ยาแก้หอบหืด รักษาโรคหอบหืดที่ไหนดี อาหารเสริมแก้หอบหืด
โรคหืด….โรคร้ายที่รักษาและควบคุมได้
โรคหืดคืออะไร ?
โรคหืดเป็นภาวะที่มีการอักเสบเรื้อรังของทางเดินหายใจการอักเสบดักล่าวทำให้
เยื่อบุหลอดลมบวมและกล้ามเนื้อผนังหลอดลมหดตัวเป็นผลให้เกิหลอดลมตีบผู้
ป่วยโรคหืดจึงมีอาการเหนื่อย,ไอ,แน่นหน้าอกและหายใจมีเสียงหวีดโดยอาการดัง
กล่าวมักรุนแรงมากที่สุดในช่วงกลางคืนหรือเช้ามืด
โรคหืดเกิดจากอะไร
ยังไม่มีการค้นพบสาเหตุที่แท้จริงของโรคหืดอย่างไรก็ตามการอักเสบของทาง
เดินหายใจในโรคหืดเกิดขึ้นจากปฏิกิริยาอันซับซ้อนและนำไปสู่ภาวะทางเดิน
หายใจตอบสนองไวต่อสิ่งกระตุ้นต่างๆมากกว่าปกติในบุคคลที่มีพื้นฐานภาภูมิแพ้
สิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ได้แก่ ไรฝุ่น, ฝุ่นบ้าน, ควันบุหรี่, มลภาวะ, การติดเชื้อไวรัสบาง
ชนิดในทางเดินหายใจ, ละอองเกสรพืชบางชนิด, ขนสัตว์, แมลงสาบ, เชื้อรา, ยา
บางชนิดเช่น แอสไพริน, สีผสมอาหาร, สารกันบูดในอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น
โรคหืดพบได้มากน้อยเพียงใด ?
ข้อมูลจากทั่วโลกบ่งชี้ว่าโรคหอบหืดพบได้บ่อยขึ้น ประเทศญี่ปุ่นมีความชุกของ
โรคหืดมากถึงร้อยละ 13 ของประชากรสิงค์โปรมีน้อยกว่าร้อยละ 10 ฟิลิปปินส์
และฮ่องกงมีร้อยละ 12.4 ในประเทศไทยจากข้อมูลการสำรวจต่าง ๆ พบโรคหืด
ถึงร้อยละ 10-15 ของประชากร โรคหืดจึงก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมาก ผู้ป่วย
เด็กอาจต้องขาดเรียนบ่อย ๆ, ลดความสามารถในการออกกำลังกาย, เจริญ
เติบโตน้อยกว่าปกติ ในผู้ใหญ่ทำให้ขาดงานบ่อย ๆ, คุณภาพชีวิตไม่ดีจากการจับ
หืดบ่อย ๆ นอกจากนี้ในรายที่รุนแรงและไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องทันท่วงทีอาจ
ทำให้หัวใจวายหรือเสียชีวิตได้
โรคหืดรักษาอย่างไร ?
การรักษาโรคหืดมีเป้าหมายคือ ควบคุมอาการทั้งปวงและทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพ
ชีวิตที่ดี สามารถดำเนินกิจวัตรได้เป็นปกติ ไม่ต้องมาห้องฉุกเฉินเพื่อรักษาการจับ
หืดฉับพลันรุนแรงบ่อย ๆ และป้องกันไม่ให้ต้องเสียชีวิตจากโรคนี้ ผู้ป่วยควรใช้
ชีวิตอย่างถูกสุขลักษณะ ไม่สูบบุหรี่เด็ดขาด ออกกำลังกายอย่างเหมาะสม หลีก
เลี่ยงสิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ที่ทำให้หลอดลมอักเสบ (ดังที่กล่าวมาข้างต้น) อย่างไร
ก็ตามผู้ป่วยแต่ละรายมักมีสิ่งกระตุ้นให้จับหืดหลายอยาง (ดังที่เรียกกันว่า แพ้สิ่ง
กระตุ้นหลายอย่าง) นอกจากนี้สิ่งกระตุ้นต่าง ๆ ดังกล่าวมาแล้วก็หลีกเลี่ยงได้ยาก
ในชีวิตประจำวันดังนั้นการใช้ยาเพื่อควบคุมและรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่ง
สำคัญอย่างยิ่ง
มียาอะไรที่ใช้รักษาโรคหืดได้บ้าง ?
เป็นที่น่ายินดีว่าในปัจจุบันยารักษาโรคหืดมีประสิทธิภาพดีมาก ผู้ป่วยที่ใช้ยาอย่าง
ถูกต้องและสม่ำเสมอสามารถควบคุมอาการทั้งปวงและมีคุณภาพชีวิตที่ดีเทียบ
เท่ากับผู้ที่ไม่เป็นโรคหืดได้ ยารักษาโรคหืดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่
ประเภทที่หนึ่งคือ “ยาควบคุม (หรือป้องกัน) โรคหืด” ซึ่งควบคุมและป้องกันไม่
ให้เกิดอาการหอบหืดโดยออกฤทธิ์ในการลดและควบคุมการอักเสบในหลอดลม
ซึ่งมีผลลดความไวผิดปกติของทางเดินหายใจต่อสิ่งกระตุ้น ยาประเภทที่สอง คือ
“ยาบรรเทา (หรือกอบกู้) อาการหอบเหนื่อย” ซึ่งมีคุณสมบัติในการขยาย
หลอดลมลดการตีบตัวของหลอดลมในระหว่างที่มีการจับหืดเฉลียบพลัน ยาทั้ง
สองกลุ่มนี้มีความสำคัญในการรักษาโรคหืด อย่างไรก็ตาม หากผู้ป่วยใช้ยา
ประเภทควบคุมโรคหืดอย่างถูกต้องและสม่ำเสมอทุกวันแล้ว หลอดลมจะกลับสู่
สภาพที่ไม่ไวผิดปกติต่อสิ่งกระตุ้นทางเดินหายใจ จะลดโอกาสเกิดหลอดลมตีบ
เฉียบพลันไปได้มาก จนทำให้ลดความจำเป็นในการใช้ยาขยายหลอดลมบรรเทา
อาการไปได้มากรูปแบบของยารักษาโรคหืดได้รับการพัฒนาไปอย่างมาก จากเดิม
ที่เป็นยารับประทานซึ่งมักจะมีผลข้างเคียง เช่น มือสั่น, ใจสั่น, หัวใจเต้นผิด
จังหวะ,ปวดศีรษะ มาเป็นยาสูดพ่นเข้าไปยังหลอดลมโดยตรง จึงทำให้ยาเข้าถึง
และออกฤทธิ์โดยตรงที่หลอดลม และปราศจากผลข้างเคียงรุนแรงต่อระบบอื่นใน
ร่างกาย
อย่างไรก็ตามผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการอธิบายและฝึกวิธีการใช้ยาสูดพ่นอย่างถูก
ต้องจึงได้รับประโยชน์อย่างแท้จริงในการรักษา
กล่าวโดยสรุปหลักการในการรักษาโรคหืดในสหัสวรรษปัจจุบันคือ การอธิบาย
ถึงโรคหืดและวิธีการใช้ยาให้ผู้ป่วยได้เข้าใจอย่างถูกต้อง การหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้น
ทางเดินหายใจพร้อมไปกับการใช้ยาควบคุมป้องกันโรคหืดอย่างสม่ำเสมอ โดยมี
เป้าหมายคือ ทำให้ผู้ป่วยมีสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดีเป็นปกติสุข
แหล่งที่มา : oknation.net