สมัคร สุนทรเวช นายสมัคร สุนทรเวช ประวัติสมัคร สุนทรเวช ประวัตินายสมัคร สุนทรเวช ภาพสมัคร
ประวัตินายสมัคร สุนทรเวช
นายสมัคร สุนทรเวช เป็นบุตรคนที่ 4 ในจำนวน 6 คน ของเสวกเอกพระยาบำรุงราชบริพาร (เสมียน สุนทรเวช) กับ คุณหญิงบำรุงราชบริพาร เป็นหลานลุงของ มหาเสวกตรี พระยาแพทย์พงศาวิสุทธาธิบดี (สุ่น สุนทรเวช) นายแพทย์ประจำพระองค์พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และเป็นหลานตาของมหาเสวกตรี พระยาอนุศาสน์จิตรกร (จันทร์ จิตรกร) จิตรกรประจำสำนัก
นายสมัคร สุนทรเวช เกิดเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2578 ที่บ้านหน้าวังบางขุนพรหม ถนนสามเสน กรุงเทพมหานคร
สมรสกับคุณหญิงสุรัตน์ สุนทรเวช และมีบุตรสาวฝาแฝด คือกานดาภาและกาญจนากร
ประวัติการศึกษา
ก่อนประถม โรงเรียนสตรีบางขุนพรหม
ระดับประถม โรงเรียนเทเวศน์ศึกษา
ระดับมัธยม โรงเรียนเซนต์คาเบรียล
ระดับอาชีวะ โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์
ระดับอุดมศึกษา คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
นอกจากนี้ ยังศึกษาเพิ่มเติม คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, BRYANMT & STRATION INSTITUTE ชิคาโก สหรัฐอเมริกา
ประกาศนียบัตรและปริญญาบัตร - ประกาศนียบัตร A.C.C. (โรงเรียนอัสสัมชัญพาณิชย์) นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ประกาศนียบัตรวิชามัคคุเทศก์ (คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) Dip. in Accounting and Business Administration
ประวัติการทำงานด้านการเมือง
ได้ประกอบอาชีพตามที่ได้ศึกษาในตำแหน่งต่างๆ หลายบริษัท สุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2514 เป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ สถานเอกอัครราชทูตอิสราเอล ประจำประเทศไทย จนถึงปี 2516 ได้ลาออกมาทำงานการเมือง นายสมัครเริ่มเข้าสู่แวดวงการเมือง ด้วยการเขียนบทความแสดงความคิดในหนังสือพิมพ์หลายฉบับ ตั้งแต่ปี 2500 และเข้าเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เมื่อปี พ.ศ. 2511
เริ่มสมัครรับเลือกตั้งครั้งแรก เป็นสมาชิกสภาเทศบาลกรุงเทพมหานครในปี พ.ศ. 2514 จากนั้นในปี 2518 ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และได้รับการไว้วางใจจากประชาชนทุกครั้งที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจนถึงปี 2539 และได้ดำรงตำแหน่งสำคัญทางการเมืองในตำแหน่งรัฐมนตรีหลายกระทรวง รองนายกรัฐมนตรี และตำแหน่งสูงสุดคือนายกรัฐมนตรี หลังวางมือทางการเมืองในระดับชาติ นายสมัคร สุนทรเวช ได้หวนกลับมาทำงานการเมืองอีกครั้ง ด้วยการลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อปี 2543 ได้รับคะแนนเสียงอย่างท่วมท้นกว่า 1 ล้านคะแนน
เมื่อพ้นวาระการดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ใช้ชีวิตด้วยการเป็นพิธีกรรายการอาหาร ชิมไปบ่นไป จากนั้นได้รับการทาบทามให้ดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชาชน นำสมาชิกลงเลือกตั้งและได้รับคะแนนเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 มกราคม 2551 เป็นนายกรัฐมนครีคนที่ 25 ของไทย
ต่อมาเมื่อวันที่ 9 กันยายน 2551 ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีต้องสิ้นสุดลง เมื่อตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ได้วินิจฉัยความสิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรีจากการเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์รายการชิมไปบ่อนไปและยกโขยง 6 โมงเช้า ด้วยคะแนน 9 ต่อ 0 เป็นอันจบชีวิตการเมืองเมื่ออายุได้ 73 ปี
อาการป่วยของนายสมัคร สุนทรเวช
นายสมัคร สุนทรเวช นายกรัฐมนตรี คนที่ 25 ของประเทศไทย เข้ารักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ หลังจากได้เดินทางไปรักษาโรคมะเร็งที่ขั้วตับ ที่ลอส แองเจลิส ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และกลับมาเมืองไทย วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2552
โดยเมื่อนายสมัคร เดินทางกลับจากสหรัฐอเมริกา ก็พักฟื้นที่บ้านพักมาตลอดและไม่ได้ปรากฏตัวต่อสาธารณชนเลย และไม่มีข่าวความเคลื่อนไหว หรือการรักษาตัวแต่อย่างใด ก่อนเข้ารักษาตัวโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ในเวลาต่อมา
จนกระทั่งเวลา 08.48 ของวันที่ 24 พฤศจิกายน 2552 นายสมัคร สุนทรเวช ได้ถึงแก่อสัญกรรมอย่างสงบด้วยอายุได้ 74 ปี ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์
นายสมัคร สุนทรเวช ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2517 คือ ตริตาภรณ์มงกุฏไทย และครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ. 2545 คือ ทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษ
นายสมัคร สุนทรเวช เป็นผู้ที่มีทักษะด้านการพูดเป็นอย่างยิ่ง สามารถอธิบายเรื่องเข้าใจยาก ให้เป็นเรื่องที่เข้าใจง่าย ลีลาการพูดที่เร้าใจ การโต้ตอบอย่างมีไหวพริบปฏิภาณ มีความสามารถในการจดจำตัวเลขได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้ยังมีความสามารถด้านอื่นๆ อีก เช่น การประกอบอาหาร การร้องเพลงที่ไพเราะ เป็นต้น
การเสียชีวิตของนายสมัคร ถือว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ เพราะนายสมัคร ได้ทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศชาติหลายประการ
แหล่งที่มา : vcharkarn.com , มติชนออนไลน์และสำนักข่าวแห่งชาติ