หลายๆ คน คงทราบกันมาบ้างแล้วว่า ภายในปี พ.ศ. 2558 ประเทศไทยเราจะชักธงเข้าสู่ประชาคมคมอาเซียนรวม 10 ประเทศ การเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญนี้ทำให้หลายภาคส่วนต่างเร่งพัฒนาศักยภาพคนไทย ให้พร้อมรับมืออย่างทันท่วงที และเพื่อให้เราสามารถเข้าใจเพื่อนบ้านมากขึ้น ลองมาเริ่มเรียนรู้ง่ายๆจากอาหารประจำชาติของประเทศสมาชิกกันเลยดีกว่า
|
| "ทิพ" ทิพวรรณ จันทประเสริฐ จาก สปป.ลาว | | | หนึ่งในสาวต่างชาติอย่าง "ทิพ" ทิพวรรณ จันทประเสริฐ จากสปป.ลาว นักศึกษาป.โท สาขาวิชาสาธารณสุขศาสตร์ ม.มหิดล อธิบายถึงอาหารที่นำมาโชว์ในกิจกรรม "เปิดประตูMU สู่ ASEAN ปี 2554" ว่า วันนี้นำอาหารมา 3 อย่าง อย่างแรก คือ ไกแผ่น (ไก : สาหร่ายน้ำจืดชนิดหนึ่ง) อาหารชนิดนี้หาได้เฉพาะทางภาคเหนือของลาวโดยเฉพาะที่หลวงพระบาง สองคือ ซิ้นแห้ง(เนื้อสวรรค์) เป็นอาหารขึ้นชื่อทางภาคใต้ของลาว อยู่ในแขวงสะหวันนะเขต สุดท้าย คือ วุ้นมะพร้าว หารับประทานได้เฉพาะที่นครหลวงเวียงจันทร์
|
| ไกแผ่น ซิ้นแห้ง และวุ้นมะพร้าว อาหารประจำชาติลาว | | | "ส่วนการรวมอาเซียนครั้งนี้ มองว่าจะทำให้เราได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกับประเทศอื่นๆ และได้เชื่อมโยงด้านการศึกษาหลายๆประเทศ ทำให้เราได้เรียนรู้วัฒนธรรมของประเทศอื่น และได้แลกเปลี่ยนเรื่องวิชาการด้วย หลังจากจบไปแล้วก็ยังมีNetwork ติดต่อถึงกันและกันได้ ก็เป็นเรื่องดีค่ะ"
|
| Nan-Gyi-Thote อาหารประจำชาติพม่า | | | ด้าน Alex หรือ Kyaw Zwas Myiat จากประเทศพม่า นักศึกษาป.โท สาขาวิชาชีวเคมี คณะวิทยาศาสตร์ ม.มหิดล แนะนำถึงอาหารประจำชาติของเขา ก็คือ Nan-Gyi-Thote (Noodle Big Salad) มีส่วนผสมของเส้นก๋วยเตี๋ยวพม่า แกงกะทิไก่ ข้าวเกรียบแผ่นเล็กๆ พริกป่นผัด ไข่ต้ม มะนาวผ่าซีก ผักชี และผงแป้งถั่ว คลุกให้เข้ากันก่อนรับประทาน อาหารชนิดนี้เป็นอาหารประจำชาติของภาคกลาง "อาหารชนิดนี้แม้จะเป็นอาหารแบบภาค กลาง แต่ในพม่าก็สามารถหารับประทานได้ไม่ยาก พบได้ทั่วทุกภาคของประเทศ ส่วนการที่อาเซียนจะรวมเป็นประชาคมเดียวกันในอนาคตอันใกล้นี้ ส่วนตัวมองว่าทำให้เราได้รู้จักเพื่อนบ้านมากขึ้น รู้สึกเราเป็นคนบ้านเดียวกัน ต่อไปภายภาคหน้าก็คงจะมีการพูดคุยหรือแลกเปลี่ยนสิ่งต่างๆระหว่างกันอย่าง เป็นกันเองมากขึ้น"
|
| Crazy Chicken Caldereta อาหารประจำชาติฟิลิปปินส์ | | | ส่วน Joel จากประเทศฟิลิปปินส์ นักศึกษาป.โท สาขาวิชาสิทธิมนุษยชน ม.มหิดล กล่าวว่า อาหารประจำชาติที่นำมาให้ชม คือ Crazy Chicken Caldereta เป็น สตูว์ไก่ชนิดหนึ่งที่เคี่ยวกับซอสมะเขือเทศ ซึ่งอาหารชนิดนี้ได้รับอิทธิพลมาจากประเทศสเปน อาหารชนิดนี้คนฟิลิปปินส์ทั่วทุกภูมิภาคทำรับประทานกันในครอบครัว "อาหารชนิดนี้เป็นอาหารประจำชาติ คล้ายกับต้มยำกุ้งของเมืองไทย ที่สามารถหารับประทานได้ทั่วไป เนื่องจากCalderetaนี้สามารถทำได้ง่ายๆ โดยรับประทานกับขนมปังปิ้ง แต่คนไทยจะรับประทานอาหารกับข้าวสวย ส่วนการรวมตัวอาเซียนนี้ส่วนตัวรู้สึกตื่นเต้น เพราะเป็นประวัติศาสตร์สำคัญที่น่าจดจำของทั้ง 10 ประเทศ ก็หวังว่าวันหนึ่งเราจะสามารถพูดภาษาเดียวกันได้ และเข้าใจกันและกันได้มากขึ้น" หนุ่มจากดินแดนตากาล็อคทิ้งท้าย |
https://www.manager.co.th/campus/viewnews.aspx?NewsID=9540000102249
---------
จานแรกของโปรเจค Southeast Asian Sensation เป็นอาหารจากฟิลิปปินส์ ดินแดนพันเกาะ ครับ
อาหารฟิลิปปินส์นั้นได้รับอิทธิพลมาจากความหลากหลายของเชื้อชาติครับ ด้วยความที่ประเทศนั้นเป็นรูปแบบหมู่เกาะ แต่ละเกาะนั้นก็มีวัฒนธรรมที่แตกต่างกัน ซ้ำยังได้การผสมผสานของวัฒนธรรมจีน มาเลย์ รวมไปถึงเจ้าอาณานิคมสองรายอย่างสเปนและอเมริกาอีก ความโดดเด่นของอาหารฟิลิปปินส์นั้นคงอยู่ที่การผสมผสานเทคนิคและวิธีการปรุง แบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ อาหารจึงมีรสชาติที่จัดจ้าน ทั้งหวาน เปรี้ยว และเค็ม ถึงแม้ว่ารสเผ็ดจะไม่โดดเด่นมากนัก เมื่อเทียบกับอาหารประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคที่รสเผ็ดร้อนรุนแรงไม่แพ้สภาพอากาศตลอดช่วงปี
ส่วนเครื่องปรุงที่เป็นที่นิยมนั้นก็หนีไม่พ้น อาหารแป้งหลักอย่าง ข้าว ที่ปลูกกันเป็นกิจจะลักษณะ ถึงแม้ว่าจะเป็นประเทศที่ประกอบไปด้วยเกาะเล็กเกาะน้อยจำนวนมากอันเต็มไป ด้วยเทือกเขาและภูเขาไฟ แต่ชาวฟิลิปปินส์โบราณก็สามารถค้นพบวิธีปลูกพืชให้ได้จำนวนมากในพื้นที่ จำกัดด้วยการปลูกแบบขั้นบันไดนั่นเองครับ รวมไปถึงเครื่องปรุงที่เป็นผลิตผลทางธรรมชาติ เช่น มะม่วง มะพร้าว กล้วย ส้มกาลาแมนซี
อาหารฟิลิปปินส์ที่ค่อนข้างเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางคือ Adobo ครับ แทบจะเรียกได้ว่าเป็นอาหารประจำชาติเลยก็ว่าได้ ด้วยความที่เป็นอาหารที่ทำได้ง่าย ใช้เครื่องปรุงไม่มาก และยังสามารถเก็บไว้ได้หลายวันด้วยครับ Adobo นั้นมักทำมาจากเนื้อหมู ไก่ หรือทั้งสองอย่างรวมกัน ตุ๋นในซอสที่ปรุงด้วยน้ำส้มสายชู ซีอิ๊ว ใบกระวาน และกระเทียม พอตุ๋นได้ที่แล้วก็จะเอาชิ้นเนื้อออกมาย่างทำสีบนกระทะก่อนนำกลับลงไปตุ๋น ต่ออีกสักพัก เป็นอาหารที่ออกรสเปรี้ยวกับเค็มนำ ซึ่งเมื่อกินกับข้าวสวยร้อนๆ นั้นจะอร่อยมากครับ
สูตรนี้ผมได้มาจากเพื่อนชาวฟิลิปปินส์คนหนึ่งที่รู้จักกันออนไลน์ครับ และเป็นสูตรที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งทีเดียว คนที่ชิมครั้งแรกอาจจะไม่ชอบความฉุนของน้ำส้มสายชูนะครับ สามารถลองปรับรสได้ตามชอบครับ แต่โดยมากจะเน้นไปที่รสเปรี้ยวแหลมๆ กับเค็มกลมกล่อมของซีอิ๊ว และผมลองเพิ่มขิงลงไปเพื่อเพิ่มรสชาติให้จัดจ้านและยกระดับจานอาหารไม่ให้ เป็นแค่เปรี้ยว-เค็มอย่างเดียวครับ
เวลาผมทำอาหารแบบนี้จะไม่ค่อยใส่เนื้อสัตว์ที่ติดกระดูกครับ เพราะอยากให้เป็นเนื้อชิ้นๆ กินได้ง่ายๆ แต่ถ้าอยากใช้สะโพกไก่ติดกระดูกก็น่าจะดีนะครับ เพราะไก่ที่ได้จะนุ่มมากเป็นพิเศษครับ แถมอีกอย่างคือ ถ้าทำเยอะๆ สามารถเก็บไว้กินได้มื้อหลังครับ และยิ่งเก็บไว้นานก็ยิ่งอร่อย คล้ายๆ กับแกงกะหรี่ญี่ปุ่นเลยครับ
https://www.tourdefoodblog.com/2011/03/chicken-and-pork-adobo/