10 เล่ห์เหลี่ยมสู่การเลื่อนตำแหน่งอย่างรวดเร็ว

1. คิดให้ใหญ่โตเข้าไว้
          ขั้นแรกสู่การก้าวหน้าในอาชีพการงานก็คือคุณต้องรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้นความต้องการเป็นที่รับรู้ได้รับรางวัลตอบแทน มีความรับผิดชอบ มีความพึงพอใจในการทำงาน และที่สำคัญได้เงินเดือนมากขึ้น แต่อย่าเก็บความคิดนี้ไว้กับตัวเองคนเดียว การที่เจตนารมณ์อันแรงกล้าจะประกาศออกมาด้วยตัวเองนั้นเป็นไปไม่ได้ เพราะฉะนั้นจงบอกถึงสิ่งที่คุณต้องการนี้ต่อผู้อื่นด้วย แต่ต้องให้แยบคายหน่อยนะ อย่าพาซื่อไปบอกกับเจ้านายว่าคุณอยากจะนั่งแทนตำแหน่งเขาเชียว

2. ฝันกลางวัน
          สมมติว่าคุณอยากครองตำแหน่งผู้นำ ให้คุณลองจินตนาการตัวเองในตำแหน่งนั้นดู ไม่ใช่จินตนาการแบบเพ้อฝันลมๆแล้งๆนะ คิดให้เจาะจงไว้ ให้คุณได้เห็นภาพตัวเองนั่งอยู่ในออฟฟิศ ทำงานตามบทบาทและความรับผิดชอบต่างๆอย่างคล่องแคล่วและเพลิดเพลิน นึกถึงภาพชุดที่คุณจะใส่ ผู้คนที่คุณจะพบ หรือบทสนทนาที่คุณจะใช้ ลองแต่งตัวตามนั้นบ้าง พูดตามนั้นบ่อยๆแล้วคุณจะค่อยๆกลายเป็นคนแบบที่คุณอยากจะเป็นได้ไปเอง และเซอร์ไพรส์! คุณจะพบว่าคนรอบตัวคุณเองก็จะเริ่มปฎิบัติต่อคุณราวกับคุณเป็นอย่างนั้นแล้วจริงๆเลยล่ะ

3. ตกหลุมรัก
          แน่นอนว่าต้องกับงานนะ เรียนรู้ที่จะเอาใจใส่ในทุกงาน ทุกการติดต่อ และทุกกิจกรรม ทำสิ่งเหล่านั้นด้วยความรัก ให้ทุกคนไม่อาจมองข้ามความทุ่มเทที่คุณได้ทำไปแล้วและจะทำอีกเมื่อได้รับตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต อย่าเอาแต่นั่งอยู่กับโต๊ะ รอคอยให้มีคนมาค้นพบคุณสมบัติที่แสนเลิศในตัวคุณ สรุปคือ หมั่นบอกกับตัวเองว่าการเลื่อนตำแหน่งไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้อะไรมากขึ้น แต่หมายถึงว่าคุณจะสามารถทำอะไรให้กับบริษัทได้มากขึ้นต่างหาก

4. ทุ่มเทกับงานเล็กๆ
          แค่นึกภาพอย่างเดียวนั้นไม่พอ คุณจะต้องลงมือกระทำด้วย ถ้างานของคุณเรียกร้องให้ต้องอยู่ล่วงเวลาต่ออีกหลายชั่วโมงก็จงอยู่ไปเถิดและอย่าโอดครวญด้วย “การก้าวหน้าในอาชีพการงานมาจากากรทำงานหนัก 80% การทำงานอย่างฉลาด 10% และโชคอีก 10% คุณต้องเพิ่มชั่วโมงบินให้ตัวเอง ทำงานอื่นที่อยู่นอกเหนือขอบเขตงานของตัวเองบ้าง เจ้านายจะมองเห็นคุณค่าในตัวลูกน้องที่กระตือรือร้นในการทำงานให้มากกว่าคนอื่นเสมอแหละ

5. หาทางออกให้ง่ายเข้าไว้
          หมายความว่าอย่าร้อนรุ่มกับปัญหา “บางเวลาที่คุณเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ที่ไม่อาจแก้ไขได้ในทันทีก็อย่าฝืน ถ้าไม่อาจแก้ปัญหาได้ในตอนนี้ก็ให้ไปหาอย่างอื่นทำก่อนแล้วค่อยกลับมาหาทางแก้ทีหลัง เราต้องทำงานอย่างฉลาด เพราะงานเป็นมากกว่าการมานั่งแก้ปัญหาแค่หนึ่งข้อในหนึ่งวันเท่านั้น” ถ้าวิธีการแรกไม่ได้ผล ให้ลองมองปัญหาจากมุมที่ต่างออกไป พยายามคาดการณ์ล่วงหน้าสำหรับทุกสถานการณ์ หากทำได้เช่นนั้นคุณจะได้รับการยอมรับว่าเป็นทรัพยากรชั้นดีที่อุดมไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความสามารถในการคาดการณ์ล่วงหน้า คุณไม่จำเป็นต้องมีใบปริญญาเอกมารองรับในการทำเรื่องเหล่านี้ เพียงแค่มีจิตใจที่ปลอดโปร่ง ไม่ยึดติดกับกรอบปฎิบัติเก่าๆ ก็พอแล้ว

6. งานเร่งด่วน
          ถ้าคุณสามารถทำงานที่ลูกค้าต้องการได้เร็วขึ้นโดยที่ไม่กระทบกระเทือนคุณภาพของเนื้องานแล้วล่ะก็ ในวันนั้นคุณก็จะสามารถพกเอาผลกำไรและชัยชนะเข้าบริษัทได้อย่างภาคภูมิเลยทีเดียว

7. ซุบซิบนินทา
          คุณต้องรู้มากกว่าแค่ว่าหน้าที่ของคุณคืออะไร นั่นเป็นระดับต่ำสุดที่คุณควรจะรู้เลยเชียว คุณจำเป็นต้องรู้จักด้านอื่นๆของบริษัทด้วยเช่นกัน คอยดูว่าแผนกอื่นๆเขาทำอะไรกันบ้าง การทำเช่นนี้จะทำให้คุณได้ความคิดว่าจะทุ่มเทให้กับบริษัทมากขึ้นได้อย่างไร และหากว่าคุณได้รับการเสนอให้เลื่อนตำแหน่งในภายหลัง คุณก็จะทำงานในตำแหน่งนั้นได้ดีขึ้นอีกด้วย

8. ทำงานสกปรก
          ผู้หญิงไม่ควรจะมานั่งแยกแยะว่างานไหนเหมาะหรือไม่เหมาะกับพวกเธอ ถ้ามันเป็นงานของคุณ ถึงจะทำให้เล็บพังแต่คุณก็ต้องทำ ยิ่งถ้างานของคุณอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมที่พวกผู้ชายเป็นแกนนำด้วยแล้วล่ะก็ คุณต้องแสดงให้ผู้ชายพวกนั้นได้เห็นว่าคุณไม่ได้ปวกเปียกขนาดที่จะมาเอาเปรียบกันได้ง่ายๆ

9. เลียแข้งเลียขา
          แต่อย่าให้ประเจิดประเจ้อนักล่ะ อย่าคอยแต่พยักหน้าเห็นด้วยกับทุกอย่างที่เจ้านายพูดเท่านั้น คุณต้องแสดงความคิดเห็นและพูดออกมาว่าอะไรถูกหรือผิดในความรู้สึกของคุณ การโต้ตอบกับเจ้านายแสดงให้เห็นว่าคุณเอาใจใส่กับงานของคุณแค่ไหน ปรับตัวให้เข้ากับวิธีการทำงานของเจ้านาย ถ้าเจ้านายของคุณเป็นประเภทหัวโบราณที่มองแต่ต้นทุนและหน้าตาบัญชี คุณก็จงหมั่นคิดมาตรการลดต้นทุนไปเสนอ และคอยดูว่าจะหาวิธีช่วยให้บริษัทประหยัดมากขึ้นได้อย่างไร และหากเจ้านายของคุณเป็นประเภทเน้นผลลัพธ์อย่งเดียว คุณก็อาจทำรายงานประจำสัปดาห์ไปเสนอได้ แต่การประจบเอาใจอาจไม่ได้ผลในระยะยาวนักหรอก เจ้านายของคุณอาจเปลี่ยนคนในอนาคต และเจ้านายคนปัจจุบันของคุณก็อาจจะไม่ใช่คนที่พาคุณก้าวไปข้างหน้าก็ได้

10. เล่นการเมืองซะบ้าง
          คุณจะต้องพบกับอุปสรรคมากมายกว่าจะก้าวขึ้นไปถึงจุดสูงสุดได้ และส่วนมากอุปสรรคเหล่านั้นจะมาจากเพื่อนร่วมงานที่คิดว่าพวกเขาก็ทำงานได้ดีพอๆกับคุณเหมือนกัน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันเอง คุณต้องขยันทำการบ้านและพิสูจน์ให้พวกเขาได้เห็นว่าคุณเก่งจริง

ที่มา : เมล์สมาชิก