โรคริดสีดวง เกิดจาก อาการของโรคริดสีดวง โรคริดสีดวงเกิดจากอะไร
| ริดสีดวง มีอาการอย่างไร | |
|---|---|
| |
![]() | |
| ริดสีดวงจะมีอาการสำคัญก็คือการถ่ายอุจจาระออกมาเป็นเลือดสดๆทั้งนี้เนื่องจากการเบ่งถ่ายแรงๆ | |
![]() | |
| หัวริดสีดวงทวาร (กลุ่มหลอดเลือดดำขอด) จะปริแตกออกอาการส่วนมากจะมีอาการเลือดออกทางทวารหนัก | |
![]() | |
| เป็นเลือดแดงสด เกิดขึ้นขณะถ่ายอุจจาระ อาจสังเกตมีเลือดเปื้อนกระดาษชำระ หรือปนมากับอุจจาระ | |
![]() | |
| หรือมีเลือดไหลออกเป็นหยดโดยไม่รู้สีกเจ็บปวดแต่อย่างไร บางคนอาจรู้สึกเจ็บที่ทวารหนัก และถ่ายอุจจาระลำบาก | |
![]() | |
| หรืออาจมีอาการคันก้น ถ้าริดสีดวงอักเสบ หรือหลุดออกมาข้างนอก อาจทำให้รู้สึกปวดรุนแรง จนถึงกับนั่งยืน | |
![]() | |
| หรือเดินไม่สะดวก และคลำได้ก้อนเนื้อนุ่มๆ สีคล้ำๆ ที่ปากทวารหนัก ถ้ามีเลือดออกมากหรือเรื้อรัง อาจมีอาการซีดได้ | |
![]() | |
| การรักษาโรคริดสีดวงมีดังนี้ค่ะ คือ | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| เช่น ยาระบายแมกนีเซีย , ดีเกลือ , อีแอลพี หรือสารเพิ่มกากใย อย่ายืนนาน ๆ หรือนั่งเบ่งถ่ายนาน ๆ | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| 15-30 นาที และใช้ยาเหน็บริดสีดวงทวาร เช่น อะนูซอล( Anusal), เชอริพร็อกต์ ( Scheriproct), พร็อกโตซีดิล | |
![]() | |
| (Proctosedyl) เหน็บวันละ 2-3 ครั้ง (เช้า ก่อนนอน และหลังถ่ายอุจจาระ) จนอาการบรรเทา ใช้เวลาประมาณ 10 วัน | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| อาจต้องใช้เครื่องส่องตรวจทวารหนัก ( proctoscope) ถ้าหากสงสัยเป็นมะเร็งของลำไส้ใหญ่ อาจต้องเอกซเรย์ | |
![]() | |
| ลำไส้ใหญ่ด้วยการสวน แป้งแบเรียม (Barium enema) หรือใช้เครื่องส่องตรวจลำไส้ใหญ่ถ้าเป็นริดสีดวงทวาร | |
![]() | |
| โดย ไม่มีสาเหตุที่ร้ายแรง ก็มักจะให้การรักษาดังได้กล่าวข้างต้น ถ้าเป็นมากอาจรักษาด้วย | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| ประมาณ 3-5 ครั้ง ช่วยให้หายขาดได้ 60% ส่วนอีก 40% อาจกำเริบได้ใหม่ หรือ | |
![]() | |
| | |
![]() | |
| ( laser photocoagulation) ถ้าเป็นมาก หรือมีภาวะแทรกซ้อน อาจต้องผ่าตัด | |
![]() | |
![]() | |
| การป้องกันริดสีดวง ด้วยการอาหารที่มีไฟเบอร์เป็นประจำ เป็นทางเลือก ทีง่าย และปลอดภัยทีสุดค่ะ | |
![]() | |
| ไฟโตไฟเบอร์ สารสกัดจากใยอาหาร ผลิตจากธรรมชาติ 100% รับประทานง่าย ราคาไม่แพง | |
![]() | |
| สามารถใช้ทดแทนการขาดไฟเบอร์ในแต่ละวัน |
แหล่งที่มา : thai4health.com

