์เดิมๆ ได้อย่างหมดจด
        - หลายคนเคยตกใจนึกว่าหลงไปในไนท์คลับหรือคาเฟ่ แทนที่จะเป็นสำนักงานใหญ่ของ H2O Plus บริษัทที่หลอมรวมการผลิตและการจัดการไว้ภายใต้หลังคาเดียวกันแบบ modern style
        - สะท้อนมุมมองซีอีโอ "ซินดี้ เมลค์" ทำชีวิตให้รื่นรมย์ปนอารมณ์ขัน แล้วอะดรีนาลีนจะหลั่งไหลเพิ่มไอเดียปิ๊งๆ ให้ธุรกิจ

       
        H2O Plus ใช้ศาสตร์แห่งน้ำ มาเป็นจุดขายทางธุรกิจ และการสรรค์สร้างโอกาสให้กับตัวเอง จากบทบาทของสาวนักช้อปคนหนึ่งที่ไปเดินช้อปปิ้งจนขาพันกันก็แล้ว ยังไม่ได้เครื่องสำอางถูกใจ
       
        สุดท้ายการคิดค้นสูตรเครื่องสำอางแบบตามใจตัวเอง จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ ก็กลายมาเป็นภารกิจที่ยิ่งใหญ่
       
        "ซินดี้ เมลค์" ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ บริษัท H2O Plus จำกัด สหรัฐอเมริกา เปิดใจถึงแนวทางบริหารธุรกิจกับ "ผู้จัดการรายสัปดาห์" ในโอกาสที่บินมาเยือนไทยว่า H2O Plus เป็นองค์กรขนาดกระทัดรัดที่ดึงเอาคนที่มีความสามารถหลายๆ ด้านมารวมตัวกัน ทั้งความสามารถในการสร้างสูตร ในการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ โดยดึงตัวมาจากทั่วทุกมุมโลก เป็นการเอาความสามารถของแต่ละคนมาช่วยกันแก้ปัญหา และพัฒนาผลิตภัณฑ์ ภายใต้การทำงานเป็นทีม
       
        "เรามีลักษณะของความเป็นธุรกิจครอบครัว มีบรรยากาศการทำงานแบบครอบครัว เป็นพี่เป็นน้องกัน และทุกคนมีส่วนร่วมในชุมชน สิ่งสำคัญ 2 อย่างที่แสดงถึงความเป็น H2O Plus คือ เรื่องของความคิดสร้างสรรค์ และเรื่องของคุณภาพ ภายใต้พนักงานที่หลากหลาย สิ่งที่ทุกคนมีเหมือนกันคือ ความทันสมัยที่ดูแล้วไม่เวอร์จนเกินไป"
       
        ซินดี้บอกว่า เวลาเดินเข้าไปในสำนักงานใหญ่ บุคลิกภาพของคน H2O Plus จะสะท้อนออกมาผ่านภาพลักษณ์ของคนทำงานที่แต่งตัวเท่ แต่งแต้มสีสันด้วยเครื่องสำอาง H2O Plus ดูเป็นธรรมชาติ และจัดอยู่ในกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถสื่อสาร และใช้ภาษาเดียวกันได้ดี ซึ่งถือเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่ผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์อย่างต่อเนื่อง
       
        "ถ้าเวลามาที่สำนักงานใหญ่ที่ชิคาโก้ คนส่วนใหญ่จะบอกว่านี่มันร้านอาหารหรือไนท์คลับกันล่ะ ทำไมถึงมีชีวิตชีวา น่าตื่นเต้นได้ขนาดนี้ ทั้งๆ ที่ความจริงนี่คือโรงงานผลิตผลิตภัณฑ์บำรุงผิว H2O Plus จึงกลายเป็นองค์กรที่มีรูปลักษณ์แตกต่างไปจากความคิดอ่านของคนทั่วไป"
       
        ความโดดเด่นของความเป็นองค์กร H2O Plus คือ การรวมตัวและอยู่ร่วมกันเป็นชุมชน ระหว่างคนมีความสัมพันธ์ต่อกันอย่างใกล้ชิด สิ่งหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มองเข้ามาในองค์กรแห่งนี้คือ ความเป็น trend setter หรือผู้นำแนวโน้มใหม่ๆ style maker
       
        "คุณลักษณะเด่นคือ เป็นคนที่นำหน้าก่อนคนอื่น ทำอะไรก่อนคนอื่น เพราะว่าคนของ H2O plus จะรู้ล่วงหน้า ว่าเทรนด์เครื่องสำอางต่อไปคืออะไร รู้ว่าอะไรที่คนจะชอบ ทั้งหมดเมื่อรวมกันแล้วก็จะออกมาเป็นบรรยากาศแบบ H2O Plus
       
        ความเป็นตัวตนของสินค้ากับตัวตนขององค์กรคืออะไร? คือความเป็นคนที่ set trend อยู่แถวหน้า ความที่เรียบ ความบริสุทธิ์ เป็นอะไรก็ตามที่ดูดี ดูเท่ ดูเก๋ แต่ไม่เวอร์จนเกินไป ถ้าได้ไปเดินที่สำนักงานใหญ่จะเห็นได้เลยว่า พลังของคนเป็นอย่างไร"
       
        ซินดี้กล่าวต่อไปว่า โลกธุรกิจทุกวันนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นทุกอย่างตั้งแต่การผลิต การพัฒนา ไปจนถึงการขายปลีก ความสามารถในการแข่งขันได้ดีคือ ต้องพยายามทำให้คนคิดอยู่ตลอดเวลา อย่าหยุดนิ่ง ต่อมาคือความสามารถในการตัดสินใจ ถ้าหยุดเมื่อไหร่ก็ตาย เพราะธุรกิจเคลื่อนไปอย่างรวดเร็ว รวมถึงการเคารพนับถือให้เกียรติเพื่อนร่วมงานด้วยกัน ขณะที่การผลักดันธุรกิจ พลังในการก้าวไปข้างหน้าเป็นสิ่งสำคัญ แต่ต้องไม่ลืมในเรื่องของการทำงานคือ sense of humor หรือสร้างบรรยากาศทำงานอย่างมีความสุข และมีอารมณ์ขัน
       
        เธอเชื่อว่า คุณภาพชีวิตที่ดีจะทำให้การทำงานเป็นไปอย่างมีความสุข ในฐานะซีอีโอเธอบังคับให้พนักงานต้องหยุดงาน เพื่อไปหาความสุขใส่ตัว แล้วกระตุ้นให้คนทำอะไรนอกเหนือไปจากงานประจำ เพื่อเวลากลับมาทำงานแล้วจะได้ทุ่มเทและให้เวลากับงานเต็มที่ พอหลายๆ คนรวมกันพลังขับดันอย่างทุ่มเทสุดสุดก็จะติดตามมา
       
        ซินดี้เล่าว่า บทบาทของผู้นำต้องสร้างแรงบันดาลใจ สำหรับตัวเธอแล้วก็คือ การสร้างชีวิตที่มีความสุข สนุกสนาน ฟังดูแล้วเป็นเรื่องง่ายๆ แต่ที่องค์กรแห่งนี้ทำอย่างที่พูดเอาไว้จริงๆ เพราะเครื่องสำอางเป็นธุรกิจที่ทำให้คนสวยงามมากขึ้น ทำให้คนมั่นใจมากขึ้น
       
        ไม่ใช่ธุรกิจที่ต้องไปตีรันฟันแทงกับใคร จึงไม่จำเป็นต้องไปพูดจาซีเรียสกับใคร ไม่ใช่เรื่องหน้าดำคร่ำเครียดแบบการเมือง แบบเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องของความสวยงาม ด้วยอารมณ์แบบนี้ทำให้เกิดความสุขที่จะทำงาน "ในเมื่อธุรกิจไม่ซีเรียสแล้วทำไมเราถึงจะต้องไปซีเรียส สิ่งที่เราทำก็คือแค่ผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆ ไปเรื่อยๆ"
       
        ถึงจะไม่หน้าดำคร่ำเครียด แต่ในแง่ความเป็นนักธุรกิจแล้ว ซินดี้ก็ยอมรับว่าเธอรู้สึกซีเรียส ขณะที่ตัวตนจริงๆ แล้วไม่ใช่คนซีเรียส
       
        "วิธีการทำงานกับลูกน้อง หรือการทำงานแต่ละวัน ค่อนข้างจะสบายๆ และมีความสุข เป็นคนหัวเราะเยอะ สิ่งหนึ่งของการทำงานคือ รู้สึกโชคดีที่ได้พบคนหลายๆ ประเภท มีเรื่องใหม่ๆ ที่น่าสนใจเข้ามาทุกวัน บรรยากาศที่เปลี่ยนไปทุกวัน ทำให้ปรับตัวตลอดเวลา กลายเป็นผู้บริหารสบายๆ อย่างทุกวันนี้"
       
        ซีอีโอสาวสวยกล่าวอีกว่า ความซีเรียสเกิดจากภาวะการแข่งขันเป็นไปอย่างถึงลูกถึงคนอยู่ตลอดเวลา มียี่ห้อใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย ตลอดระยะเวลาการทำงาน 16 ปีที่ผ่านมา เธอผ่านพ้นแนวโน้มใหม่ๆ ทางธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์เรื่องของผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ เทรนด์ของร้านค้าปลีกแนวเฉพาะทาง แทนที่จะต้องเดินไปซื้อถึงในห้างสรรพสินค้า ก็กลายเป็นร้านเล็กๆ แล้วเอาเฉพาะสินค้าบางอย่างออกมา และมีเทรนด์เรื่องของการขยายตัวในกลุ่มสินค้าเมกอัพ อย่างเช่น บ๊อบบี้บราวน์ แม็ก สุดท้ายก็เป็นเทรนด์ของเดอมาเธอราจีส ซึ่งเน้นให้มีแพทย์ผิวหนังประจำเคาน์เตอร์เครื่องสำอาง
       
        ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเรื่องราวทางธุรกิจที่ H2O Plus เดินทางผ่านมาหมดแล้ว สิ่งที่เธออยากจะบอกคือ ทุกๆ เวลาของการทำธุรกิจ สิ่งหนึ่งที่ต้องเรียนรู้คือ การแข่งขันไม่ได้หายไปไหน ผู้บริหารที่จะสามารถอยู่ได้ ก็ต่อเมื่อสินค้ามีคุณภาพดี สม่ำเสมอ มีวัตถุดิบที่ดีที่สุด เป็นจุดที่ทำให้ยืนอยู่ได้ในธุรกิจ ไม่ว่าจะทำพีอาร์ขนาดไหน ไม่ว่าจะสร้างแรงโฆษณามากมายเพียงไรก็ตาม แต่ถ้าสินค้าไม่ดีแล้วก็ไม่สามารถแข่งขันได้
       
        ท่ามกลางเครื่องสำอางที่มีมากหน้าหลายตาจนจำไม่หวาดไม่ไหว เธอให้เหตุผลดีๆ ไม่กี่ข้อว่า เหตุผลอะไรที่ควรจะมาเป็นลูกค้า H2O Plus กันเถอะ นั่นก็คือ จุดยืนธุรกิจที่ว่าด้วยพื้นฐานของน้ำ ซึ่งเป็นส่วนผสมสำคัญของ H2O
       
        "น้ำเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และส่วนประกอบที่มาจากทะเล น้ำเป็นองค์ประกอบส่วนใหญ่ในร่างกาย ถ้าไปเทียบกับเครื่องสำอางอื่นๆ ที่ผสมสารเคมี ถามว่าจะดีได้อย่างไร? ในเมื่อส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกายคือน้ำ แต่เมื่อใช้เครื่องสำอางที่เป็นน้ำก็จะเป็นส่วนผสมที่เข้ากันได้เป็นอย่างดี"
       
        H2O Plus เป็นบริษัทแรกๆ ของโลก ที่ใช้น้ำมาเป็นตัวประกอบที่สำคัญของผลิตภัณฑ์ เพราะมีความเชื่อว่าน้ำเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุดสำหรับผิว ซึ่งกลายมาเป็นแนวคิดของตัวผลิตภัณฑ์ และด้วยเหตุที่หลักการของ H2O Plus คือน้ำ ดังนั้นผู้บริโภคทั่วโลกสามารถจะก้าวข้ามความเข้าใจร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติไหน มีวัฒนธรรมแตกต่างกันอย่างไร เป็นการก้าวข้ามพรมแดน ข้ามวัฒนธรรม ข้ามความเชื่อ ว่าเรื่องของน้ำสามารถอธิบายและคนเข้าใจได้ เป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้องค์กรแห่งนี้ประสบความสำเร็จ
       
        ขณะที่ปัจจัยหนุนอื่นๆ ที่ทำให้ H2O Plus บรรลุเป้าหมายคือ right place, right time, right trend H2O Plus ซึ่งกินความว่า การอยู่ในที่ที่ถูกต้อง เวลาที่ถูกต้อง และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ก็เป็นเทรนด์ที่ถูกต้อง
       
        "ความสามารถของ H2O Plus คือความสามารถในการตอบสนองต่อแนวโน้ม ต่อความต้องการของผู้บริโภค แนวโน้มต่อไปคนอาจจะไม่อยากไปเดินซื้อเครื่องสำอางในห้างใหญ่ๆ ในอเมริกา และแนวโน้มเดียวกันนี้ก็จะเกิดขึ้นกับเมืองไทย
       
        เรื่องของน้ำ กำลังเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก อยากให้นึกภาพว่า 16 ปีที่แล้ว H2O Plus ทำอะไรแบบนี้แล้วคนส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นมาก่อน เครื่องสำอางที่ทำมาจากน้ำ ใส มองเห็นเนื้อใน ซึ่งแตกต่างจากท้องตลาดที่มีแต่ครีมสีขาว H2O สามารถสร้างโอกาสตรงนี้ด้วยการเอาเจลมาใช้แล้วใส่สีเข้าไป ทำให้ใสมีสีสัน ในบรรภัณฑ์ใสสวยงาม ลูกค้ามองเห็นได้โดยไม่ต้องแกะกล่อง ถือเป็นเรื่องใหม่ คนเห็นครั้งแรกก็ตะลึง จากวันนั้นเป็นต้นมา H2O Plus ก็กลายเป็นทางเลือกใหม่ของเครื่องสำอางแนวเดิมๆ traditional skin care ที่แล้วมา ด้วยการสร้างทางเลือกใหม่ที่ดีกว่า"
       
        เป็นทางเลือกสำหรับคนอินเทรนด์ กับการบริหารจัดการองค์กรด้วยมุมมองใหม่ๆ ของซีอีโอ ที่เชื่อเต็มเปี่ยมว่า การทำงานอย่างสนุกสนานปนอารมณ์ขัน เป็น input ที่ดีของการเกิดปิ๊งไอเดีย ที่จะสร้าง output ขับเคลื่อนธุรกิจ
       

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ


อัพเดทล่าสุด