วิธีการรักษาโรคริดสีดวงทวาร รูปโรคริดสีดวง การรักษาโรคริดสีดวงทวารหนักโดยวิธีแพทย์แผนปัจจุบัน
สมุนไพรใช้ในการบำบัดโรคริดสีดวงทวาร
มีปัจจัยหลายๆ อย่างที่ส่งเสริมให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก ที่พบบ่อยๆ
คือภาวะท้องผูกเรื้อรัง ,ท้องเสียถ่ายอุจจาระบ่อยๆ, อุปนิสัยใช้เวลานั่งถ่ายอุจจาระนาน เช่น อ่านหนังสือขณะ
ถ่ายอุจจาระ , ชอบใช้ยาสวนอุจาระหรือยาระบายพร่ำเพรื่อเป็นประจำเกินความจำเป็น, หญิงตั้งครรภ์ทำให้
ถ่ายอุจจาระไม่สะดวก และเลือดดำในอุ้งเชิงกรานไหลกลับสู่ตับไม่สะดวกเนื่องจากความดันภายใน
ช่องท้องเพิ่มขึ้น, ภาวะโรคตับแข็งทำให้เลือดดำไหลเข้าตับไม่ได้ทำให้เส้นเลือดดำบริเวณทวารหนักโป่งพอง,
อายุสูงวัยขึ้นทำให้กล้ามเนื้อหย่อนยานลง , นอกจากนี้ยังพบว่าบุคคลที่มีประวัติในครอบครัว
เป็นริดสีดวงทวารหนักจะมีโอกาสเป็นโรคนี้สูงกว่าปกติ ฯลฯ
ปัจจัยที่ทำให้เกิดริดสีดวงทวารหนัก
ริดสีดวงทวารหนักเป็นโรคที่ติดอันดับโรคที่พบมากของมนุษย์ โดยไม่เลือกเพศ , วัย หรือเชื้อชาติ
อีกทั้งไม่ใช่โรคใหม่แปลก เพราะพบมานานนับพันปีมาแล้ว ประกอบกับอยู่ในตำแหน่งเร้นลับน่าอับอาย
จึงนิยมปกติปิดไว้เป็นความลับส่วนตัว ไม่ก็ขอคำปรึกษาจากคนอื่น ซึ่งมักเป็นคนใกล้ชิด ไม่ใช่แพทย์ที่มี
ความเชี่ยวชาญต่อโรคนั้น จึงทำให้เกิดวิธีการรักษาแปลกๆหรือผลการรักษาที่ไม่เป็นไปตามความคาดหมาย
คนส่วนใหญ่ว่าไม่ทราบว่าตนเองเป็นริดสีดวงทวาร จนกระทั่งมีอาการอักเสบ เนื่องจากรับประทานอาหารแสลง
กับโรคในปริมาณมากกว่าปกติ เช่น ข้าวเหนียว , เนื้อวัว, อาหารทะเล , ของหมักดอง ,เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
( สุรา/เบียร์ ) เป็นต้น ทำให้ระบบการขับถ่ายผิดปกติซึ่งแต่ละรายมีอาการมากน้อยแตกต่างกันไป
ซึ่งอาการระยะแรก จะเป็นติ่ง ขนาดเท่ากับเมล็ดถั่วเขียวมีเลือดสดๆ ออกมา ปวดตุบๆ บริเวณปากทวาร
( หูรูดทวาร ) หลังจากท้องผูก ผู้ป่วยบางรายพอรู้ตนเองเป็นริดสีดวงก็เปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภค
ตามคำแนะนำของหมอ อาการจะดีขึ้น โดยหัวริดสีดวงจะไม่ขยายขนาด จนในที่สุดก็ยุ่ยฝ่อไปเอง
ซึ่งอาจใช้เวลาอยู่บ้างซึ่งอาจจะหลายเดือนหรือเป็นปีๆ
หรืออาจใช้สมุนไพรในการบำบัด เพราะช่วยลดกรดแก๊สในกระเพาะทำให้โอกาสเส้นเลือดโป่งพอง
บริเวณรอยฉีกของหูรูดทวารน้อยลง ทำให้อาการที่เป็นอยู่ดีขึ้น
แหล่งที่มา : aekmongkol.exteen.com