ลักษณะโรคสะเก็ดเงิน รักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยสมุนไพร โรคสะเก็ดเงิน อาหาร

ลักษณะโรคสะเก็ดเงิน รักษาโรคสะเก็ดเงินด้วยสมุนไพร โรคสะเก็ดเงิน อาหาร

อาการของโรคสะเก็ดเงิน

ผู้ป่วยสะเก็ดเงินจะมีการแบ่งตัวของเซลล์ผิวหนังมากกว่าปกติ 10 เท่า และมีการขยายตัวของหลอดเลือดแดง ทำให้ผื่นมีลักษณะแดง ผิวหนังชั้นนอกสุด จะเป็นชั้นผิวหนังที่ลอกและแตกเป็นขุยสะเก็ดสีเงิน ลักษณะของผื่นสะเก็ดเงินจะมีลักษณะแตกต่างกัน และแบ่งได้เป็นประเภท (ค่อนข้างหลากหลายและรูปบางรูปน่ากลัวค่ะ ดังนั้นจะนำมาให้ดูเพียงบางส่วนในบทความนี้) รวมทั้งในคนไข้บางคนอาจจะมีอาการผิดปกติของเล็บร่วมด้วย เช่น เล็บลอก เล็บเป็นหลุม เป็นต้น

ในบางกรณีคนไข้ที่มีปัญหาสะเก็ดเงินอาจมีอาการคล้ายกับรูมาตอยด์ร่วมด้วย กล่าวคือ มีอาการปวดตามข้อเนื่องจากการอักเสบที่จุดต่างๆในร่างกาย เช่น ข้อนิ้ว ข้อมือ ข้อศอก ข้อเข่า แต่ผลการตรวจจะไม่สามารถบ่งชี้ว่าเป็นรูมาตอยด์ได้

บริเวณที่เกิดสะเก็ดเงิน

เกิดได้ทั้งแบบทั่วทั้งตัวและแบบเฉพาะที่ กว่า 80% ของผู้ป่วยสะเก็ดเงินเกิดผื่นแบบเฉพาะที่ไม่ว่าจะเป็น ศีรษะ ข้อศอก พับใน หลัง แขน เล็บ (เกิดได้เกือบทุกที่)

คุณภาพชีวิตของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน

ผู้ป่วยที่มีอาการสะเก็ดเงินแบบรุนแรง จะมีผลเสียต่อสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิต นำไปสู่อาการป่วยชนิดอื่น เช่น โรคซึมเศร้า โรคกดดัน หรือโรคเบาหวาน ผู้ป่วยสะเก็ดเงินย่อมประสบปัญหาแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและตำแหน่งที่เป็นสะเก็ดเงิน อาการคันและปวดแสบปวดร้อนย่อมกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น เดิน นอน นั่ง หรือถ้าเป็นที่มือก็ลำบากที่จะทำงานหรือเล่นกีฬาร่วมกับคนอื่น ถ้าเป็นที่ศีรษะก็จะเหมือนคนที่มีรังแคตลอดเวลา ซึ่งที่ได้กล่าวมาทั้งหมดนี้เป็นปัญหามากในการเข้าสังคมกับผู้อื่นของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน หากปรับตัวไม่ได้ก็อาจจะเกิดปัญหาอาการซึมเศร้าและแยกตัวจากสังคม อันเป็นปัญหาสุขภาพจิตที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง

การรักษาสะเก็ดเงิน

แนวทางในการรักษาสะเก็ดเงินมีดังนี้

• ยาทา เป็นครีม น้ำมัน หรือขี้ผึ้งที่ใช้ทาเพื่อลดอาการของสะเก็ดเงิน เช่น ผิวแห้ง ลดการลอกหรือแตกเป็นขุยของผิว รวมถึงลดการอักเสบด้วย
• การใช้แสง UV เรียกได้อีกอย่างหนึ่งว่า การฉายแสงจำลองแสงอาทิตย์ ซึ่งจะช่วยให้อาการสะเก็ดเงินดีขึ้นได้ (ไม่ทุกคน)
• ยารับประทานและยาฉีด หากการรักษาด้วยยาทาและการใช้แสง UV ไม่ได้ผลเป็นที่น่าพอใจ ทางเลือกต่อมา คือ วิธีการใช้ยากินและ/หรือยาฉีด ซึ่งเป็นวิธีการที่มีผลข้างเคียงต่อร่างกายค่อนข้างมาก ผู้ป่วยจำเป็นต้องตรวจเลือดและตับเป็นประจำเพื่อคอยควบคุมไม่ให้เกิดพิษจากการรักษาในร่างกายจนเป็นอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นจากสถิติพบว่า ผู้ป่วยสะเก็ดเงินส่วนใหญ่ที่เคยรักษาด้วยวิธีนี้แล้ว มักจะมีอาการสะเก็ดเงินเกิดขึ้นในภายหลังอีก

ยาหมอเส็งกับสะเก็ดเงิน

สาเหตุของโรคสะเก็ดเงินจากพันธุกรรมเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันเป็นสิ่งที่เรายังพอแก้ไขได้

ยาหมอเส็ง มีส่วนช่วยในการปรับสมดุลและเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ หลายกรณีของผู้ป่วยสะเก็ดเงินที่มีอาการดีขึ้นและสะเก็ดเงินสงบลงได้

• ช่วยลดการอักเสบบริเวณที่เกิดโรค
• ช่วยให้แผลสะเก็ดเงินแห้งเร็ว
• ช่วยสร้างผิวใหม่ให้เกิดขึ้น
• ควบคุมสะเก็ดเงินให้สงบได้

***ข้อดีของการรักษาด้วยยาหมอเส็ง คือ เราไม่ต้องกังวลเรื่องผลข้างเคียงหรือความเป็นพิษที่จะเกิดขึ้นในร่างกายจากการใช้ยา และไม่จำเป็นต้องใช้ครีม เจล หรือขี้ผึ้งทาบริเวณที่เป็นโรคหรือผื่นสะเก็ดเงิน เพียงแต่ทานยาสมุนไพรหมอเส็งเท่านั้น

ประสบการณ์ผู้ใช้ยาหมอเส็งกับสะเก็ดเงิน

คุณบัวผัน เอมจิ๋ว อายุ 68 ปี
จ.ปทุมธานี

“เมื่อต้นปี 2547 เริ่มเป็นความดันสูงและเป็นเบาหวาน พยายามรักษามาหลายวิธีแต่ก็ไม่ดีขึ้น จนวันหนึ่งเริ่มมีอาการคันตามแขนเป็นเม็ดตุ่มใสๆไปหาหมอได้ยามาทาก็ดีขึ้น พอยาหมดก็เป็นอีกเป็นๆหายๆอยู่แบบนี้ เคยไปซื้อยาหม้อมาต้มกินก็ไม่ดีขึ้น ลูกๆก็หายาชนิดต่างๆมาให้ลองทาน ยิ่งกินอาการก็ยิ่งเป็นเพิ่ม เคยไปตรวจรักษาที่สถาบันโรคผิวหนัง หมอบอกว่าเป็นอาการของโรคสะเก็ดเงิน ไม่มีโอกาสหายแล้วรู้สึกหมดกำลังใจ

จนกระทั่งเมื่อ ก.ค. 2549 น้องชายเห็นคุณรพีพรรณหิ้วยาของคุณหมอเส็ง ก็สอบถามดูและพาคุณรพีพรรณมาพบยายที่บ้าน คุณรพีพรรณเลยชวนมาพบคุณหมอเส็ง เพื่อตรวจอาการคุณหมอเส็งบอกว่าให้ทานยาบำรุงโลหิต พอทานยาได้ 2 เดือนก็เริ่มทานขมิ้นชันหมอเส็งร่วมด้วย หลังจากนั้นอาการคันและปวดแสบปวดร้อนก็เริ่มดีขึ้น พอทานได้ครบ 5 เดือน อาการและแผลก็หายไปจนเกือบเป็นปกติและยังทานต่อเนื่องไม่หยุด จนตอนนี้แผลทั้งตัวหายหมดแล้ว และร่างกายก็แข็งแรงขึ้น รวมถึงอาการเบาหวาน ความดันอีกด้วย”

ข้อควรปฏิบัติของผู้ป่วยสะเก็ดเงิน

1. อย่าเครียด ความเครียดทำให้ภูมิคุ้มกันต่ำลง และอาจทำให้อาการสะเก็ดเงินกำเริบรุนแรงได้
2. งดดื่มเหล้าสูบบุหรี่ สิ่งเสพติดพวกนี้ทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายอ่อนแอลง และส่งผลให้โรคสะเก็ดเงินแสดงอาการได้ง่ายขึ้น
3. หลีกเลียงปัจจัยที่ทำให้สะเก็ดเงินกำเริบ ผู้ป่วยสะเก็ดเงินเกือบทุกคนจะทราบดีว่า อะไรที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอาการกำเริบได้ พยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านั้นให้ได้
4. ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ (ไม่ว่าจะเป็นแผนไหน) และเปิดอกคุยกับแพทย์เจ้าของไข้อย่างเต็มที่ เพื่อให้แพทย์ได้ข้อมูลจากเรามากที่สุด นำไปสู่การรักษาที่มีประสิทธิภาพ

สรุป

ยังไม่มียาตัวใดในโลกที่สามารถรักษาโรคสะเก็ดเงินได้หายขาด ผู้ป่วยควรทำความเข้าใจและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้อาการกำเริบ อีกทั้งยังต้องรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิตให้ดี เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี ต่อให้สะเก็ดเงินจะร้ายแรงแค่ไหน ถ้าเราดูแลตัวเองดีสะเก็ดเงินก็ไม่มารบกวนเราเป็นแน่แท้

ในส่วนของญาติพี่น้องก็ต้องทำความเข้าใจ หากอาการสะเก็ดเงินกำเริบ อย่าไปรังเกียจผู้ป่วย สิ่งที่ควรทำคือการให้กำลังใจและการช่วยกันดูแลคนไข้จนอาการสะเก็ดเงินสงบลงได้

แหล่งที่มา : morsengbrand.com