ศาสตร์โหงวเฮ้งกับงาน HR เคล็ด (ไม่) ลับ ความสำเร็จเจ้าสัว ซี.พี.
วรวุธ เพ็งผลฉาย - เรื่อง
วันนี้ต้องยอมรับว่า แม้ทุกคนจะรับรู้ว่าศาสตร์ในเรื่องโหงวเฮ้งนั้นมีพลัง และมีความสำคัญในการดำเนินธุรกิจ แต่ความรู้และความเชี่ยวชาญในเรื่องเหล่านี้ก็ยังจำกัดอยู่ในกลุ่มคนไม่กี่กลุ่มเท่านั้น การเปิดการบรรยายพิเศษของ "อาจารย์ธวัชพงศ์ ธนิตลิมปะพงศ์" ที่ปรึกษา บริษัท ซี.พี. เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในหัวข้อ "โหงวเฮ้งกับงาน HR ศาสตร์แห่งการ คัดเลือกบุคลากร" ณ มหาวิทยาลัยศรีปทุม เมื่อเร็วๆ นี้จึงเป็นเสมือนการเปิดประตูให้คนได้เข้าใจศาสตร์เรื่องโหงวเฮ้งลึกซึ้ง มากขึ้น
ยิ่งในสภาวะเศรษฐกิจขาลง การคัดเลือกคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้ามาเสริมความแกร่งขององค์กรดูจะเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับทุกองค์กร เรื่องนี้จึงอยู่ในความสนใจของคนในสังคมเป็นอย่างมาก
"สิ่งสำคัญในการเลือกบุคลากรคือชะตาชีวิต เหมาะสมจะเริ่มต้นงานรึเปล่า เวลาคนมาสมัครงานอาจารย์จะถามวันเดือนปีเกิดโดยอาศัยหลักฮะ (เสริม สร้าง เกื้อกูล เพิ่มพูน) หลักชง (ทำลาย บั่นทอน ขัดแย้ง) เป็นตัวกำหนด
ปีที่ผ่านมา 2551 ใครปีชวด ปีมะเมีย ปีเถาะ ปีระกา ปีที่แล้ว 4 ปีนี้ชงเปรียบเหมือนชีวิตเดินอยู่บนทางขรุขระ บางคนชงปะทะแรงๆ
คำว่า ปะทะแรงๆ คือ ปีจะชง เดือนจะชง วันจะชง เพราะฉะนั้นหลักในการเลือกคนต้องอาศัยดวงชะตา เพราะว่าดวงชะตานั้นเปรียบเหมือนเส้นทาง ช่วงจังหวะการเปลี่ยนแปลง การงาน การเริ่มต้นนั้นเป็นช่วงที่ดี เหมือนทางที่ราบเรียบ เขามาอยู่กับเรา ดวงเขาดี เราก็ดีด้วยนั้นเป็นหลักหนึ่งในการเลือก
ไม่เพียงเท่านั้นยังจะต้องใช้วันเดือนปีเกิดของเขามาเทียบกับคนที่เขาจะอยู่ด้วย ตัวอย่างคุณปิยะวัฒน์ เกิด 3 มิถุนายน 2496 เดือนมะเส็ง เราเห็นคนมาสมัครงาน เราจะทำรายงานตรงถึงคุณปิยะวัฒน์ มะเส็งต้องฮะกับอะไร วอก ระกา ฉลู เอาปีที่ประสานเลือกส่งไปให้คุณปิยะวัฒน์ ต้องเลือกก่อนว่าต้องปีที่สัมพันธ์กับนาย คนจีนแบ่งออกเป็น หลักฮะ หลักซาฮะ หลักซาคา แล้วก็หลักชง"
"อาจารย์ธวัชพงศ์" เปิดฉากอธิบายถึงความสำเร็จของชีวิตคนที่มีความสัมพันธ์กับวันเดือนปีเกิด และขยายความในเรื่องหลักฮะต่อไปว่าหมายถึง การประสานกันของสรรพสิ่ง 6 ประการซึ่งก่อให้เกิดการเสริมสร้าง เกื้อกูล เพิ่มพูน ดังนี้
- ประสานกับดวงจันทร์ (อิม) - ประสานกับดวงดาว
- ประสานกับดวงอาทิตย์ (เอี้ยง) - ประสานกันระหว่างครอบครัว
- ประสานกับภูตผีปีศาจ - ประสานกับพลังแห่งที่ดิน (ตี่เล้ง)
ปีเกิดที่ "ฮะกัน" คือ
ปีชวดกับปีฉลู
ปีขาลกับปีกุน
ปีเถาะกับปีจอ
ปีมะโรงกับระกา
ปีมะเมียกับมะแม
ปีมะเส็งกับปีวอก
"ยกตัวอย่างเช่น คนที่ฮะกันไปไหนด้วยกันก็จะช่วยสร้างเสริม เกื้อกูลให้กันและกัน หรือใครที่ยังไม่ได้แต่งงานก็เลือกคนที่ฮะกับเรา แต่ถ้าคนแต่งงานไปแล้วถือว่าซื้อขาดกันแล้วไม่สามารถเปลี่ยนดวงได้ แต่ถ้าใครแต่งไปแล้วไม่ใช่กลับไปเลิกกับสามีภรรยา คือ คนที่แต่งงานกันต้องมีบุญเก่ารวมกัน ไม่ใช่แค่บุญอย่างเดียว กรรมด้วย เวรด้วย
มันร่วมกันถึงจะแต่งงานกันได้งั้นเราไม่มีโอกาสแต่งงานกันหรอก"
หลักซาฮะ "อาจารย์ธวัชพงศ์" ชี้ว่า ปีเกิดที่ "ซาฮะกัน" ประกอบด้วย
* ชวด-มะโรง-วอก
* ขาล-มะเมีย-จอ
* เถาะ-มะแม-กุน
* มะเส็ง-ระกา-ฉลู
"ยกตัวอย่างเช่น พ่อปีชวด แม่ปีมะโรง ลูกปีวอก ในครอบครัวใดครบ 3 ซาฮะก็จะรุ่งเรืองได้ถึง 3 ชั่วคน คือ รุ่นท่าน ท่านจะได้รับเลย รุ่นลูกของท่าน จนถึงรุ่นหลานของท่าน ส่วนรุ่นต่อไปจะดีอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดวงชะตาของรุ่นหลาน แต่มีข้อแม้ห้ามมีลูกปีอื่นมาชง 1 ใน 3 ปีนี้ เช่น พ่อปีขาล แม่ปีมะเมีย ลูกปีจอ และมีลูกอีกเป็นปีกุนไม่เป็นอะไร เพราะฮะกันกับขาล แต่มีลูกเป็นปีวอก วอกมาชงกับขาล ซาฮะจะแตกไม่มีพลัง จึงได้เกิดพิธีกรรมยกลูกบุญธรรมเกิดขึ้น เรียกว่ายกลูกบุญธรรมอะไรแบบนี้ หรือเวลาเราจะเลือกลูกน้อง คนงาน เอาเข้าหลักฮะไม่ได้ก็เอาซาฮะกับเราก็ได้"
หลักซาคาหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า หลักสามขา "อาจารย์ธวัชพงศ์" บอกว่าสำคัญไม่แพ้หลักอื่นๆ หมายความว่า ถ้าบิดา มารดา และบุตรเกิดปีเดียวกันทั้ง 3 คน ครอบครัวนั้นจะมีความรุ่งเรืองได้ เช่น ชวด (หนู) 3 ตัว ขาล (เสือ) 3 ตัว ยกเว้นปีระกาปีเดียวที่คนในครอบครัวไม่ควรเกิดปีนี้ทั้ง 3 คน เพราะจะเกิดความขัดแย้งกันเอง ถ้าจะให้รุ่งเรืองต้องเป็นเลขคู่ เช่น ระกา (ไก่) 2 ตัว ระกา (ไก่) 4 ตัว
"หลักซาคาปีเดียวกัน พ่อกุน แม่กุน ลูกกุน รุ่งเรือง ร่ำรวยมากๆ มะโรง 3 ตัว ขาล 3 ตัวยิ่งใหญ่มากๆ ยกเว้นอย่างหนึ่งว่า ระกา 3 ตัว ห้ามอยู่ในครอบครัวเดียวกัน พ่อระกา แม่ระกา ลูกระกา 1 ใน 3 จะขี้โรค ล้มป่วยอย่างไม่มีเหตุผล"
มาถึงหลักชง "อาจารย์ธวัชพงศ์" แปลด้วยภาษาง่ายๆ ว่า คือการทำลาย การบั่นทอน ความขัดแย้งที่จะเกิดขึ้นได้กับคนที่เกิดปีชงกัน
ปีเกิดที่ชงกันตามศาสตร์ของอาจารย์ธวัชพงศ์ คือ
* ชวด-มะเมีย
* ฉลู-มะแม
* ขาล-วอก
* เถาะ-ระกา
* มะโรง-จอ
* มะเส็ง-กุน
"อาจารย์จะทำโน้ตไว้ข้างๆ พอคนมา สมัครงานแล้วดวงผู้บริหารเราต้องรู้ เพราะต้องเอาวันเดือนปีเกิดผู้บริหารเป็นตัวตั้ง ผู้บริหารคนนี้เกิดวันเดือนปีเกิดอะไรจะได้เลือกคนที่เหมาะสมส่งไปให้ได้ อาจารย์ต้องบอกไว้ก่อน
รายหนึ่งที่อาจารย์เคยเป็นที่ปรึกษา วันแรกๆ ที่อาจารย์เข้าไปเป็นที่ปรึกษา อาจารย์จะเข้าไปอาทิตย์ละครั้ง ภรรยา ที่ปรึกษาเกิดปีมะเมีย เขาถามอาจารย์ว่า "อาจารย์พูดถึงหลักฮะ หลักชงแล้วหนูชงกับปีอะไร"
อาจารย์ก็ตอบไปว่า "น้องชงกับปีชวดนะ"
พูดแค่นี้ก็คุยเรื่องงานอะไรกันต่อและเขาก็บินไปต่างประเทศ อาทิตย์ถัดมาอาจารย์ก็เข้าไปและเขาก็กลับมาจากต่างประเทศแล้วเขาก็เข้าตรงมาคุยกับอาจารย์
"อาจารย์หนูมีข่าวดีมาบอก คนปีชวดในโรงงานไม่เหลือแล้ว"
ไล่ออกหมดทุกคนไม่ว่าจะเป็นใคร อาจารย์ตกใจและก็เสียใจที่ไม่ได้บอกให้เขาเข้าใจ คนที่ชงกับเราแค่ไม่เจอกับเราโดยตรงถือว่าใช้ได้ ถ้ามีคนคั่น ลูกน้องคนนี้ ชงเรา หาคนคั่นสักคนถือว่าโอเค ไม่จำเป็นต้องไล่ออกทั้งแผนก คนเหล่านั้นมีลูก มีครอบครัว จะเป็นบาป บางคนชงกันรักกันมากก็มี อย่างการเลือกคู่คนที่เป็นสามี ภรรยากันดวงจะต้องปีเกิดกับเดือนเกิดประสานกันถึงจะดีที่สุด ถึงจะเป็นคู่กัน ปีเกิด เดือนเกิดไม่สัมพันธ์กันเลยในที่สุดครอบครัวจะเกิดความขัดแย้งกัน แต่มีข้อแม้ว่าได้ลูกมาฮะพ่อ แม่ก็พออยู่ได้" "อาจารย์ธวัชพงศ์" เล่าถึงประสบการณ์ในการทำงานที่สะท้อนให้เห็นว่าศาสตร์ในเรื่องโหงวเฮ้งนั้นมีรายละเอียดที่ต้องฟังก่อนปฏิบัติมากมาย
นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเรื่องของเดือน นักษัตร
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กุมภาพันธ์- 4 มีนาคม จะอยู่เดือนขาล
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มีนาคม- 4 เมษายน จะอยู่เดือนเถาะ
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 เมษายน- 4 พฤษภาคม จะอยู่เดือนมะโรง
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 พฤษภาคม- 4 มิถุนายน จะอยู่เดือนมะเส็ง
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มิถุนายน- 4 กรกฎาคม จะอยู่เดือนมะเมีย
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กรกฎาคม- 4 สิงหาคม จะอยู่เดือนมะแม
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 สิงหาคม- 4 กันยายน จะอยู่เดือนวอก
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 กันยายน- 4 ตุลาคม จะอยู่เดือนระกา
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 ตุลาคม- 4 พฤศจิกายน จะอยู่เดือนจอ
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 พฤศจิกายน- 4 ธันวาคม จะอยู่เดือนกุน
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 ธันวาคม- 4 มกราคม จะอยู่เดือนชวด
คนที่เกิดในช่วงวันที่ 5 มกราคม- 4 กุมภาพันธ์ จะอยู่เดือนฉลู
"เราจะเลือกลูกน้องต้องสัมพันธ์กับ เรา โดยเฉพาะปีเกิดสำคัญเป็นลำดับแรก ถ้าเดือนเกิดเขาสัมพันธ์กับเรา จะไขว้มาฮะกับเรา จะไขว้มาฮะเดือนเรา อย่างใด อย่างหนึ่ง เขาจะเกื้อกูลเราด้านการงาน เพื่อนเราที่รักกับเราเดือนเกิดจะต้องสัมพันธ์กัน ซึ่งจะเป็นเพื่อนรักที่ช่วยเหลือ กันอย่างจริงจัง แต่ถ้าสัมพันธ์กันโดยการ ชง มันจะมีอะไรที่ไม่ปกติ ในสามีภรรยา จะไม่มีลูกเลยหรือมีลูกแค่เพศเดียว คนเดียว"
"อาจารย์ธวัชพงศ์" บอกว่า ทุกอย่างมีความหมายที่แตกต่างกันทั้งปีเกิด เดือนเกิด วันเกิด และเวลาเกิด
ปีเกิด หมายถึง สุขภาพ ร่างกาย ความแข็งแรง
เดือนเกิด หมายถึง อาชีพการงาน ความสำเร็จในการงาน
วันเกิด หมายถึง ความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าชะตากับครอบครัว
เวลาเกิด หมายถึง ความรัก ความสมหวังในรัก
"หลายคนคิดว่าตอนนี้ปีฉลูแล้ว ไม่ใช่ตอนนี้ยังอยู่ในปีชวดอยู่ และสิ้นสุดปีชวดนั้นไม่ใช่ตรุษจีน แต่ตรุษจีนมันภาษาชาวบ้าน ตามโหราศาสตร์จะเปลี่ยนจากปีชวดเป็นฉลู วันที่ 4 กุมภาพันธ์ เที่ยงคืน 45 นาที ถ้าเกิดเปลี่ยนปีใครที่ชงก็จะพ้น ใครที่ไม่ชงก็เตรียมชง ฉลู มะแม จอ มะโรง 4 ปีนี้จะชง และตัวที่ชงแรงๆ คือ มะแม 100 เปอร์เซ็นต์ ฉลู 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนจอกับมะโรง 25 25 เล็กๆ น้อยๆ ไม่ต้องไปสนใจ ท่านที่จะไปหาซินแซ ไปหาหมอดูว่า ปีนี้ผมจะเปลี่ยนดีไหม ปีนี้หนูจะเริ่มธุรกิจดีไหม เขาดูจากตรงนี้เป็นตัววัด ปีชง เดือนชง เริ่มอะไรไม่ได้ อยู่ตรงไหนกอดเก้าอี้เอาไว้ให้แน่นๆ"
"การเปลี่ยนแปลงในปีชงหรือเดือนชงนั้น อย่าลืมเดือนเกิดเราก็เป็นนักษัตร ถ้านักษัตรเราเป็นเดือนฉลู เราเกิดเดือนมกราคมหลังวันที่ 5 ปีหน้าปีฉลู เดือนเกิดเราเป็นฉลู เท่ากับเราชง ฉะนั้นเดือนเกิดเราชง เดือนเกิดคือการงานอาชีพ การเปลี่ยนแปลงยังไงก็ไม่ดี อยู่นิ่งๆ ดีที่สุด ปีไหนชง ใครมาชวนลงทุนทำอะไรบอกไปเลยว่าไม่ทำ แต่ละเดือนที่หมุนเวียนเข้ามาอย่างวันนี้วันที่ 22 มกราคม เรารู้เลยว่าเดือนนี้เป็นเดือนฉลู ใครที่เกิดเดือนกรกฎาคมจะเกิดความวุ่นวายใจในเรื่องการงาน เพราะเดือนนี้ชงกับเดือนเกิด ใครมาชวนทำอะไรใหม่ๆ ในเดือนนี้ไม่ทำ นั่นคือหลัก ท่านใช้หลักพวกนี้ในการเลือกสรรหรือใช้บริหารงาน HR บวกกับสิ่งที่ท่านรู้ ท่านจะคัดคนได้ดีทีเดียว"
ทั้งหมดคือเคล็ดลับในการคัดเลือกคนที่ "อาจารย์ธวัชพงศ์" ใช้มาตลอด ท่านจึงเชื่อว่าหากนักบริหารทรัพยากรมนุษย์ ผู้นำองค์กรนำหลักการนี้ไปประยุกต์ใช้ในการคัดเลือกบุคลากร อนาคตขององค์กรย่อมเติบโตอย่างแข็งแกร่งแน่นอน
หน้า 36
ที่มา : matichon.co.th