นายจ้างจะต้องกระทำการใด ๆ เพื่อไม่ให้ลูกจ้างทำงานต่อไปและไม่จ่ายค่าจ้างให้จึงจะเป็นการเลิกจ้าง
นายจ้างจะเลิกจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นกรรมการลูกจ้าง !!!
ประพฤติชั่ว อันเป็นการฝ่าฝืนระเบียบข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน
นายจ้างไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยเมื่อเลิกจ้างลูกจ้างเพราะเหตุสุดวิสัย
เข้าใจโดยบริสุทธิ์ ว่าถูกเลิกจ้างแล้ว ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์ละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงาน
จ่ายเงินสมทบทุนเงินทดแทน
นายจ้างจ่ายค่าน้ำมันรถและค่าโทรศัพท์ให้แก่ลูกจ้างในลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือน เป็นเงินเท่า ๆ กันทุกเดือน
นายจ้างหยุดกิจการเป็นเหตุให้ลูกจ้างไม่ได้ทำงานกับนายจ้าง
ยื่นใบลาขออนุญาตหยุดงาน นายจ้างไม่อนุญาต
ตอกบัตรลงเวลาทำงานโดยไม่ได้ทำงานตามเวลาที่มีการตอกบัตร
ลูกจ้างละทิ้งหน้าที่เป็นเวลาสามวันทำงานติดต่อกันโดยไม่มีเหตุอันสมควร
การระบุ เหตุผลแห่งการเลิกจ้าง ในหนังสือเลิกจ้าง
ลูกจ้างนำเอกสารภายในบริษัท เปิดเผยต่อบุคคลอื่น
หัวหน้างาน ชักชวนพนักงานหญิงออกไปเที่ยวเตร่ ในเวลาค่ำคืนนอกเวลางาน
คู่มือพนักงานและคำมั่นสัญญาส่วนบุคคล กับการเลิกจ้าง
ลูกจ้างปฏิบัติหน้าที่เป็นยามรักษาการณ์ ละทิ้งหน้าที่แล้วมาลงเวลาย้อนหลัง
ลูกจ้างถูกเตือนเรื่องการลากิจ ต่อมาลาป่วย ถือว่าเป็นคนละเรื่องกับกรณีที่ถูกเตือน
ลูกจ้างมาเซ็นชื่อในสมุดลงเวลาแล้วกลับไปโดยไม่ได้ปฏิบัติงานใดๆ
นายจ้าง อนุมัติต่ออายุการจ้างแรงงาน ก่อนการเกษียณอายุ
การลดตำแหน่ง ลูกจ้าง
ยื่นข้อเรียกร้องขอเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง
นายจ้าง ผิดสัญญาจ้าง
เงินประจำตำแหน่ง และเงินค่ารถกับเงินค่ารับรอง ลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือน
เงินค่าคอมมิชชั่น หรือค่าเที่ยว
นิยามศัพท์คำว่า ค่าจ้าง
ไม่ไปทำงาน โดยเข้าใจโดยบริสุทธิ์ว่า นายจ้างถูกจำเลยเลิกจ้างแล้ว
สาระสำคัญ 3 ประการ ค่าจ้างตาม พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 5
นายจ้างจ่ายค่าน้ำมันรถและค่าโทรศัพท์ให้แก่ลูกจ้าง ลักษณะเหมาจ่ายเป็นรายเดือน
นายจ้างที่ไม่พอในคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานสามารถนำคดีไปสู่ศาลได้ภายใน 30 วัน
นายจ้างมีข้อตกลงกับลูกจ้างว่าจะหารถประจำตำแหน่งให้