จบคดี! บัวขาว เคลียร์ ป.ประมุข แบ่งค่าตัว 60-40 (ไอเอ็นเอ็น)
          เสธ.ยอด ควง บัวขาว มาตามสัญญา ปิดห้องถกกับค่าย ป.ประมุข นานร่วม 2 ชั่วโมง สรุปเคลียร์ทุกอย่างจบสิ้น
           เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (22 พฤษภาคม) ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.) "เสธ.ยอด" พล.ต.อินทรัตน์ ยอดบางเตย พร้อมด้วย "บัวขาว ป.ประมุข" หรือ สมบัติ บัญชาเมฆ และทนายความ ดร.เทพปกรณ์ อินทรพัฒน์ เข้าชี้แจงรับทราบข้อกล่าวหากับทางสำนักงานมวย กรณี บัวขาว กระทำผิด พ.ร.บ.มวย พ.ศ. 2542 เนื่องจากได้ขึ้นชกในศึกไทยไฟท์ เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา ทั้งที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากทางค่าย ป.ประมุข ต้นสังกัด จนทำให้ทางสำนักงานมวยตัดสินลงโทษแล้วเพิกถอนทะเบียนนักมวยชั่วคราว เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งโทษดังกล่าวมีผลตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

           โดยในเวลา 13.15 น. เสธ.ยอด และบัวขาว เดินทางมาถึงบริเวณหน้าอาคารเฉลิมพระเกียรติ ได้มีบรรดาแฟนคลับถือป้ายเขียนข้อความให้กำลังใจ บัวขาว ป.ประมุข พร้อมกับตะโกนเชียร์ให้ บัวขาว สู้เต็มที่ จากนั้น บัวขาว ได้เดินเข้าไปทักทายกับแฟนคลับ ทางแฟนคลับจึงมอบดอกไม้ และอวยพรให้ บัวขาว สู้ต่อไป
          จากนั้นทั้ง เสธ.ยอด, บัวขาว และทนายความ ได้เข้ามายังที่ประชุม ซึ่งมีสื่อมวลชนทุกแขนงให้ความสนใจเข้ามาทำข่าวเป็นจำนวนมาก ด้านทางค่าย ป.ประมุข "กำนันแก๊" ประมุข โรจนตัณฑ์ หัวหน้าคณะ และ "อุ" ธีรพัฒน์ โรจนตัณฑ์ ได้เดินทางมาตามนัด ขณะเดียวกันทางฝ่ายสำนักงานมวย นำโดย "ชาติซ้าย" นายสมชาติ เจริญวัชรวิทย์ ในฐานะประธานอนุกรรมการวินัย จรรยาบรรณคนในวงการมวย และนายเดชชัย ใจกล้า ได้เดินทางมาชี้แจงบทลงโทษ รวมทั้งได้เชิญ นายสกล วรรณพงษ์ รองผู้ว่าการกีฬาแห่งประเทศไทย เข้ามาเป็นประธานในการไกล่เกลี่ยครั้งนี้
           ก่อน จะเริ่มประชุม บัวขาว นำพวงมาลัยขอขมากับ ชาติซ้าย และขอขมาต่อ กำนันแก๊ ซึ่งระหว่างที่ บัวขาว ขอขมา กำนันแก๊ ขอให้บัวขาวพูดเสียงดังฟังชัด พร้อมกับกล่าวว่า ตนเลี้ยงบัวขาวมา 20 ปี ดีแล้วที่บวชเรียนมาและมาคุยกันอย่างลูกผู้ชาย

           อย่างไรก็ตาม ทั้งนี้ที่ประชุมไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าร่วมประชุมในช่วงที่เริ่มไกล่ เกลี่ย และปิดห้องหารือกันกว่า 2 ชั่วโมง โดยเปิดโอกาสให้ บัวขาว ได้เจรจากับค่าย ป.ประมุข

           ภายหลังการประชุม นายสกล ได้เผยว่า ทาง กกท.พยายามหาข้อสรุปประเด็นนี้มาตลอด เพื่อไกล่เกลี่ยให้ทั้งสองฝ่ายได้ทางออกที่ลงตัวที่สุด ได้ข้อสรุป ดังนี้
           1. เงินรางวัลจากการชกบัวขาวจะได้รับ 60% ค่ายป.ประมุข 40%
           2. รายได้จากสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทั้งงานโชว์ตัว, โฆษณา, งานออกรายการโทรทัศน์ และสปอนเซอร์ร้านต่าง ๆ บัวขาวจะได้รับ 75% ค่ายป.ประมุข รับ 25%
           3. สำหรับการรับงาน ทั้งสองฝ่ายจะต้องลงนามร่วมกันเท่านั้น โดยบัวขาวจะยังคงใช้ชื่อค่าย ป.ประมุข เหมือนเดิม แต่จะฝึกซ้อมด้วยตัวเอง มีผลบังคับใช้ในช่วงสัญญาที่เหลืออีก 5 ปีนับจากนี้
           ส่วน ของการลงโทษ ยึดใบอนุญาตของบัวขาว 6 เดือนก่อนหน้านี้ เพื่อเป็นการไกล่เกลี่ยให้ทุกฝ่าย จะให้ทางค่าย ป.ประมุข ทำเรื่องอุทธรณ์มายังสำนักงานกีฬามวย ขณะเดียวกัน ทางค่าย ป.ประมุข จะยกฟ้องบัวขาวในทุก ๆ เรื่อง รวมทั้งยกฟ้องทางการกีฬาทุกคดีด้วย