โรค หอบหืด asthma รักษาหอบหืด สถิติโรคหอบหืดในประเทศไทย
โรคหอบหืด (Asthma)
ที่มาของรูป https://www.712designs.com/images/illustrations/asthma.jpg
โรคหอบหืด (Asthma)
ซึ่งคำว่า "Asthma" มาจากภาษากรีก แปลว่า หายใจแรง
อยู่ในกลุ่มโรคที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
โรคหอบหืด เป็นโรคภูมิแพ้ชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะตีบตัวของหลอดลม ทำให้มีอาการ หายใจหอบเหนื่อยเป็น ๆ หาย ๆ เรื้อรัง พบ่อยในคนทุกวัย มักมีอาการครั้งแรก ในวัยเด็กหรือวัยหนุ่มสาว แต่ก็อาจเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในผู้สูงอายุก็ได้ โรคนี้ในจะพบได้ประมาณ 4-6% ของคนไทย
ผู้ค้นพบ
สาเหตุที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้แบ่งได้เป็นหัวข้อดังนี้
- สารภูมิแพ้จากสัตว์เลี้ยงเช่น สุนัข แมว หนู นก สารที่ทำให้เกิดภูมิแพ้ได้แก่ รังแค ขน ปัสสาวะ อุจาระ น้ำลาย
- ไรฝุ่นมากในที่มีความชื้นสูง พบร่วมกับฝุ่นที่มาจากเสื่อ หมอน พรม ผ้าคลุมเตียง เสื้อผ้า ตุ๊กตา
- แมลงเป็นสาเหตุที่ทำให้หอบหืดเป็นมากขึ้น น้ำลาย ปัสสาวะ อุจาระ ผิวหนังของแมลงสาบเป็นสารภูมิแพ้สำหรับบางคน
- ผู้ป่วยที่แพ้อาหารนอกจากทำให้เกิดผื่น ปวดท้อง ท้องเสียยังทำให้เกิดอาการหายใจลำบาก
- รามีมากในที่ชื้น และอากาศถ่ายเทไม่ดี เช่นห้องน้ำ ห้องเก็บของ
- สารเคมีที่ใช้ในบ้านอาจจะกระตุ้นให้อาการหอบหืดเป็นมากขึ้น
- เกิดจากงานที่ทำ เช่น ทำงานในโรงงาน
- เชื้อราสามารถทำให้เกิดหอบหืด โดยเฉพาะสปอร์ของเชื้อราสามารถลอยไปในอากาศ เมื่อคนที่เป็นโรคหอบหืดสูดดมเข้าไป
จะเกิดอาการ จาม คัดจมูก แน่นหน้าอก ไอ จนกระทั่งหอบหืด
- เกสรดอกไม้ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคภูมิแพ้ได้บ่อย เกสรอาจจะมาจากดอกไม้ หญ้า เมื่อดูดเข้าไปก็จะเกิดอาการหอบหืด
- อากาศเย็นผู้ที่แพ้อากาศเย็น หรือการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิอาจจะเกิดอาการหอบได้
- เกิดจากบุหรี่ ควันไฟ กลิ่นสี กลิ่นน้ำหอม กลิ่นสารเคมี เตาแก๊ส
- เกิดจากเบียร์ ของดอง ผลไม้แห้งเพราะอาจทำให้เกิดหอบหืดได้
อาการของโรค
- หายใจตื้น หรือหายใจสั้น และหายใจเสียงดัง (หายใจหอบ )
- ไอและหอบกลางคืน
- แน่นหน้าอก
- เหนื่อยง่ายกว่าปกติ
- อ่อนเพลีย
- น้ำมูกไหล จาม ไอ
- ปวดศีรษะ
- มีไข้
- ตาลาย
- สีใบหน้าเปลี่ยนไป
-ขอบตาดำ
การรักษาหอบหืดในปัจจุบันได้เปลี่ยนจากเดิมดังนี้
1.เมื่อสมัยก่อนการรักษาหอบหืดเป็นเพียงให้ยาขยายหลอดลม เท่านั้นแต่ปัจจุบันได้มีความเข้าใจกลไกการเกิดโรคหอบหืดดีขึ้นว่าโรคหอบหืดเป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบของหลอดลม ทำให้เยื่อบุหลอดลมหนาตัว และมีเสมหะอุดหลอดลมปัจจุบันการรักษาโรคหอบหืด
จะอาศัยยาที่ลดการอักเสบเป็นหลักโดยอาศัยยาขยายหลอดลมเป็นตัวเสริม ยาลดการอักเสบจะป้องกันไม่ให้หลอดลมบีบตัวลดการอักเสบของหลอดลมจึงป้องกันหอบหืดได้
2.นอกจากจะเปลี่ยนจากการใช้ยาขยายหลอดลมเป็นยาลดการอักเสบแล้วยังมีเครื่องมือ
เพื่อเป็นการวัดเพื่อเตือนว่าแผนการรักษายังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย และเตือนว่าโรคกำลังกำเริบต้องรีบให้การรักษา
ที่มาของรูป https://webboard.mthai.com/upload_images_new/2006-01-09/185018.gif
3.ผู้ป่วยควรปรึกษากับแพทย์ถึงแผนการรักษา โดยการวางแผนการรักษาแพทย์ต้องอาศัยความร่วมมือจากผู้ป่วยเป็นอันมาก แพทย์อยากทรายว่าระหว่างที่อยู่บ้านอาการหอบหืดเป็นอย่างไรบ้างโดยผู้ป่วยควรมีสมุดประจำตัว และคอยบันทึกความรุนแรงของโรค เพื่อไปพบแพทย์ให้นำสมุดไปพบแพทย์ด้วย
วิธีป้องกัน
- เด็กควรกินปลาที่มีไขมันมากเป็นประจำ เช่น ปลาค็อด จะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นหอบหืด
- รับประทานอาหารที่มี แมกนีเซียมสูง ได้แก่ เมล็ดทานตะวัน
- ค้นหาว่าแพ้อะไร และพยายามหลีกเลี่ยง
- งดอาหารที่กระตุ้นอาการหอบหืด ขึ้นอยู่กับแต่ละคน เช่น อาหารที่ใส่สารกันบูดเช่น เบนโซเอท ซัลไฟท์
- งดอาหารที่ใส่สีสังเคราะห์ เช่น tartrazine , brilliant blue
- งดนมวัว ธัญพืช ไข่ ปลา ถั่วลิสง
- รับประทานยาและออกกำลังกายตามที่แพทย์แนะนำอย่างสม่ำเสมอ
สะท้อนความคิด
โรคหอบหืดอาจเป็นโรคที่ไกลตัวสำหรับใครหลายๆคน แต่หากเกิดขึ้นกับผู้ใดแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ากลัวเลยที่เดียวถ้าหากบุคคลนั้นไม่ใส่ใจรักษา เพราะเป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบหายใจซึ่งเราทุกๆคนนั้นจำเป็นที่จะต้องหายใจ เป็นโรคที่รักษาได้หายยากมากๆ แทบจะไม่มีโอกาสเลยก็ว่าได้ เมื่อเกิดอาการกำเริบก็ต้องรีบรักษาแก้ไขไม่ปล่อยไว้ เพราะอาจถึงแก่ชีวิตได้ ส่วนใครที่ยังไม่เป็นก็ต้องหลีกเลี่ยง ป้องกันตนเองให้ห่างไกล เพราะถ้าเป็นแล้วก็จะลำบากและเกิดโรคแทรกซ้อนได้ง่ายๆ
ส่วนเหตุผลที่เลือกทำเรื่องโรคหอบหืดขึ้นก็เพราะ ส่วนตัวเองมีโรคนี้เป็นโรคประจำตัว เป็นเรื่องใกล้ตัว และไม่อยากให้มีใครเป็นเหมือนกันอีกไม่อยากให้เสียโอกาสทำกิจกรรมต่างๆซึ่งบางทีผู้ทีป่วยเป็นโรคนี้ก็ไม่สามารถทำได้ อยากให้ทุกๆคนมีสุขภาพแข็งแรง และมีความสุขในการใช้ชีวิตตลอดไป
แหล่งที่มา : thaigoodview.com