ข่าวชัยนาท fc 2 นักเตะ ชัยนาท fc ขอโทษแฟนบอล ยอมรับผิด ชัยนาท fc บีอีซีเทโร
2 นักเตะ ชัยนาท fc ยอมรับผิด ขอโทษแฟนบอล
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก youtube.com โพสต์โดย DuangAesthetic
สุรเชษฐ์-ณภัทร สองนักเตะชัยนาท เอฟซี (ชัยนาท fc) ขอโทษแฟนบอล หลังเกิดเรื่องในสนาม ยอมรับเห็นภาพแล้วดูรุนแรง แต่ยืนยันไม่ได้ตั้งใจทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ
จากกรณีที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีคำสั่งให้ลงโทษ นายสุรเชษฐ์ งามทิพย์ และ นายณภัทร ทัพเกตุแก้ว สองนักฟุตบอลจากสโมสรชัยนาท เอฟซี หรือ ชัยนาท fc หลังจากนักเตะทั้งสองคนเข้าเสียบสกัดบอล และเตะอัดใส่คู่ต่อสู้อย่างรุนแรง ในเกมที่ชัยนาท เอฟซี พบกับบีอีซี เทโรศาสน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดตามมาในแวดวงลูกหนังนั้น ล่าสุด ทั้งสุรเชษฐ์ งามทิพย์ และ ณภัทร ทัพเกตุแก้ว ได้ออกมาขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น
โดย ณภัทร ทัพเกตุแก้ว นักเตะหมายเลข 15 ทีมชัยนาท เอฟซี ซึ่งถูกลงโทษแบน 3 นัด ปรับเงิน 30,000 บาท จากการที่ไปเตะอัดใส่ กรกช วิริยอุดมศิริ นักเตะของสโมสรบีอีซี เทโรศาสน กล่าวว่า ตนอยากจะออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมที่เตะเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยหลังจากตนได้เห็นภาพจากคลิปข่าวก็เห็นว่าค่อนข้างจะรุนแรง ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในสถานการณ์นั้น มันเป็นจังหวะต่อเนื่อง
"ผม อยากจะขอโทษแฟนบอลบีอีซี เทโรฯ และก็แฟนบอลทั่วประเทศ แฟนบอลชัยนาท ที่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา จริง ๆ แล้ว เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พอผมได้กลับไปดูเทปแล้ว ก็เห็นว่ารุนแรงจริง ๆ ยอมรับครับ ยังไงก็ขอโอกาสแก้ไข ปรับปรุงตัว และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกนะครับ ยังไงขอโทษแฟนบอลจริง ๆ ครับ ขอบคุณมากครับ" ณภัทร กล่าว
ด้านสุรเชษฐ์ งามทิพย์ นักเตะหมายเลข 7 ทีมชัยนาท เอฟซี ที่เจอโทษแบน 2 นัด ปรับเงิน 8,000 บาท หลังจากไปสไลด์เปิดปุ่มเข้าใส่ คาเล็ด คารูบี้ ของบีอีซีเทโรศาสน ก็กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจังหวะที่ตนตัดสินใจผิดพลาด เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ทำให้เหตุการณ์มันดูรุนแรง แต่จริง ๆ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปสไลด์บอลที่ขาของอีกฝ่ายขนาดนั้น คือ ตนตั้งใจจะสไลด์ลูกบอล แต่เป็นจังหวะที่อีกฝ่ายปล่อยบอลออกไปก่อน แต่ตนไปช้า ภาพมันเลยดูรุนแรง ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหรืออะไร
"สำหรับ อีกสองเหตุการณ์ ผมตั้งใจเล่นบอลนะครับ สิ่งที่ผมออกมาพูดก็คืออยากจะขอโทษ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ แต่ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในสนาม คือตัดสินใจแค่แป๊บเดียว หัวต้องคิดไปในขณะนั้น สุดท้ายผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ" สุรเชษฐ์ กล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการเรื่องเล่าเช้านี้
จากกรณีที่สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยมีคำสั่งให้ลงโทษ นายสุรเชษฐ์ งามทิพย์ และ นายณภัทร ทัพเกตุแก้ว สองนักฟุตบอลจากสโมสรชัยนาท เอฟซี หรือ ชัยนาท fc หลังจากนักเตะทั้งสองคนเข้าเสียบสกัดบอล และเตะอัดใส่คู่ต่อสู้อย่างรุนแรง ในเกมที่ชัยนาท เอฟซี พบกับบีอีซี เทโรศาสน เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2555 จนทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือดตามมาในแวดวงลูกหนังนั้น ล่าสุด ทั้งสุรเชษฐ์ งามทิพย์ และ ณภัทร ทัพเกตุแก้ว ได้ออกมาขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น
โดย ณภัทร ทัพเกตุแก้ว นักเตะหมายเลข 15 ทีมชัยนาท เอฟซี ซึ่งถูกลงโทษแบน 3 นัด ปรับเงิน 30,000 บาท จากการที่ไปเตะอัดใส่ กรกช วิริยอุดมศิริ นักเตะของสโมสรบีอีซี เทโรศาสน กล่าวว่า ตนอยากจะออกมาขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเกมที่เตะเมื่อวันอาทิตย์ ที่ 20 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยหลังจากตนได้เห็นภาพจากคลิปข่าวก็เห็นว่าค่อนข้างจะรุนแรง ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในสถานการณ์นั้น มันเป็นจังหวะต่อเนื่อง
"ผม อยากจะขอโทษแฟนบอลบีอีซี เทโรฯ และก็แฟนบอลทั่วประเทศ แฟนบอลชัยนาท ที่ได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นมา จริง ๆ แล้ว เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น พอผมได้กลับไปดูเทปแล้ว ก็เห็นว่ารุนแรงจริง ๆ ยอมรับครับ ยังไงก็ขอโอกาสแก้ไข ปรับปรุงตัว และจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีกนะครับ ยังไงขอโทษแฟนบอลจริง ๆ ครับ ขอบคุณมากครับ" ณภัทร กล่าว
ด้านสุรเชษฐ์ งามทิพย์ นักเตะหมายเลข 7 ทีมชัยนาท เอฟซี ที่เจอโทษแบน 2 นัด ปรับเงิน 8,000 บาท หลังจากไปสไลด์เปิดปุ่มเข้าใส่ คาเล็ด คารูบี้ ของบีอีซีเทโรศาสน ก็กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นจังหวะที่ตนตัดสินใจผิดพลาด เมื่อตัดสินใจไปแล้ว ทำให้เหตุการณ์มันดูรุนแรง แต่จริง ๆ ตนไม่ได้ตั้งใจจะไปสไลด์บอลที่ขาของอีกฝ่ายขนาดนั้น คือ ตนตั้งใจจะสไลด์ลูกบอล แต่เป็นจังหวะที่อีกฝ่ายปล่อยบอลออกไปก่อน แต่ตนไปช้า ภาพมันเลยดูรุนแรง ยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บหรืออะไร
"สำหรับ อีกสองเหตุการณ์ ผมตั้งใจเล่นบอลนะครับ สิ่งที่ผมออกมาพูดก็คืออยากจะขอโทษ ผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายเพื่อนร่วมอาชีพ แต่ว่ามันเป็นเหตุการณ์ที่อยู่ในสนาม คือตัดสินใจแค่แป๊บเดียว หัวต้องคิดไปในขณะนั้น สุดท้ายผมต้องขอโทษจริง ๆ ครับ" สุรเชษฐ์ กล่าว
อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมจาก
รายการเรื่องเล่าเช้านี้