อยากให้พนักงานชั่วคราวอยู่ครบกำหนด


777 ผู้ชม


อยากให้พนักงานชั่วคราวอยู่ครบกำหนด




คำถาม
       
       เนื่องจากสถานการทางเศรษฐกิจยังไม่สู้จะดีมากนัก ที่ทำงานของดิฉันก็เลยมีมาตรการควบคุมเรื่องการจ้างงาน เวลามีคนลาออกไป ก็จะไม่ให้จ้างคนแทน แต่ถ้าหากต้องการคนแทนจริงๆ ก็จะต้องจ้างพนักงานชั่วคราวซึ่งบางคนก็มีสัญญาจ้างสูงสุด 2 ปี
       
       แต่หลังจากได้ปรับใช้ไปจริงๆ ที่ผ่านมามากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์อยู่กันไม่ครบเทอมทำให้งานสะดุด ไม่ต่อเนื่อง และหัวหน้างานก็ไม่กล้าที่จะมอบหมายงานอะไรที่ต้องทำยาวๆ ทำให้เกิดงานชะงักเป็นคอขวด ลืมบอกคุณดิลกไปว่าเราจ้างพนักงานกลุ่มนี้ในอัตราการเงินเดือนที่เท่าเทียมกับพนักงานประจำ เพียงแต่ไม่ได้จัดสวัสดิการอื่นๆหรือโบนัสให้เหมือนพนักงานประจำเท่านั้น ไม่ทราบว่ามีมารตรการอะไรเด็ดๆ ที่จะนำไปปรับใช้เพื่อให้พนักงานชั่วคราวอยูครบเทอมบ้างคะ -
สุทิชา
       
       คำตอบ
       

       สถานการณ์การจ้างงานแบบนี้ก็น่าเห็นใจทั้งสองฝ่ายนะครับ ฝ่านนายจ้างก็อยากให้อยู่กันนาน แต่ลูกจ้างเองก็ไม่ได้รู้สึกว่าตัวเองมีความมั่นคงอะไร อีกไม่นานก็ต้องไปแล้ว ดังนั้นก็ทำงานไปพร้อมกับหางานใหม่ถ้าได้ก็ดี ถ้าไม่ได้ก็ยังมีงานชั่งคราวที่นี่รองรับอยู่ ก็ไม่เลวร้ายอะไร แถมเหตุผลในการหางานตอนไปสอบสัมภาษณ์ก็ดูดี เพราะพอบอกว่างานที่ทำอยู่ตอนนี้เป็นพนักงานชั่วคราว ผู้สัมภาษณ์ฟังแล้วก็ดูมีเหตุมีผลดีที่จะหางานใหม่
       
       ถ้าจะว่าโดยทั่วๆไป ผมมองว่า การจ้างงานพนักงานชั่วคราว สิ่งที่จะเป็นปัจจัยให้จูงใจให้เขาอยู่ได้ ก็ด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างดังนี้
       
       1. มีความหวังกับงานที่มั่นคง หมายความว่าเขาทำๆไปแล้วก็มีความหวังว่าสักวันหนึ่งยังพอมีโอกาสที่จะได้ปรับเป็นพนักงานประจำเมื่อมีตำแหน่งว่างลง บางที่มีการประกาศเป็นนโยบายที่จะให้โอกาสกับคนในองค์กรสมัครงานเพื่อรับการพิจารณาก่อน บางที่ไม่ได้ประกาศเป็นทางการแต่ทางปฏิบัติได้มีการรับพนักงานชั่วคราวเข้าเป็นพนักงานประจำอยู่เป็นระยะแม้ว่าจะไม่ได้ทั้งหมด ตรงข้อนี้ไม่แน่ใจว่าบริษัทของคุณสุทิชามีแนวทางไว้หรือเปล่า แม้ว่าตอนนี้สถานการณ์บริษัทไม่ดี แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นก็น่าจะมีแนวทางทำนองนี้ไว้
       
       2. ได้ผลตอบแทนสูงจนหางานประจำที่อื่นไม่ได้ง่ายๆ วิธีการนี้บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่งเขาทำกันเยอะ โดยคำนวณค่าเสียโอกาสที่ไม่ได้รับสวัสดิการจากบริษัทเหมือนพนักงานประจำแปลงกลับไปเป็นฐานเงินเดือน ทำให้เงินเดือนจะสูงกว่าการจ้างทั่วไปในตลาด ทำให้จะหางานใหม่ก็ไม่ได้ง่ายๆ แต่มีข้อสำคัญอันหนึ่งที่ต้องเขียนไว้ให้เป็นที่เข้าใจกันก็คือว่า เมื่อไหร่หากเขามีโอกาสที่จะได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำ เขาจะต้องถูกปรับเงินเดือนมาอยู่ในอัตราของพนักงานประจำซึ่งจะต้องลดลง เพราะไม่อย่างนั้นก็จะเป็นปัญหาได้
       
       3. มีเงื่อนไขที่ทำให้เปลี่ยนงานได้ยาก โดยเงื่อนไขที่ว่ามาได้จากสองทางคือ เงื่อนไขจากตัวพนักงานเอง เช่นมีร่างกายที่พิการบางอย่าง การที่ต้องการเวลาให้กับครอบครัวอย่างรับส่งลูกดูแลพ่อแม่ การที่คู่สมรสเดินทางมาด้วยกันได้สะดวก กับอีกเงือนไขคือเงื่อนไขจากที่มาจากสัญญาจ้างงานในลักษณะการจูงใจ เช่นการตั้งโบนัสให้เป็นช่วงให้สูงขึ้นเรื่อยๆตามอายุงาน อย่างสัญญาจ้างงานหนึ่งปี เมื่อครบหกเดือนเราอาจให้เงินพิเศษครึ่งเดือน อยู่ครบปีก็ให้อีกเดือนครึ่ง ซึ่งก็จะทำให้พนักงานต้องคิดหนักหน่อยกว่าจะลาออก แต่อย่างไรก็ตามถ้าที่ใหม่เขายอมจ่ายที่เรียกว่า Sign off bonus คือจ่ายค่าเสียโอกาสที่พนักงานจะได้จากเรา แบบนี้ก็คงช่วยไม่ได้เหมือนกัน
       
       อย่างไรก็ตาม ที่ผมให้แนวทางมาทั้งหมดเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับงานและสภาพแวดล้อมการทำงานโดยตรง ซึ่งตรงนั้จะเป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กันที่จะทำให้เขาอยู่ครบเทอมหรือไม่ครบเทอม แม้ว่าคุณสุทิชาจะได้ทำสามเรื่องข้างต้นไว้เป็นอย่างดี แต่หากเนื้องานและสภาพแวดล้อมการทำงานทำให้เขาไม่มีความสุขแล้วละก็ ยังไงก็เอาไม่อยู่ครับ อย่างที่เขาว่านะครับว่า ''พนักงานเข้าทำงานกับองค์กรเพราะชื่อเสียงขององค์กรแต่จากองค์กรไปเพราะตัวหัวหน้า''

โดย ผู้จัดการ 360° รายสัปดาห์


อัพเดทล่าสุด