อยากได้งาน แต่ไม่มีประสบการณ์ทำไงดี ?


729 ผู้ชม


อยากได้งาน แต่ไม่มีประสบการณ์ทำไงดี ?




คอลัมน์ ถามมา-ตอบไปสไตล์คอนซัลท์
โดย อภิวุฒิ พิมลแสงสุริยา [email protected]

ตอนนี้ใกล้จบปีการศึกษาแล้ว เลยมีน้อง ๆ นักศึกษาเขียนเข้ามาถาม และเล่าให้ฟังว่าเขาได้เริ่มลองหางานที่สนใจในหน้าหนังสือพิมพ์แล้ว แต่บริษัทที่ประกาศรับสมัครพนักงานส่วนมากต้องการคนที่มีประสบการณ์ทั้งนั้น
อย่างน้อยต้อง 1-2 ปี
ดังนั้น ในฐานะนักศึกษาจบใหม่ เขาควรจะทำอย่างไรดี ?
อย่าเพิ่งเครียดครับ ผมจะบอกว่าองค์กรหลาย ๆ แห่งก็ยังต้องการเด็กจบใหม่เข้ามาทำงานเหมือนกัน เพียงแต่น้องยังไม่เจอบริษัทเหล่านี้เท่านั้นเอง ค่อย ๆ หาไปเพราะน้องยังไม่ได้ลองหาตามหนังสือที่รวบรวมแหล่งงานและงานในอินเทอร์เน็ต ดังนั้นอย่าเพิ่งท้อเพราะคนที่ควรจะท้อมากกว่าคือคนที่อายุมากแล้วแต่ยังไม่มีประสบการณ์ที่ เหมาะสมต่างหาก...อย่างบีรุ่นน้องของผม
บีทำงานอยู่ฝ่ายประกอบสินค้าของโรงงานแห่งหนึ่งมาหลายปี หลังจากเป็นหัวหน้าได้ 2-3 ปี เขามีความรู้สึกว่าการทำงานของเขายังไม่ตอบโจทย์ชีวิตและความฝันที่ต้องการจะทำ
เพราะสิ่งที่เขาฝันคือ การได้เป็นเจ้าของรีสอร์ตเล็ก ๆ ที่บ้านเกิดของเขาทางภาคเหนือ แต่การจะไปเปิดกิจการและบริหารเองโดยไม่มีความรู้คงเป็นไปไม่ได้ บีจึงลองสมัครงานกับโรงแรมต่าง ๆ โดยเน้นไปที่ฝ่ายการตลาดเพื่อหาประสบการณ์
แต่สิ่งที่เขาได้รับคือความเงียบเฉยจากโรงแรมเหล่านั้น
ไม่มีใครเรียกเขาเข้าไปสัมภาษณ์หรือแม้แต่เรียกให้เข้าไปกรอกใบสมัครเพิ่มเติมเลยแม้แต่รายเดียว
เมื่อบีโทร.เข้าไปสอบถามโรงแรมเหล่านั้น ทุกโรงแรมล้วนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เขาต้องการคนที่มีประสบการณ์ด้านการตลาด หรืออย่างน้อยจบทางด้านการโรงแรมมาโดยตรง
ปัญหาบีคือไม่มีประสบการณ์ในด้านนี้ และก็เรียนจบสาขาเกษตรกรรมมาก่อน ซึ่งดูแล้วห่างไกลจากฝันมาก...จะทำอย่างไรดี ?
กรณีนี้เหมือนงูกินหาง คือถ้าคุณไม่มีประสบการณ์คุณจะไม่ได้งานทำ ในขณะที่ถ้าคุณไม่ได้ทำงานแล้วจะมีประสบการณ์ได้อย่างไร ?
ต้องบอกว่าบีเป็นคนโชคดีมาก เพื่อนของน้องชายเขาบังเอิญรับช่วงดูแลกิจการโรงงานต่อจากพ่อ บีจึงอาสาไปช่วยงานด้านการตลาดโดยไม่คิดค่าจ้างแต่ขอแลกการทำงานกับตำแหน่งที่ฟังดูหรูหรา คือ "business development associate" และบุคคลอ้างอิงที่มีคุณวุฒิและวัยวุฒิอย่างคุณพ่อของเพื่อนซึ่งเป็นเจ้าของโรงงาน
เพื่อนของน้องชายก็ตกลงที่จะให้บี เข้าไปทำงาน โดยให้ไปช่วยงานด้านการสรรหาลูกค้าใหม่ หาทางนัดให้หัวหน้าฝ่ายขายเข้าไปคุยให้ได้ บีแสดงความจำนงอย่างชัดเจนเลยว่า หน้าที่ของเขาคือการโทร.ไปเพื่อให้ลูกค้ารับนัดเท่านั้น โดยหน้าที่การนำเสนอและปิดการขายเป็นหน้าที่ของหัวหน้าฝ่ายขาย เขาจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้
บีบอกเลยว่าเขาจะทำงานในก่อนและหลังเวลาทำงานปกติของงานประจำคือ ช่วงพัก 15 นาทีของช่วงเช้าและครึ่งชั่วโมงหลังเลิกงาน และทำในช่วงพักเที่ยงอีกครึ่งชั่วโมง จากนั้นประมาณ 3 เดือนเขาจะลองสมัครงานตามโรงแรมต่าง ๆ ที่เขาเคยสมัครอีกครั้ง
ซึ่งคราวนี้เขาสามารถที่จะบอกคนเหล่านั้นได้ว่า เขามีประสบการณ์ในการทำงานด้านการตลาดมาบ้างแล้ว
ณ ตอนนี้ในใบประวัติการทำงานของเขา สามารถเขียนตำแหน่งที่สวยหรูที่ได้รับจากประสบการณ์ในการช่วยทำงานนี้ได้ ซึ่งส่งผลให้เขาได้รับการว่าจ้างให้เป็น พนักงานในโรงแรมแห่งหนึ่งในแผนกขาย
ดังนั้น สำหรับคนที่ยังไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน คุณสามารถใช้กลยุทธ์นี้เพื่อช่วยในการหาประสบการณ์ในการทำงานได้ ซึ่ง สิ่งที่คุณต้องมองหาอย่างแรกคือ องค์กรที่ดีที่มีโครงการใหม่ ๆ แต่ไม่มีเงินในการจ้างคนในการเข้าไปทำ จากนั้นก็...
- ระบุให้ชัดเจนว่าคุณจะเข้าไปช่วยทำอะไรและอย่างไร
- เหมือนอย่างที่บีระบุว่าเขาต้องการ ประสบการณ์ด้านการตลาด ซึ่งก็ได้เข้าไปช่วยงานด้านการนัดหมายลูกค้าใหม่ให้กับหัวหน้าฝ่ายขาย เป็นต้น
- ระบุให้ชัดเจนว่าคุณต้องการค่าตอบแทนอย่างไร
- อย่างน้อง ๆ นักศึกษาที่ไปฝึกงาน ค่าตอบแทนหลักที่เขาต้องการคือ หนังสือรับรองการผ่านงาน แต่ในกรณีของบีสิ่งที่เขาต้องการคือ ชื่อตำแหน่งหรู ๆ ที่เขาสามารถนำไปเขียนในใบประวัติการทำงานได้อย่างภาคภูมิ และบุคคลอ้างอิงอย่างเจ้าของโรงงาน
- จงอย่ามองค่าตอบแทนในรูปแบบของเงินตราเพียงอย่างเดียว เพราะบางครั้งการตอบแทนแบบอื่นอาจจะมีค่ามากกว่าเงินก็เป็นได้ (อย่างประสบการณ์เพื่อความก้าวหน้าในอนาคต)
- ระบุอย่างชัดเจนถึงระยะเวลาในการทำงาน
- อย่างน้องนักศึกษาอาจจะระบุไปได้ว่า เป็นช่วงปิดเทอมตั้งแต่วันที่เท่านี้ถึงวันที่เท่านี้ ในขณะที่บีก็ระบุอย่างชัดเจนเช่นกันว่าจะทำในช่วงพักของงานประจำเท่านั้น และให้ระยะเวลากับการทำงานนี้ 3 เดือนก่อนที่จะเริ่มหางานใหม่อีกครั้ง
สำหรับกรณีอย่างบีคำแนะนำอย่างหนึ่งที่สำคัญคือ ความต้องการในการหาประสบการณ์ ไม่ได้แปลว่าคุณจะต้องหยุดทำงานประจำที่คุณทำอยู่ สิ่งสำคัญคือการจัดสรรเวลาเพื่อไม่ให้กระทบกับงานประจำ และอย่าลืมที่จะหางานต่อหลังจากได้ประสบการณ์ไปแล้วระยะหนึ่ง
ถ้าคุณมัวแต่คิดว่า ทำงานแล้วไม่ได้เงินจะทำไปทำไม ?
ถ้าคิดเช่นนี้จงเปลี่ยนทัศนคติเสียใหม่ ถ้าคุณได้งานที่ดีทำแล้วมีความสุข หรือการทำความฝันให้เป็นจริงได้ สิ่งเหล่านั้นจะมีค่ามากกว่าเงินตราเสียอีก ซึ่งแน่นอนว่าถ้าคุณมีความสุขกับงาน งานที่ออกมาก็จะดีไปด้วย
แล้วเรื่องเงินก็จะตามมาเองครับ
หน้า 31

วันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2553 ปีที่ 33 ฉบับที่ 4192  ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดทล่าสุด