รักงานก่อนเปลี่ยนงาน


708 ผู้ชม


รักงานก่อนเปลี่ยนงาน




ยู้ดดด…หยุด! อย่าเพิ่งลาออกจากงาน
ก็เหตุจากที่คอลัมน์นี้เขียนแนะทิปส์ดี ๆ วิธีสังเกตตัวเองว่าเมื่อไหร่พร้อมจะเป็นเจ้าของกิจการ ตามด้วยเรื่องหัวจิตหัวใจเพื่อรักษาสถานะนายจ้างได้นาน ๆ 2 เล่มติดกัน ไม่น่าเชื่อว่าจะทำเอาผู้อ่านหลายคนคิดฟุ้งไปไกล ขยับจะยื่นจดหมายลาออก เพราะหน่ายงานประจำที่ทำอยู่พอดี อย่าเพิ่งค่ะ…ขอร้อง ขอให้คิดดี ๆ เพราะตอนคิดน่ะง่าย แต่ขั้นลงมือกระทำให้กิจกรรมที่ฝันไว้เจริญรุ่งเรืองนั้นมันสาหัสคนละเรื่องกันเลย
ระหว่างที่กำลังระมัดระวังวางแผนใหญ่อยู่ ดิฉันขอให้คุณเปลี่ยนความคิดใหม่สักเล็กน้อย ให้หันมา “รัก” งานที่ทำอยู่ขณะนี้ก่อนดีกว่า เคยได้ยินเพลงฝรั่งเพลนี้ไหมคะ ที่เขาว่า “ถ้าคุณไม่ได้อยู่กับคนที่รัก ก็จงรักคนที่คุณอยู่ด้วย” แม้จะเป็นเพลงรัก แต่มันก็เอามาปรับใช้กับเรื่องการทำงานได้ ไม่ได้หมายความว่าเราจะให้คุณต้องยอมทนกับความเบื่อ ความเครียด และความทุกข์ไปตลอดหรอกนะคะ แต่ต้องทำอะไรที่หนักขึ้นอีกนิด เพื่อทำให้งานประจำ (ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า) นั้นเหมาะสำหรับคุณต่างหาก และนี่ก็เป็นวิธีที่จะทำให้ปัจจุบันดีที่สุด
 
  • มองไปที่คุณ “ทำอย่างไร” ไม่ใช่คุณ “ทำอะไร”
    เรามักจะรู้สึกว่าจะได้รับความพึงพอใจสูงสุดหากได้ทำงานที่เพอร์เฟ็กต์ที่สุด ฉะนั้นขั้นแรกในการรักงานปัจจุบันก็คือ ต้องทำตัวเองให้กลายเป็นคนประเภทที่สามารถประสบความสำเร็จในงานที่คิดฝันไว้ ลองหลับตาคิดถึงภาพตัวเองกำลังสวมหมวกใบนั้น คุณจะพรรณนาถึงตัวเองยังไง…เราต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญ เราต้องมีการจัดการที่ดี เราต้องมีความมั่นใจ…รู้มั้ย ไม่ต้อรอให้ได้ทำงานที่ฝันหรอกค่ะ เพราะคุณสามารถทำตัวเองให้เป็นอย่างนั้นเดี๋ยวนี้เลย
  • หาคำปรึกษา
    มีเพื่อนร่วมงานที่คุณสามารถนับถือและเรียนรู้อะไร ๆ จากเขาได้ แม้ว่าเขาจะทำงานไม่เหมือนคุณเลย ลองมองออกไปนอกแผนกเพื่อหาคน ๆ นั้น ที่ปรึกษาที่ดีนอกจากจะรู้จักอัตตาของคุณแล้ว ยังต้องกล้าวิพากษ์วิจารณ์ ลองถามคนที่ประสบความสำเร็จ และมีความสุขกับงาน ว่าเขาจัดการกับงานอย่างไร
  • รวมพรสวรรค์ของคุณเข้ากับเป้าหมายของบริษัท
    หลายคนไม่พอใจงาน เพราะรู้สึกว่าไม่เห็นจะได้รับประโยชน์อะไรจากบริษัทเลย ไม่มีใครเห็นคุณค่าของเรา เมื่อเทียบกับแรงกายแรงใจที่อุตส่าห์ทุ่มให้ไป ถ้าเป็นอย่างนี้ ลองหาทางที่จะทำให้พรสวรรค์ของคุณตรงกับความต้องการของบริษัทสิ สำรวจดูว่าบริษัทต้องการอะไรตอนนี้ หรือในอนาคตอันใกล้คุณจะช่วยเหลือบริษัทได้อย่างไรแล้วพูดกับเจ้านายว่า คุณสามารถทำอะไรให้เขาได้บ้าง รับรองว่าอย่างน้อยเขาต้องประทับใจในความพยายามนี้
  • หาจุดอ่อนของตัวเองอย่างน้อย 1 อย่าง แล้วหาทางเอาชนะมัน
    ก่อนจะบ่นว่าบริษัทไม่ดี คุณต้องยอมรับซะก่อนว่าคุณก็ไม่ใช่ลูกจ้างที่สมบูรณ์แบบเหมือนกัน มองหาจุดด้อยของตัวเองแล้วแก้ไขจะช่วยให้คุณทำงานได้ดีขึ้น เช่น ลดอคติกับเจ้านาย หรือเพื่อนร่วมงาน ถ้าคุณมักเข้าประชุมสาย ก็รีบเข้าห้องประชุมซะตั้งแต่เนิ่น ๆ หรือง่าย ๆ แค่อดทนกับงานมากขึ้น ข้อด้อยไม่ได้หมายถึงเราทำอะไรผิด และการยอมรับมันก็ไม่ได้หมายความว่าคุณอ่อนแอ แต่ที่จริงเมื่อเราปรับปรุงมันจะทำให้รู้สึกว่าตัวเองมีประสิทธิภาพ มีความมั่นใจมากขึ้น และผลดีจากการปรับปรุงตัวเองตั้งแต่ตอนนี้ก็จะติดตัวคุณไปเสมอ ไม่ว่าจะเปลี่ยนไปทำงานอะไรก็แล้วแต่
  • หาโอกาสเข้ารับการฝึกอบรม
    มีหลายบริษัทที่จัดอบรมทักษะต่าง ๆ ให้พนักงานฟรี ไม่ว่าจะเป็นอบรมคอมพิวเตอร์ ภาษาอังกฤษ หรือเทคนิคการจัดการต่าง ๆ แม้คุณยังไม่ต้องการทักษะเหล่านี้ในงานปัจจุบัน ก็ขอให้เข้า ไม่มีใครเดาอนาคตได้ และสิ่งเหล่านี้อาจจะจำเป็นสำหรับคุณขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้
  • สร้างโปรเจ็กต์ของตัวเอง
    สำหรับคนที่รู้สึกเบื่องานมาก ๆ การลองคิดถึงโปรเจ็กต์สักอย่างสามารถสร้างแรงบันดาลใจให้อย่างไม่น่าเชื่อ ดีที่สุดหากจะเริ่มจากสิ่งเล็ก ๆ ก่อน เช่น การจัดโต๊ะทำงานใหม่ ก่อนจะบ้ายไปยังเป้าหมายที่ใหญ่ขึ้น เช่น เข้าร่วมเป็นอาสาสมัครในหน่วยอาสากาชาด นอกจากจะทำให้ยุ่งอยู่ตลอดเวลาแล้ว คุณยังสามารถพัฒนาทักษะที่นอกเหนือจากสิ่งที่คุ้นเคย เสริมความมั่นใจในตัวเอง และเปลี่ยนจากความคิดที่ไม่ชอบงานประจำ ไปสู่งานครีเอทีฟอื่น ๆ
    พยายามทำตามข้อแนะนำนี้ก่อนตัดสินใจลาออกจากงานเดิมนะคะ แต่ถ้ายังรู้สึกไม่อยากไปงานในเช้าวันจันทร์เช่นเดิม นั่นก็คงถึงเวลาที่จะเริ่มส่งเรซูเม่แล้วจริง ๆ

    ที่มา : สนุกดอทคอม


  • อัพเดทล่าสุด