การกินยาคุมแล้วท้อง อาการกินยาคุมฉุกเฉิน และ อันตรายจากการกินยาคุมฉุกเฉิน จาก คำถามคำตอบการกินยาคุมกำเนิด


1,418 ผู้ชม


ถาม - ตอบ เรื่องการกินยาคุมแล้วแล้วท้อง ไหม 
คำถาม
        คือช่วงต้นเดือนนอนกับแฟนแล้วหลั่งในค่ะเลยซื้อยาคุมแบบฉุกเฉินมากิน แล้วไม่กี่วันก้อมีอะไรกันอีกแต่ทีนี้ไม่ได้ซื้อมากินแต่ปล่อยข้างในนะคะ พอประมาณกลางเดือนแฟนปล่อยข้างในอีกก็เลยซื้อยามากินอีก พอช่วงประมาณวันที่ 20 รู้สึกคัดหน้าอกและปวดท้องน้อยแบบบีบๆ นึกว่าตัวเองจะมีประจำเดือนแต่ผ่านไปซักพักก้อยังไม่มา...พอมาวันที่25 เริ่มคัดหน้าอกมากแต่ประจำเดือนก้อยังไม่มาอย่างนี้จะท้องไหม๊คะ แล้วยาที่กินไปจะเป็นอันตรายหรือป่าวคะ
คำตอบ 
           การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน คือ วิธีการคุมกำเนิดที่ใช้ภายหลังการมีเพศสัมพันธ์เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ เฉพาะกรณีฉุกเฉินจริงๆ  การคุมกำเนิดแบบฉุกเฉิน จะใช้เพื่อแก้ปัญหาเฉพาะในกรณีที่คุณ "พลาด" และเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์โดยไม่ต้องการเท่านั้นมันไม่ใช่การคุมกำเนิดตาม ปกติและไม่ใช่วิธีที่จะนำมาใช้ในการวางแผนครอบครัวด้วย เรามักเรียกยาเม็ด ที่ใช้เพื่อการคุมกำเนิดฉุกเฉินนี้ว่า"ยาคุมหลังร่วมเพศ" หรือ "ยาคุมชั่วคราว" หรือ "morning after" ซึ่งเป็นชื่อเรียกที่สร้างความเข้าใจผิดและนำไปสู่การใช้ยาคุมฉุกเฉินผิด วัตถุประสงค์ ซึ่งอาจมีผลต่อร่างกายของผู้หญิงในระยะยาวเพราะยาคุมฉุกเฉินไม่ใช่การคุม กำเนิดแบบธรรมดาที่เราคุ้นเคยกันอย่างเช่น ยาคุม 21 เม็ด หรือยาคุม 28 เม็ด แต่ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาที่ผลิตขึ้นมา โดยมีสูตรเฉพาะเพื่อให้ผู้หญิงใช้ในช่วงที่เกิดปัญหาและไม่ต้องการตั้งครรภ์ เท่านั้นหากเรานำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา มันจะกลายเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพต่ำไปในทันทีนั่นหมายความว่า หากคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำและใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ คุณจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้นเมื่อเทียบกับถ้าคุณใช้วิธีคุม กำเนิดแบบธรรมดาวิธีอื่นๆ 
          ยาคุมฉุกเฉินมีส่วนผสมเช่นเดียวกับยาคุมธรรมดา แต่มีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดสูงกว่าและต้องกินหลังจากมีเพศสัมพันธ์ภายในเวลา ที่กำหนดเท่านั้น จึงจะมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ในขณะที่ยาคุมธรรมดาต้องกินวัน ละ 1 เม็ด ทุกๆ วัน (กรณีแผงละ 28 เม็ด) และมีปริมาณฮอร์โมนต่อเม็ดน้อยกว่า 
         ใครควรกินยาคุมฉุกเฉิน ? 
ยา คุมฉุกเฉินไม่ใช่ยาคุมธรรมดาซึ่งที่ต้องกินเป็นประจำทุกวัน หากแต่ยาคุมฉุกเฉินมีปริมาณฮอร์โมนสูงกว่าเพราะผลิตขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาให้ แก่ผู้หญิงที่ไม่ต้องการตั้งครรภ์ในกรณีต่อไปนี้เท่านั้น 
•มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ใช้วิธีคุมกำเนิดใดๆ 
•ใช้ถุงยางแล้ว แต่ไม่แน่ใจว่ารั่ว/แตก/หลุดหรือไม่ 
•กินยาคุมชนิดธรรมดาอยู่ แต่ลืมเกินไปวันสองวันหรือนานกว่านั้น 
•ใส่ห่วงคุมกำเนิดแล้ว แต่มันหลุด 
•นับระยะปลอดภัย (หน้าเจ็ดหลังเจ็ด) ผิดพลาด 
•ถูกข่มขืน, มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ตั้งใจ ไม่เต็มใจ 
           ในภาวะฉุกเฉินที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินอย่างถูกวิธี หลังจากมีเพศสัมพันธ์จะช่วยลดโอกาสเสี่ยงของการตั้งครรภ์ได้ประมาณ 75% แต่ถ้าคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ คุณควรจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการ กินยาคุมฉุกเฉิน 
         วิธีการกินยาคุมฉุกเฉิน  
          ตามข้อมูลทางวิชาการ การกินยาคุมฉุกเฉินทั้งแบบฮอร์โมนผสม และแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยวมีวิธีการกินเหมือนกันคือ ต้องกิน 2 ครั้ง  ครั้งแรกภายในเวลา 72 ชั่วโมงหลังจากมีเพศสัมพันธ์ 
       ครั้งที่สอง กินหลังจากที่กินครั้งแรกไปแล้ว 12 ชั่วโมง 
       หมายความว่า ถ้ามีเพศสัมพันธ์ตอนสองทุ่ม และกินยาเม็ดแรกตอน 5 ทุ่ม จะต้องกินยาเม็ดที่สองตอน11 โมงเช้าซึ่งก็คือ 12 ชั่วโมงถัดมานั่นเอง 
       อาการข้างเคียง 
        จากการศึกษาวิจัยพบว่า หลังจากกินยาคุมฉุกเฉินเข้าไปแล้ว ผู้หญิง 1 ใน 2 คนจะมีอาการคลื่นไส้และผู้หญิง 1 ใน 5 คนอาเจียน หากกินยาพร้อมกับกินอาหารตามเข้าไปด้วยก็จะช่วยลดอาการคลื่นไส้ลงได้บ้างแต่ ถ้าอาเจียนในช่วง 2 ชั่วโมงแรกหลังจากการกินยาเม็ดแรก ก็อาจจะต้องกินเม็ดแรกซ้ำอีกครั้ง 
หลังการกินยานี้แล้ว ประจำเดือนควรจะมาภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าประจำเดือนไม่มาภายในเวลาดังกล่าวและมีอาการต่อไปนี้คือ 
•ปวดท้อง 
•เจ็บหน้าอก ไอ หรือหายใจขัด 
•ปวดหัวมาก วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย มึนงง 
•มองเห็นไม่ชัด 
•ปวดน่องหรือโคนขาอย่างหนัก 
ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นการบ่งชี้ถึงการตั้งครรภ์หรืออาการแทรกซ้อนที่จำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัย 
          ยาคุมฉุกเฉินป้องกันการตั้งครรภ์ได้อย่างไร ?
        การออกฤทธิ์ของยาเม็ดคุมกำเนิดแบบฉุกเฉินนั้นมีลักษณะเดียวกันกับยาเม็ดคุม กำเนิดแบบธรรมดาจากการศึกษาเชิงสถิติ พบว่า ยาคุมฉุกเฉินมีการทำงานหลายอย่างพร้อมๆ กัน อาทิเช่น ขัดขวางการตกไข่ ทำให้การตกไข่ช้าลงกว่าเดิม ขัดขวางการปฏิสนธิโดยสร้างเมือกขึ้นในท่อนำไข่ทำให้อสุจิและไข่เคลื่อนที่ เข้าหากันลำบากขึ้น ขัดขวางการฝังตัวของไข่ที่ได้รับการผสมแล้วเป็นต้น กลไกการทำงานหลายทางนี้ทำให้ยาคุมฉุกเฉินมีประสิทธิภาพ ในการป้องกันการตั้งครรภ์ค่อนข้างสูงถ้าใช้เฉพาะกรณีฉุกเฉินจริงๆ เท่านั้น
          จากประเด็นคำถามเนื่องจากผู้ถามมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำ หรือมีเป็นระยะๆ คุณควรจะใช้วิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดาซึ่งจะป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีกว่าการ กินยาคุมฉุกเฉิน ยาคุมฉุกเฉินเป็นยาคุมที่ผลิตขึ้นมาโดยมีสูตรเฉพาะเพื่อให้ผู้หญิงใช้ในช่วง ที่เกิดปัญหาและไม่ต้องการตั้งครรภ์เท่านั้น หากเรานำยาคุมฉุกเฉินมาใช้แทนวิธีคุมกำเนิดแบบธรรมดา มันจะกลายเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพต่ำไปในทันที นั่นหมายความว่า หากคุณมีเพศสัมพันธ์อยู่เป็นประจำและใช้ยาคุมฉุกเฉินบ่อย ๆ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์ คุณจะมีโอกาสเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์มากขึ้นเมื่อเทียบกับถ้าคุณใช้วิธีคุม กำเนิดแบบธรรมดาวิธีอื่นๆ ซึ่งหลังจากกินยาคุมฉุกเฉินแล้วประจำเดือนควรจะมาภายใน 2-3 สัปดาห์ แต่ถ้าประจำเดือนไม่มาภายในเวลาดังกล่าวและมีอาการดังต่อไปนี้ คือ ปวดท้อง เจ็บหน้าอก ไอ หรือหายใจขัด ปวดหัวมาก วิงเวียนศีรษะ อ่อนเพลีย มึนงง มองเห็นไม่ชัด ปวดน่องหรือโคนขาอย่างหนัก ให้รีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาจเป็นการบ่งชี้ถึงการตั้งครรภ์หรืออาการแทรก ซ้อนที่จำเป็นต้องให้แพทย์วินิจฉัย 
ผู้ตอบ   ภญ. ปิยพร ชูชีพ
ที่มา  www.pharmacy-ss.com

อัพเดทล่าสุด