10 สัญญาณ บ่งบอกว่าคุณหรือแฟนคุณกำลังตั้งครรภ์ !!!
เนื่องด้วยบางครั้งหลายคนไม่แน่ใจว่าแฟนของคุณท้องหรือตั้งครรภ์หรือไม่
ผมเลยนำวิธีการดูลักษณะ คนตั้งครรภ์หรือท้องมาให้ศึกษากันครับ
1. เต้านมและหัวนมมีการเปลี่ยนแปลง
หากคุณตั้งครรภ์ คุณจะสังเกตเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเต้านมและหัวนม ซึ่งจะเปราะบาง อ่อนไหว และมีความรู้สึกได้ง่ายขึ้นในระยะ 3 เดือนแรกของการตั้งครรภ์ (หลังจากที่ประจำเดือนขาดประมาณ 1 สัปดาห์) หรืออาจเกิดอาการบวมคล้ายๆ กับอาการก่อนเกิดประจำเดือนที่หน้าอกใหญ่ขึ้น
2. ประจำเดือนน้อยหรือกะปริดกะปรอย
หากคุณตั้งครรภ์ ประจำเดือนอาจจะมาน้อยในช่วงที่มีการฝังตัวของไข่ในมดลูก และจะเกิดขึ้นประมาณ 8-10 วัน ก่อนที่ประจำเดือนปกติจะมา คุณสามารถแยกแยะจากประจำเดือนปกติได้ หากประจำเดือนมาก่อนกำหนด หรือหากประจำเดือนกะปริดกะปรอย สีชมพูอ่อน และไม่ได้มาตามขนาดปกติ (ซึ่งอาจจะมามาก)
3. บริเวณรอบหัวนมคล้ำขึ้น
ในการตั้งครรภ์ เมื่อถึงระยะเวลาที่รอบเดือนควรจะมา คุณจะสังเกตเห็นบริเวณหัวนม (ที่เป็นวง) จะคล้ำขึ้นและขยายใหญ่ขึ้น ซึ่งเชื่อกันว่าจะช่วยให้สามารถสังเกตเห็นหัวนมไห้ง่ายขึ้นในการดูดนมมารดา และอาจจะยังสังเกตเห็นหลอดเลือดบริเวณรอบๆ เต้านมชัดขึ้น ตุ่มที่บริเวณรอบหัวนมก็จะมีมากขึ้น อาจจะมากถึง 4-28 ในรอบหัวนมหนึ่งๆ
4. เหนื่อยง่ายขึ้น
อาการเหนื่อยได้ง่ายนี้จะเกิดขึ้นในระยะ 8-10 สัปดาห์แรกของการตั้งครรภ์ เมื่อคุณตั้งครรภ์กระบวนการเผาผลาญพลังงานจะเกิดการเปลี่ยนแปลง ฉะนั้นร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับการปรับตัวเพื่อให้กำเนิดอีกชีวิตหนึ่งโดยมากแล้วอาการนี้จะหายไปในสัปดาห์ที่ 12 ครับ
5. อาการแพ้ท้องและอาเจียน
อาการนี้อาจเกิดขึ้นตั้งแต่สัปดาห์แรกๆ หลังจากตั้งครรภ์ ซึ่งจะเกิดอาการเวียนศรีษะ อาการนี้มักเป็นอาการที่เข้าใจผิดได้บ่อยๆ ว่าอาจจะไม่ใช่เกิดจากการตั้งครรภ์แต่เป็นเพราะพักผ่อนไม่เพียงพอหรืออะไรก็ตามแต่ อาการแพ้ท้องนี้เกิดได้ตลอดเวลา ทั้งกลางวันและกลางคืน
6. ปัสสาวะบ่อยขึ้น
ในระยะที่ประจำเดือนขาด 1-2 สัปดาห์คุณก็จะพบว่าคุณปัสสาวะบ่อยขึ้น บ่อยกว่าปกติ ซึ่งเกิดจากทารกกำลังเติบโตอยู่ในมดลูกและกดทับกระเพาะปัสสาวะนั่นเอง
7. ท้องผูก
คุณสังเกตการเปลี่ยนแปลงของลำไส้ตั้งแต่แรกเริ่มตั้งครรภ์ เนื่องจากฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้นในช่วงการตั้งครรภ์ จะทำให้ระบบขับถ่ายเปลี่ยนแปลงและมีประสิทธิภาพน้อยลง
8. อุณหภูมิร่างกายที่เพิ่มขึ้น
คุณอาจจะยังรู้สึกเป็นปกติดีตราบเท่าที่ระดับอุณหภูมิยังคงอยู่ในช่วงการประเมินการ แม้จะผ่านช่วงเวลาของการมีประจำเดือนมาแล้ว และเมื่อคุณตั้งครรภ์ ไข่จะตกจากรังไข่ และใช้เวลาประมาณหนึ่งสัปดาห์ในการเดินทางไปถึงมดลูก ซึ่งจะเป็นการไปฝังตัว และในเวลานี้เองที่ร่างกายของคุณจะรู้ได้ว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ ทำให้อุณหภูมิในร่างกายเพิ่มสูงขึ้น
9. ประจำเดือนขาด
นี่อาจเป็นสัญญาณแรก โดยเฉพาะถ้าปกติประจำเดือนคุณมาสม่ำเสมอ เมื่อรวมสัญญาณอื่นๆ แล้วคุณก็สามารถคาดเดาได้แล้วว่ากำลังตั้งครรภ์ แม้แต่ก่อนทำการตรวจด้วยซ้ำไป
10. ผลจากการตรวจสอบการตั้งครรภ์
แม้เพียงประจำเดือนขาดไป 1 วัน และคุณพร้อมที่จะรับรู้ความจริง ก็สามารถไปซื้อชุดทดสอบการตั้งครรภ์มาทดสอบเองได้ที่บ้าน การทดสอบจากปัสสาวะจะมีความแม่นยำมากขึ้นหากตรวจหลังจากปฏิสนธิได้ 10-14 วัน หากคุณไม่สามารถรอถึงกระทั่งช่วงที่ประจำเดือนขาด การตรวจเลือดจะมีความแม่นยำ ในช่วง 8-10 วันหลังจากปฏิสนธิ และคิดอยู่เสมอว่าไม่มีการทดสอบใดที่ได้ผลถูกต้อง 100 เปอร์เซ็นต์ แม้แต่การตรวจเลือด หากคุณตรวจแล้วมีผลว่าไม่ตั้งครรภ์แต่คุณยังรู้สึกเหมือนกับว่าคุณตั้งครรภ์ให้ตรวจอีกครั้งหลังจากนั้น 1 สัปดาห์
ขอแสดงความยินดีกับคุณหรือแฟนคุณด้วย่ที่ตั้งครรภ์สมกับความตั้งใจ หรือไม่จะไม่ตั้งใจก็ตาม
ยังไงถ้าไม่ตั้งใจก็ขอให้คิดให้ถี่ถ้วนก่อนลงมือทำอะไรลงนะครับ
ท่านอาจจะเกิดอาการบางอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนบางท่านอาจจะกังวลว่าอาการดังกล่าว
จะมีผลต่อตัวคุณแม่หรือลูกอาการต่างๆ ที่พบได้มีดังนี้
* อาการแพ้ท้อง
* การเปลี่ยนแปลงทางเต้านม
* อาการปวดหลัง
* ปัสสาวะบ่อย
* อาการปวดท้องน้อย
* อาการปวดศรีษะ
* ริดสีดวงทวาร
* อาการจุกเสียดแน่นท้อง
* นอนไม่หลับ
* ตะคริว
* อาการเหนื่อยหอบ
* การเปลี่ยนผิวหนังในคนท้อง
* อาการบวมและเส้นเลือดขอด
อาการแพ้ท้อง
มักเป็นกันมากในหญิงมีครรภ์ที่เป็นครรภ์แรก ซึ่งมักจะเป็นในช่วง 3 เดือนแรก
ด้วยความเป็นกังวลที่ทำให้มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย แปรปรวนและหงุดหงิดค่อนข้างง่ายหาก
ผู้ใดที่อยู่ใกล้ไม่มีความเข้าใจมักเกิดความรำคาญหรือว่ากล่าวอันเป็นเหตุให้คุณแม่มือใหม่เกิดอาการเครียดขึ้นมาได้