ปูนแดงรักษาข้อเข่าเสื่อม หนึ่งใน งานวิจัยข้อเข่าเสื่อม โดยภูมิปัญญาไทย


1,116 ผู้ชม


ปูนแดงรักษาข้อเข่าเสื่อม หนึ่งใน งานวิจัยข้อเข่าเสื่อม โดยภูมิปัญญาไทย
หลังจากกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง มีประกาศยกเลิกไม่ให้ผู้ใช้สิทธิสวัสดิการข้าราชการเบิกค่ายานอกบัญชียาหลัก ในกลุ่มกลูโคซามีน ซึ่งเป็นยาเกี่ยวกับโรคข้อเสื่อม ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ทำให้เกิดคำถามว่าแล้วมีทางเลือกอื่นที่ดีสำหรับผู้ป่วยหรือไม่ อย่างไร
          ประสิทธิผลการรักษาของยากลุ่มนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกัน หลายประเทศทั่วโลกจัดยาเหล่านี้เป็นอาหารเสริม และไม่อนุญาตให้เบิกจ่ายจากระบบสวัสดิการรัฐ สำหรับประเทศไทยมีการขึ้นทะเบียนเป็นยา แต่ไม่ได้บรรจุเป็นยาในบัญชียาหลักแห่งชาติ ซึ่งข้าราชการจะใช้ได้เฉพาะกรณี “จำเป็น” เท่านั้น แต่ที่ผ่านมาพบว่ามีการสั่งยากลุ่มกลูโคซามีนให้กับผู้ใช้สิทธิสวัสดิการข้า ราชการเป็นมูลค่าสูงถึงปีละ ๖๐๐ ล้านบาท จากจำนวนผู้ใช้ยาประมาณ ๔ หมื่นราย จึงถูกพิจารณาว่าเป็นการใช้งบประมาณที่ไม่คุ้มค่า
          อาจารย์ดารณี อ่อนชมจันทร์ ผู้ อำนวยการสถาบันสุขภาพวิถีไทย เปิดเผยว่า สถาบันสุขภาพวิถีไทยร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข บรรยายและสาธิต “ทางเลือกรักษาโรคข้อเข่าเสื่อม” ณ บ้านสวนสหคลินิก เพื่อให้ความรู้กับผู้ป่วยและสังคมว่าภูมิปัญญาไทย เช่น การแพทย์พื้นบ้าน การแพทย์ทางเลือก การแพทย์แผนไทย ก็มีองค์ความรู้และประสบการณ์ในการตรวจวินิจฉัยและบำบัดรักษาอาการปวดข้อ ที่สามารถเป็นทางเลือกที่ดี ลดการพึ่งพาเทคโนโลยีทางการแพทย์ซึ่งมีราคาแพงและมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน และส่งเสริมการใช้ยาอย่างสมเหตุสมผล
          นอกจากการบรรยายและสาธิตการตรวจ รักษา และกายบริหารตามแบบการแพทย์แผนไทย สาธิตการรักษาโรคข้อเข่าเสื่อมด้วยการจัดดุลยภาพบำบัด ซึ่งว่าด้วยการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและกระดูกเพื่อแก้ไขโครงสร้างที่มีปัญหา ให้กลับมาเป็นโครงสร้างที่ไม่บิดเบี้ยว ซึ่งเป็นสาเหตุของการกดทับเส้นประสาทที่ทำให้ปวด สาธิตการนวด การประคบความร้อน การประคบรักษาปวดข้อปวดเข่าด้วยปูนแดงตามศาสตร์การแพทย์พื้นบ้าน
          โรคข้อเข่าเสื่อมพบได้ในผู้สูงอายุ มีสาเหตุหลักคือความเสื่อมตามอายุการใช้งาน มีอาการปวดเข่าอาจมีเสียงในข้อ ข้อเข่าอาจจะโก่งด้านนอกหรือด้านใน ทำให้ขาสั้นลง เดินลำบากและมีอาการปวดเวลาเดิน ผู้ป่วยจะไม่สามารถเหยียดหรืองอขาได้สุดเหมือนเดิม เนื่องจากมีการยึดติดภายในข้อ ไม่สามารถรักษาให้เหมือนเดิม ดังนั้น การรักษาข้อเข่าเสื่อมจึงมีจุดประสงค์เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด ป้องกันข้อติด ป้องกันข้อโก่งงอ เป็นต้น
          การรักษาด้วยยาเป็นเพียงการบรรเทาอาการ ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น และการกินยามากๆ จะทำให้มีผลข้างเคียงต่อกระเพาะอาหาร ตับ หัวใจ และไต ซึ่งส่วนใหญ่แพทย์จะสั่งจ่ายยาให้กับผู้ป่วยโรคข้อเพื่อรักษาตามอาการเท่า นั้น เช่น การจ่ายยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ เป็นต้น
          ปัญหาที่สำคัญที่สุดคือ ผู้ป่วยบางกลุ่มจะพึ่งยาเพียงอย่างเดียว โดยไม่พยายามปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของตัวเอง ซึ่งในความเป็นจริงการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการรักษาโรคข้อเสื่อม ส่วนการผ่าตัดนั้นจะมีทั้งผลดีและผลเสีย ซึ่งผลเสียก็คือผู้ป่วยจะมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังผ่าตัด และมีโอกาสเสียชีวิตจากการติดเชื้อได้
          วิธีที่ดีที่สุดคือ การดูแลตัวเองให้ดีก่อนที่จะป่วยเป็นโรคข้อเสื่อม แต่หากเป็นโรคข้อเสื่อมแล้วก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของ ตัวเอง ด้วยวิธีการลดความอ้วน ลดการใช้งานข้อ รวมถึงการหมั่นบริหารกล้ามเนื้อบริเวณรอบข้อ ซึ่งวิธีการเหล่านี้คือวิธีการแก้ไขปัญหาข้อเสื่อมที่ปลอดภัย และไม่เสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียง หรือภาวะแทรกซ้อนได้ในที่สุด
 
ที่มา  www.doctor.or.th

อัพเดทล่าสุด