วิธีขจัด โรค "เกลียดวันจันทร์"
| บางคนคงสงสัยว่าวันจันทร์มีความผิดอะไรหนักหนา เราจึงต้องไปตั้งแง่รังเกียจมัน แต่ถ้าหากคุณเป็นมนุษย์ทำงานชาวออฟฟิศ ที่ต้องทำงานตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ ก็คงจะเข้าใจถึงอาการของโรคนี้เป็นอย่างดี เหมือนกับที่หลายๆ คน จะรักวันศุกร์เอาเสียมากๆ เพราะวันหยุดสุดสัปดาห์อันแสนสุขรออยู่นั่นเอง แต่ในทางกลับกัน เพียงแค่คิดว่าพรุ่งนี้ก็จะถึงวันจันทร์แล้ว ความสุขทั้งหลายก็แทบพังทลายลงไปทีเดียว ไหนจะงานที่ต้องกลับไปสะสาง เอกสาร อีเมล์ แฟกซ์ และรายการงานใหม่ๆ ที่จะเข้ามาอีกยาวเป็นหางว่าว แต่หากจะกล่าวไป สิ่งที่เราๆ ท่านๆ หลายคนกำลังคิดกันอยู่นี่ก็เป็นความจริงที่เราต้องเผชิญกันอยู่ทุกสัปดาห์ หากจะลองคิดใหม่ในมุมกลับ และทำให้วันจันทร์เป็นอีกวันหนึ่งในสัปดาห์ ที่คุณจะมีความสุขไปกับการทำงานได้อย่างไม่น่าเชื่อเลยทีเดียว เราลองมาดูวิธีขจัดโรคเกลียดวันจันทร์กันดีกว่า - เตรียมตัวให้พร้อมก่อนเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ เริ่มแรกนั้นควรจัดสรรระเบียบให้กับงานในวันจันทร์ เตรียมเวลาที่จะจัดแจงสิ่งต่างๆ ในการทำงาน ทลายกองงานที่เป็นภูเขาลง เพื่อให้การทำงานตลอดสัปดาห์ที่เหลือเป็นเรื่องง่ายขึ้น ลองเข้างานเช้ากว่าปกติสักนิด เพื่อการจัดเตรียมและลำดับความสำคัญก่อนหลังของงานที่ต้องทำ คุณจะพบว่า เวลาเช้าก่อนที่จะมีเพื่อนร่วมงานมาทำงานนั้น เป็นเวลาที่คุณมีสมาธิมากทีเดียว - เคลียร์ปัญหาจากสุดสัปดาห์ที่แล้ว เชื่อแน่ว่าหลายท่านจะพบกับงานที่คั่งค้างต่อเนื่องมาจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา และงานใหม่ๆ ที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากทางอีเมล์ แฟกซ์ และโทรศัพท์ที่จะดังขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย ทางที่ดีวิธีที่จะทำให้คุณลดอาการปวดหัวกับเรื่องเหล่านี้ลง ก็คือ การเคลียร์งานให้เสร็จสิ้นเสียก่อนส่วนหนึ่งตั้งแต่วันศุกร์ นั่นเอง หรือใช้เวลาหลังเลิกงานสัก 10 นาที จัดทำรายการงานต่างๆที่ยังคั่งค้าง เพื่อที่จะมาสะสางต่อได้ในวันจันทร์ ในเมื่อเรารู้ว่าเช้าวันจันทร์จะเป็นเวลาที่สุดแสนวุ่นวาย การแบ่งเบาภาระของงานในเช้าวันจันทร์ไปไว้ในช่วงเย็นอันแสนสุขของวันศุกร์ จะทำให้คุณสานต่องานในสัปดาห์ใหม่ได้อย่างต่อเนื่องและง่ายดายมากขึ้น - จัดลำดับความสำคัญของงานที่ต้องทำต่อไป การจัดลำดับความสำคัญก่อนหลังของงานนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นในการบริหารจัดการงานของคุณ เพราะการทำงานตามลำดับขั้นจะทำให้งานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่างานทุกชิ้นย่อมต้องมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ไม่มีชิ้นไหนที่จะสามารถละเลยไปได้ แต่เราควรใช้หลักในการจัดลำดับความสำคัญด้วยเงื่อนไขที่สำคัญที่สุด ส่วนใหญ่ควรนึกถึงเส้นตาย หรือกำหนดในการส่งงานก่อนเป็นอันดับแรก และจัดการ เขียนงานที่มีความสำคัญมากน้อยตามลำดับออกมาเป็นข้อๆ นอกจากจะช่วยเตือนให้คุณไม่หลงลืมทำงานต่างๆ ให้เรียบร้อยไปเรื่อยๆ แล้ว ยังสามารถลดความเครียดให้กับจิตใจได้อีกด้วย เพราะเราจะผ่อนคลายความกังวลไปได้ส่วนหนึ่งจากการจดรายการที่ต้องทำลงในกระดาษ ไม่ต้องมานั่งคิดวนไปวนมาว่าต้องทำอะไรต่อไปบ้างอีก นอกจากนี้เรายังสามารถรู้สถานะความคืบหน้าของงานชิ้นดังกล่าวได้จากการทำสัญลักษณ์หรือโน๊ตสั้นๆ ไว้ด้านหลังรายการงานนั้นๆ อีกด้วย ทำให้คุณสามารถจัดการและวิเคราะห์งานต่างๆได้มากขึ้น อาจพบว่างานบางชิ้นสามารถกระจายให้กับผู้อื่นที่มีความเกี่ยวข้องกับงานด้วยได้ ในเวลาที่คุณมีงานมากจนล้นมือ เพื่อเอาเวลามาจัดการกับงานที่เฉพาะเจาะจงต้องผ่านฝีมือคุณจริงๆ ที่สำคัญการจำแนกและจัดลำดับรายการงานเช่นนี้ จะช่วยให้คุณเหลือเวลาและพลังงานสมองไว้ใช้งานเพิ่มขึ้นอีกด้วย - พร้อมเผชิญหน้ากับงาน หรือสถานการณ์ใหม่ๆ อยู่เสมอ สำหรับการเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่นั้น ก็จะต้องมีงานใหม่ๆ เพิ่มขึ้นมาในความรับผิดชอบของคุณได้เสมอๆ จึงควร เตรียมตัวเตรียมใจเผื่อไว้สำหรับงานที่จะเข้ามาใหม่ และสิ่งที่จำเป็นต้องทำต่างๆ ที่เพิ่มเข้ามา เพราะมันจะมีผลกระทบโดยตรงต่อตารางการทำงานโดยรวมของคุณ เผื่อเวลาและกำลังสำหรับจัดสรรการทำงานให้เหมาะสม จะได้ไม่ยุ่งยากภายหลัง เพราะงานทุกงานที่ได้รับมอบหมายคือสิ่งที่คุณต้องทำให้สำเร็จอยู่ดี และการพร้อมรับกับทุกสถานการณ์จะทำให้คุณผ่านการเริ่มต้นไปอย่างไม่ติดขัด - แบ่งเวลาสำหรับการผ่อนคลายบ้าง อย่าลืมว่าการทำงานตลอดทั้งวันนั้นสามารถสร้างความเครียดให้เราได้พอสมควร ดังนั้นควร แบ่งเวลาสักเล็กน้อยสำหรับการผ่อนคลายสมองบ้าง เพื่อเพิ่มพลังให้กับตัวเองในระหว่างชั่วโมงของการทำงาน อาจจะไปเดินเล่นในสวนช่วงหลังอาหารกลางวัน พักสายตาด้วยสีเขียวของต้นไม้ มองออกไปนอกหน้าต่างบนฟ้ากว้าง หรือมองแบบปล่อยสายตาไปไม่ต้องเพ่งอะไรเป็นพิเศษ จะช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาลงได้ หรือระหว่างการทำงาน ผละออกจากหน้าจอคอมพิวเตอร์บ้าง ลองเดินไปติดต่องานในแผนกต่างๆ แทนการใช้โทรศัพท์ สำรวจสถานที่และผู้คนในออฟฟิศของคุณ เป็นการยืดเส้นยืดสายและสร้างความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานไปในตัว เสร็จธุระแล้วก็กลับไปทำงานต่อได้อย่างสบายใจ ควรจดจำไว้เสมอว่าร่างกายต้องได้รับการผ่อนคลายบ้าง จึงจะสามารถจัดการกับเรื่องต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ความเครียดที่มีมากเกินไปนั้นนอกจากจะทำให้สมองล้าแล้วยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในที่สุด ทางที่ดี มียืด มีหยุ่น รู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา จะช่วยให้เรามีพลังในการสู้กับภาระต่างๆ ในทุกวันได้เป็นอย่างดี เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองด้วยการเตรียมพร้อมรับมือกับวันแรกของการทำงานอีกครั้ง เพิ่มความกระตือรือร้น ลดความกังวลในเรื่องที่ก่อกวนจิตใจอยู่ ฝึกกายและใจให้มีความแอคทีฟอยู่เสมอ เราก็อาจจะพบว่าการทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นในที่สุด แนวทางง่ายๆในการเพิ่มพลังงานให้กับตัวเอง - สร้างสมาธิและผ่อนคลายตัวเองก่อนเข้านอน หัดทำสมาธิในช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนเข้านอน เช่น การเล่นโยคะในท่าที่ผ่อนคลาย อ่านหนังสือที่ไม่เป็นวิชาการสักบทสั้นๆ จุดเทียนหอม หรือน้ำมันหอมระเหย ที่ช่วยผ่อนคลายความเครียดก่อนเข้านอน จะทำให้คุณหลับง่ายขึ้น และได้พักผ่อนเต็มที่ - งดปาร์ตี้ งานเลี้ยงสังสรรค์ที่ไม่จำเป็นระหว่างสัปดาห์ การเข้านอนเร็วขึ้นและตื่นเช้าขึ้น จะทำให้ร่างกายได้พักผ่อนได้มากขึ้น และตื่นขึ้นมารับอากาศของเช้าวันใหม่อย่างสดใส ไม่งัวเงียไปทั้งวัน - ออกกำลังกายง่ายๆ วันละ 30 นาทีเป็นอย่างต่ำ นอกจากจะทำให้ร่างกายมีความสดชื่น กระปรี้กระเปร่าแล้ว คุณยังได้สุขภาพที่ดีตามมาอีกต่างหาก - เปิดเพลงหลังตื่นนอนใหม่ๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้หายงัวเงีย ช่วยทำให้คุณกระปรี้กระเปร่าในเช้าวันใหม่ของคุณ - ไม่ควรงดมื้อเช้า หลายคนอาจไม่ชอบทานมื้อเช้า แต่รู้ไว้เถอะว่า การรองท้องเล็กน้อย จะทำให้ท้องของคุณสงบลงและคุณจะมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น หากได้ดื่มน้ำผลไม้ ด้วยยิ่งเป็นการดี เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ต่อร่างกายแล้ว น้ำตาลในผลไม้ยังช่วยให้สดชื่นอีกด้วยนะ ไม่อ้วนอีกต่างหาก |
| JOBROADS |